รวบ1 ในแก๊งตบทรัพย์ หนีคดี หลังอ้างตัวเป็นตำรวจ-ยัดยาผู้เสียหาย กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.สมเดช สาระบรรณ์, พ.ต.ท.อภิชน ขันกา, พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ์, พ.ต.ท.กฤษฎา พลายละหาร และ พ.ต.ท.รัฐวิรุฬห์ จันทสุบรรณ รอง ผกก.1 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.นภชลัน เกิดเอี่ยม สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.ณัฐฐาพร สนธิพงษ์ รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป., ว่าที่ ร.ต.ต.พุฒิพัฒน์ เพ็งเหล็ง รอง สว.(ป.) กก.1 บก.ป.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ กก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายธงชัยฯ อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 596/2565 คดีหมายเลขดำที่ อ2855/2565 คดีหมายเลขแดงที่ อ3299/2565 ลงวันที่ 17 สิงหาคม 2565 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันซ่องโจร, ร่วมกันแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ฯ ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นฯ ร่วมกันขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดๆ โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพฯ และฉ้อโกง” สถานที่จับกุม บริเวณริมถนน ซอยหทัยราษฎร์ 31 ถนนหทัยราษฎร์ แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปลายเดือนมีนาคม 2565 กลุ่มของผู้ต้องหารวม 5 ราย ซึ่งหนึ่งในนั้นมี นายธงชัยฯ ได้ร่วมกันวางแผนหลอกลวงผู้เสียหาย โดยการแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ตรวจค้นและตรวจยึดยาเสพติดให้โทษคือ ยาบ้า 10 เม็ด และยาไอซ์จำนวนหนึ่ง (ไม่ทราบน้ำหนัก) ที่กลุ่มผู้ต้องหาได้เตรียมไว้ แล้วกล่าวหาผู้เสียหายในความผิดฐาน มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต หลังจากนั้นได้ข่มขืนใจผู้เสียหายให้ส่งมอบ รถยนต์ และสิ่งของมีค่า เพื่อจะไม่ถูกดำเนินคดี หากไม่ส่งมอบจะไม่ได้รับการปล่อยตัว ผู้เสียหายจึงได้ส่งมอบทรัพย์สินที่มีทั้งหมด รวมทั้งรถยนต์ มูลค่ารวมกว่า 800,000 บาท จากนั้นกลุ่มผู้ต้องหาได้นำทรัพย์สินของผู้เสียหายไปจำนำ เปลี่ยนเป็นเงินสดมาแบ่งกัน เป็นเหตุให้ผู้เสียหายได้รับความเสียหาย จึงได้มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี ต่อมาพนักงานสอบสวนฯ ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลอาญามีนบุรีออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 5 รายดังกล่าว และได้มีการจับกุมตัวกลุ่มผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ซึ่ง นายธงชัยฯ ได้ขอปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นศาล โดยมีการติดกำไล EM ต่อมาศาลได้มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษจำคุกผู้ต้องหารายอื่น เมื่อนายธงชัยฯ ทราบเรื่องดังกล่าว จึงได้ตัดกำไล EM และหลบหนีไม่มาศาลตามนัด ศาลจึงได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหารายดังกล่าวไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปราม จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าหลังเกิดเหตุนายธงชัยฯ ได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร แล้วลงพื้นที่ตรวจสอบและวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่ง ศาลอาญามีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
