โจรบุกเดี่ยวชิงทองร้านออโรร่าในห้างบิ๊กซีได้ไป 6 เส้น หนัก 30 บาท รวมมูลค่าประมาณ 1.5 ล้านบาท หนีลอยนวล
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 25 มี.ค. พ.ต.ท.ถิรัชญพงศ์ รัตนาธัมโสภณกุล สว.(สอบสวน) สน.เพชรเกษม รับแจ้งคนร้ายชิงทรัพย์ร้านทอง (ออโรร่า) ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง (บิ๊กซี) ถ.เพชรเกษม แขวงหลักสองเขตบางแค จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.อ.ธีระชัย เด็ดขาด, พ.ต.อ.สุธี พรมมาลี รอง ผบก.น.9 พ.ต.อ.ธิติพงษ์ สียา ผกก.สส.บก.น.9 พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม พ.ต.ท.บุญยรักษ์ ทองอินทรีย์ สวป.สน.เพชรเกษม และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุอยู่ภายในห้างฯ ชั้น 1 ใกล้กับประตูทางเข้าห้างฯ พบพนักงานของร้านอยู่ในอาการตื่นตระหนกให้การกับเจ้าหน้าที่ว่า ภายหลังจากห้างเปิดทำการพนักงานของร้านได้มาเปิดร้านขายทองให้กับลูกค้าตามปกติ มีชาย 1 คน อายุประมาณ 30-40 ปี รูปร่างผอม สูงประมาณ 175 ซม. สวมเสื้อไรเดอร์สีเขียวแขนยาว คล้ายพนักงานส่งอาหารยี่ห้อดัง ถือถุงผ้าสีขาว ใส่ถุงมือสีดำ เดินเข้ามาในร้านทองพร้อมชี้มือไปที่ตู้โชว์ทองด้านหลัง และสั่งให้พนักงานเอาทองส่งให้ โดยพนักงานต่างตกใจจึงหลบไปด้านข้าง คนร้ายได้กระโดดข้ามตู้ทองเครื่องประดับซึ่งอยู่ด้านหน้า เข้าไปหยิบถาดสร้อยคอทองคำที่อยู่ด้านหลังไปจำนวน 19 เส้น ก่อนกระโดดข้ามกลับมา แล้วรีบวิ่งหลบหนีออกจากห้างฯ ไป โดยมีพนักงาน รปภ.วิ่งไล่ตาม ซึ่งระหว่างที่วิ่งหลบหนีได้ทำสร้อยคอทองคำที่มีน้ำหนักน้อยตกระหว่างทางวิ่งหลบหนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ตามเก็บได้ จำนวน 13 เส้น ส่วนสร้อยคอทองคำที่คนร้ายได้ไป จำนวน 6 เส้น น้ำหนักเส้นละ 5 บาท รวมน้ำหนัก 30 บาท มีมูลค่า 1.5 ล้านบาท
โดยมีรายงานว่า ภายหลังจากรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.เพชรเกษม และเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.น.9 ได้ลงพื้นที่ไล่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง พบคนร้ายได้เดินมาจากซอยเพชรเกษม 67 ซึ่งอยู่ติดกับห้างฯ ก่อนเดินเข้าไปก่อเหตุ ภายหลังจากคนร้ายก่อเหตุแล้ววิ่งหลบหนีออกมาแล้วได้ถอดเสื้อคลุมแขนยาวสีเขียว กระเป๋าสะพายสีขาวและถุงมือสีดำ ทิ้งไว้ใกล้ที่ขยะริมถนนใกล้ปากซอยเพชรเกษม 67 ห่างจากห้างเล็กน้อยและวิ่งหายไป คาดว่าจอดรถ จยย. ไว้ใกล้จุดที่ทิ้งเสื้อผ้าอำพรางตัวแล้วขี่รถจยย. หลบหนีไป
ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่แจ้งวิทยุสกัดจับ คนร้ายดังกล่าว แต่ไร้วี่แวว ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องวงจรปิด และติดตามเส้นทางหลบหนีของคนร้าย หากใครมีเบาะแสเพิ่มเติม แจ้งได้ที่ หมายเลขโทรฟรี 1644 หรือโทร 191
