ตำรวจไซเบอร์รวบชาวจีนวัยเกษียณ เปิดขายสินค้าออนไลน์ไร้คุณภาพผ่านแพลตฟอร์มดัง ยึดของกลางมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
. วันอังคารที่ 18 มี.ค.68 เวลา 14.00 น. ณ บริเวณชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ บช.สอท. (เมืองทองธานี) นำโดย พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต. ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2, พล.ต.ต. ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3, พล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4, พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน ผบก.สอท.5 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์รวบชาวจีนวัยเกษียณ เปิดขายสินค้าออนไลน์ไร้คุณภาพผ่านแพลตฟอร์มดัง ยึดของกลางมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
. สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.3 ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า ร้านค้าออนไลน์ ที่ใช้ชื่อว่า “iB11 SHOP” บนแพลตฟอร์มชื่อดัง ได้มีการขายสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน จึงได้ล่อซื้อสินค้าจากร้านดังกล่าวมาตรวจสอบ จำนวน 1 รายการ ประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ เมื่อได้รับสินค้า ปรากฎว่าไม่มีฉลากภาษาไทยซึ่งสินค้าดังกล่าวจัดอยู่ในประเภทของสินค้าให้เป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก พ.ศ. 2565
. ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่สืบสวนกรณีดังกล่าว จนเชื่อมโยงไปยังบ้านพักอาศัย 2 ชั้น แห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 5 ซอย 3 ต.หนองบัว อ.เมืองอุดรธานี จ.อุดรธานี ซึ่งด้านในมีการต่อเติมเป็นชั้นวางไว้กักเก็บสินค้า จากการเฝ้าสังเกตและสืบสวนเชิงลึก พบสินค้าและกล่องสินค้าประเภทต่างๆ ถูกเก็บไว้ภายในบ้านเป็นจำนวนมาก โดยกล่องบรรจุสินค้ามีข้อความว่า (MADE IN CHINA) ผลิตจากประเทศจีน และพบหลักฐานเชื่อว่าอาจเป็นสินค้าที่มีรายละเอียดตรงกันกับที่โฆษณาขายอยู่บนแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ชื่อดัง
. ต่อมา พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3 ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.1 บก.สอท.3 พร้อมหมายค้นศาลจังหวัดอุดรธานี ที่ 77/2568 ลงวันที่ 17 มี.ค.68 เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว พบ MR.RENGEN MAO อายุ 52 ปี สัญชาติจีน นั่งทำงานอยู่ภายในบ้าน จึงได้เรียกออกมาแสดงหมายค้นพร้อมประสานล่ามแปลร่วมเข้าตรวจค้น
. ผลการตรวจค้นพบสินค้าประเภทเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายรายการ ซึ่งแต่ละชิ้นไม่มีฉลากภาษาไทยกำกับ จากการตรวจสอบข้อมูลในคอมพิวเตอร์ที่ชาวจีนคนดังกล่าวใช้ทำงาน พบการประกาศขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มชื่อดังมากมาย อาทิ Shopee, Lazada และ TikTok จากการตรวจค้นเบื้องต้น พบสินค้าประเภทลำโพง พัดลม มือถือ พัดลมตั้งโต๊ะ สายซาร์จโทรศัพท์ หูฟังบูลทูธ ขาตั้งลำโพง นาฬิกาสมาร์วอทซ์ รวมสินค้าทั้งหมดเกือบ 4,000 ชิ้น รวมมูลค่ากว่า 3 ล้านบาท
. จากการสอบถามชาวจีนคนดังกล่าวเบื้องต้น ทราบว่าเข้ามาในประเทศไทยด้วยวีซ่า RETIREMENT (ใช้ชีวิตหลังเกษียณ) ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 โดยก่อนเข้ามาในประเทศไทยได้ประกอบกิจการขายเสื้อผ้าอยู่ที่ประเทศจีน เมื่อเข้ามาในประเทศไทยได้รวมหุ้นกับเพื่อนรวม 3 คน และเช่าบ้านที่เกิดเหตุดังกล่าวเป็นสถานที่จัดเก็บสินค้า เพื่อรับสินค้าที่นำเข้าสินค้าจากประเทศจีนมาขายต่อในประเทศไทย โดยทำมาแล้วประมาณ 1 ปีกว่า
. ต่อมาประมาณช่วงเดือน สิงหาคม หุ่นส่วน 2 คนได้ถอนหุ่นไปเหลือเพียงแค่ตนเองที่ทำธุรกิจต่อ โดยประกาศขายในแพลตฟอร์ม Shopee, Lazada และ TikTok ใช้ชื่อร้านว่า “iB11 SHOP” โดยสินค้าทั้งหมดนำเข้ามาจากประเทศจีนผ่านทางเรือมาลงที่กรุงเทพ เมื่อสินค้ามาถึงประเทศไทยจะมีชิบปิ้งขนสินค้าจาก กทม. มาส่งที่บ้านที่เกิดเหตุดังกล่าวเพื่อจัดเก็บไว้และรอจำหน่ายออก แต่ก็มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมเสียก่อน . เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งขอกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”, “นําเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการ ศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพาหนะ คลังสินค้าทัณฑ์บน โรงพักสินค้า ที่มั่นคง ท่าเรือ รับอนุญาต หรือเขตปลอดอากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานศุลกากร”, “ขายสินค้าที่ควบคุมฉลากตามมาตรา 30 โดยไม่มีฉลากหรือมีฉลาก แต่ฉลากหรือการแสดงฉลากนั้นไม่ถูกต้อง หรือขายสินค้าที่มีฉลากที่คณะกรรมการว่าด้วยฉลากสั่งเลิกใช้ตาม มาตรา 33 ทั้งนี้ โดยรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่าการไม่มีฉลากหรือการแสดงฉลากดังกล่าวนั้นไม่ถูกต้องตามกฎหมาย” นำส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย