ตามรวบอดีตตำรวจหื่นขืนใจเด็ก 7 ขวบ พบประวัติก่อเหตุซ้ำ จนถูกไล่ออกจากราชการ
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.)ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป.,พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.วิระชาญ ขุนไชยแก้ว รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.ภัทราวุธ อ่อนช่วย ผกก.5 บก.ป.,พ.ต.ท.สิทธิเกียรติ ศรีจันทร์,พ.ต.ท.วาทิต จิตรจันทึก, พ.ต.ท.อภิเดช อธิคมปัญญา, พ.ต.ท.ศรัณย์ ศรีพักตร์, พ.ต.ท.พิทยา ธนาวุฒิ รอง ผกก.5 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย นำโดย พ.ต.ต.กิตติบดินทร์ กิมเซียะ สว.กก.5 บก.ป., ร.ต.อ.นิติธร ประชันกาญจนา รอง สว. กก.5 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายทองดีฯ อายุ 70 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกระบี่ ที่ 541/2560 ลงวันที่ 19 ตุลาคม 2560 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจาก บิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อการอนาจาร, พาเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ซึ่งไม่ใช่ภริยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม”
สถานที่จับกุม บริเวณหน้าอาคารพื้นที อ.เมืองอุทัยธานี จ.อุทัยธานี
สืบเนื่องจากเมื่อเดือน ตุลาคม 2560 ก่อนเกิดเหตุ ด.ญ.เอ (นามสมมุติ)และมารดา ได้พักอาศัยอยู่กับยายอยู่ที่ อ.เมือง จ.กระบี่ โดยในบ้านหลังดังกล่าวได้มี นายทองดีฯ (ผู้ต้องหา) อาศัยอยู่ด้วยแต่พักอยู่บริเวณห้องเก็บของในบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งตนได้รู้จักกับผู้ต้องหาได้มาประมาณ 3-4 เดือนแล้ว โดย ด.ญ.เอ ได้เดินออกจากบ้านดังกล่าวเพื่อไปหา มารดาและน้องชาย ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักของด.ญ.เอ ประมาณ 100 เมตร ซึ่งขณะนั้นยายของด.ญ.เอ ได้ออกไปทำธุระข้างนอก สักครู่หนึ่งก็ได้มีนายทองดีฯ ได้มาชักชวนด.ญ.เอ โดยบอกกับด.ญ.เอ ให้เก็บของเล่นเดี๋ยวไปกับลุง ด.ญ.เอ ตกลงแล้วได้เดินตามนายทองดีฯ ไปพร้อมกับเด็กชายบี(นามสมมุตื) อายุ 8 ปี ซึ่งเป็นญาติของด.ญ.เอ อีกคน
โดยไปขึ้นรถจักรยานยนต์ของนายทองดีฯ จากนั้นเมื่อซื้อขอของเล่นเสร็จก็ได้พาเด็กชายบี(นามสมมุติ) ไปส่งที่บ้าน ผู้ต้องหาได้มีการอนาจารเด็กโดยที่เด็กอยู่ในสภาวะที่ไม่อาจขัดขืนได้ หลังจากนั้นได้นำตัว ด.ญ.เอ ไปส่งให้กับยาย เมื่อนายทองดีฯ กลับไป แล้วด.ญ.เอ ได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้กับยายของด.ญ.เอ
ต่อมามารดาและยายได้นำด.ญ.เอ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกระบี่ จากนั้นได้นำตัวด.ญ.เอ เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกระบี่ พนักงานสอบสวน ได้รวบรวมพยานหลักฐานและได้ยื่นคำร้องต่อศาล
จนกระทั่งออกหมายจับผู้ต้องหาในข้อหา “พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจาก บิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร, พาเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจารแม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตาม, กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้, กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบสามปี ซึ่งไม่ใช่ภริยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม” แม้จะถูกออกหมายจับ แต่ผู้ต้องหาก็ยังคงหลบหนีการจับกุมมาอย่างยาวนาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม ได้สืบทราบว่า ผู้ต้องหาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่จังหวัดอุทัยธานี จึงนำกำลังเข้าจับกุมตัวได้ในที่สุดจากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า ผู้ต้องหารายนี้เคยถูกดำเนินคดีในลักษณะเดียวกันและถูกลงโทษถึงขั้นไล่ออกจากราชการตำรวจมาแล้ว แต่กลับมาก่อเหตุอีกครั้ง ขณะนี้ ผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวและอยู่ระหว่างการนำตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา