รวบหนึ่งในบัญชีม้า แก๊งปลอมเพจหลอกลงทุน ห้างทองชื่อดัง เสียหายเป็นพันล้าน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้ การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป., พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์, พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก, พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ, พ.ต.ท.ศรันย์ ศรีพัตร, พ.ต.ท.อภิเดช อธิคมปัญญา รอง ผกก.5 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมตำรวจ บก.ป. นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.ธนิสร หุ้ยเวชศาสตร์ สว.กก.5 บก.ป., ว่าที่ ร.ต.ต.ประชา ศรีนวลชาติ รอง สว.กก.5 บก.ป., ด.ต.วิทวัฒน์ สุวรรณน้อย, ด.ต.เชษฐภิญญู ศิริพันธุ์, ด.ต.พรชัย พลอยมี, ด.ต.ณัฐวุฒิ เอียบสกุล และ จ.ส.ต.อรรถวุฒิ จันทร์ศรี ผบ.หมู่ กก.5 บก.ป. ร่วมกันจับกุมตัว นายจตุรงค์ฯ อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 1403/2567 ลง 2 เม.ย.67ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “สนับสนุน ในความผิดฐาน ฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น โดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน กู้ยืมเงินอันเป็นการฉ้อโกงประชาชน และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยมิได้มีเจตนาใช้เพื่อตนหรือเพื่อกิจการที่ตนเกี่ยวข้องหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้หรือยืมใช้หมายเลขโทรศัพท์สำหรับบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของตน โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรืออาชญากรรมอื่นใด” สถานที่จับกุม บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ถ.อนุภาษภูเก็ตการ ซ.9 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต สืบเนื่องจากมีกลุ่มผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) โดยกล่าวหาว่าตนเองถูกหลอกให้ร่วมลงทุนในลักษณะฉ้อโกง เจ้าหน้าที่จึงได้เริ่มต้นการสืบสวนและขยายผล จนพบว่าผู้กระทำความผิดได้วางแผนกลอุบายอย่างซับซ้อน โดยใช้ช่องทางออนไลน์เป็นเครื่องมือในการล่อลวงเหยื่อ โดยกลุ่มคนร้ายได้สร้างเพจเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมาจำนวนมาก โดยอ้างชื่อและใช้ภาพลักษณ์ของร้านทองชื่อดังแห่งหนึ่ง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือแก่เพจเหล่านั้น ทั้งยังมีการใช้โลโก้ และเอกสารที่ปลอมแปลงขึ้นให้ดูเสมือนเป็นของจริง เพื่อให้ผู้ที่พบเห็นเชื่อว่าการลงทุนดังกล่าวมีความน่าไว้วางใจ โดยพุ่งเป้าไปที่ผู้ใช้งานทั่วไปที่สามารถเข้าถึงโฆษณาในเฟซบุ๊กได้อย่างง่ายดาย ซึ่งรูปแบบของการหลอกลวงนั้นมุ่งเน้นไปที่การชักชวนให้ผู้คนร่วมลงทุนในการ “เทรดหุ้น” ซึ่งในความเป็นจริงแล้วเป็นการลงทุนที่ไม่มีอยู่จริงหรือเป็นเทรดหุ้นปลอม โดยมีการนำเสนอแพ็คเกจการลงทุนที่หลากหลายพร้อมกับการันตีผลกำไรในอัตราสูง เช่น ให้ผลตอบแทน 20-30% ภายในระยะเวลาสั้นเพียง 5-20 นาทีเพื่อสร้างแรงจูงใจให้เหยื่อตัดสินใจลงทุนอย่างรวดเร็ว เมื่อเหยื่อหลงเชื่อ และมีการลงทุนมากขึ้น ผู้เสียหายกลับไม่สามารถถอนเงินได้ จึงทราบว่าตนถูกหลอกลวง โดยตัวผู้ต้องหาในกรณีนี้ จะทำหน้าที่เป็นรับจ้างเปิดบัญชีม้าให้กับกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพ เพื่อใช้ทำการหลอกลวงคน ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายจตุรงค์ฯ ได้หลบหนีมาอาศัยกับญาติในพื้นที่ จ.ภูเก็ต จึงได้ออกสืบสวนติดตาม จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้พบนายจตุรงค์ฯ ได้ยืนอยู่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง ถ.อนุภาษภูเก็ตการ ซ.9 ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงหมายจับ และทำการจับกุมตัวนายจตุรงค์ฯ นำส่ง พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
