นนทบุรี ต่อข่าว ทนาย พาน.ส.แบม แจงนายจ้างลงโทษลูกจ้าง สาเหตุทำร้ายสุนัขสันหลักหักต้องกายภาพ พร้อมแฉลูกจ้างชอบยักเงินระหว่างซื้อของ
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรบางกรวย จังหวัดนนทบุรี หญิงสาววัย 22 ปี นามสมมุติ “เอ” อดีตแม่บ้าน ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก กัน จอมพลัง หลังอ้างว่าถูกนายจ้างวัย 48 ปี ซึ่งเป็นแม่ค้าออนไลน์ ทำร้ายร่างกายอย่างโหดร้ายต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 5 ปี โดยอ้างว่าถูกลงโทษด้วยการใช้หวายฟาดทั่วร่างกายถึง 98 ครั้ง ขณะถูกบังคับให้ถอดเสื้อผ้าเหลือเพียงชุดชั้นใน ถูกตบตีบริเวณใบหน้า 28 ครั้ง และถูกสาดน้ำแกงใส่ทั้งตัว โดยนายจ้างให้เหตุผลว่าเป็นการลงโทษเนื่องจากทำงานผิดพลาดและทำให้เพื่อนร่วมงานเดือดร้อน เหตุการณ์เกิดขึ้นภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่งในอำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี
หลังจากเข้าร้องเรียน กัน จอมพลัง ได้พาผู้เสียหายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศิริราช เพื่อนำหลักฐานบาดแผลมาใช้เป็นหลักฐานในคดี นอกจากนี้ ผู้เสียหายยังอ้างว่าระหว่างที่ถูกทำร้ายร่างกายไม่ได้รับเงินเดือนอย่างที่ควรได้รับ โดยนายจ้างจ่ายเงินเดือนเพียง 6 เดือนแรกเท่านั้น หลังจากนั้นก็ให้เงินใช้เป็นครั้งคราว ซึ่งผู้เสียหายเห็นว่าไม่เป็นธรรม
ต่อมาในเวลา 13.00 น. ที่สถานีตำรวจภูธรบางกรวย น.ส.แบม (นามสมมุติ) อายุ 22 ปี ซึ่งเป็นลูกจ้างอีกคนของนางชัญชิสา และเป็นบุคคลที่ น.ส.เอ กล่าวถึงว่าอาจได้รับอันตรายจากนายจ้าง ได้เดินทางเข้าพร้อมกับนายสุทพันธ์ บุญโปร่ง ทนายความ เพื่อเข้าพบ พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ พงศ์ธนารักษ์ ผกก.สภ.บางกรวย เพื่อเข้าให้ปากคำและชี้แจงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
น.ส.แบม ชี้แจงว่า ตนไม่ได้หายตัวไปตามที่เป็นข่าว แต่ไม่มีใครติดต่อมามีเพียงตำรวจที่โทรมานัดให้มาให้ปากคำ ตนจึงให้ทนายพามาพบตำรวจ และขอแจงว่าคนที่ตนคุยเมื่อคืนเป็นแฟนเก่าที่โทรมาถามเรื่องของกลางและสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนกรณีที่ น.ส.เอ อ้างว่าโทรหาแต่ติดต่อไม่ได้ ตนยืนยันว่าไม่มีการโทรมาแต่อย่างใด โดยมีหลักฐานการสนทนาอยู่ในโทรศัพท์ ซึ่งคนที่บล็อดตนก็คือน.ส.เอ เอง ไม่ใช่ตนเป็นคนบล็อค ทั้งนี้ตนยังถูกน.ส.เอ คบต่อแฟนหนุ่มของตนที่คบกันมาประมาณ 7 เดือน เพียงระยะเวลาเพียง 6 วันเท่านั้นหลังจากเกิดเรื่องดังกล่าว ทางน.ส.เอ ได้โทรหาตนมาว่าขอไปอยู่กับแฟนหนุ่มตน ทำให้ตนก็รู้สึกช็อกเข้าไปอีก ซึ่งระหว่างที่ตนคบกับแฟนหนุาม น.ส.เอชอบ หยิบมือถือไปคุยระหว่างที่ตนคุยกับแฟน แต่รายละเิียดเพิ่มเติมหลังจากนี้ตนไม่ทราบ
น.ส.แบม ให้ข้อมูลว่า ตนทำงานกับนายจ้างคนนี้มาเกือบปี แม้จะเคยถูกตำหนิแต่ไม่เคยถูกทำร้ายร่างกายรุนแรง และไม่เคยเห็นเพื่อนถูกทำร้ายร่างกายตามที่ถูกกล่าวอ้าง สิ่งที่เคยเห็นคือมีการตีเพียง 1-2 ครั้ง โดยที่เพื่อนเป็นฝ่ายนำไม้มาให้ตีเอง เนื่องจากไปทำร้ายสุนัขของนายจ้างทำให้กระดูสันหลังหัก จนนายจ้างต้องเสียเงินกว่า 2 แสนบาท
น.ส.แบม ยังกล่าวอีกว่า ตนเคยอยากหนีออกจากบ้านนายจ้าง เพราะเครียดจากการต้องทำกายภาพบำบัดให้สุนัขที่ได้รับการผ่าตัด และไม่ได้ถูกบังคับให้ทำงานเหมือนที่ น.ส.เอ กล่าวอ้าง นอกจากนี้ น.ส.เอ (นามสมมุติ) เคยนำทองไปขายตามที่นายจ้างเอาไปให้ขาย 1 เส้น แต่ส่วนที่นายจ้างบอกว่าหายตนไม่ทราบว่าเส้นไหน ทั้งนี้กรณีเมื่อนายจ้างให้ซื้อของ บางครั้งน.ส.เอ เพื่อนตนก็นำเงินที่เหลือจากการซื้อของไปใช้แต่คืนเงินไม่ครบ
น.ส.แบม กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้หลังจากให้ปากคำเสร็จสิ้น ตนตั้งใจจะกลับไปทำงานที่บ้านนายจ้างเหมือนเดิม เนื่องจากตนเป็นคนเดียวที่ต้องดูแลสุนัขที่ต้องทำกายภาพบำบัด อีกทั้งยังยืนยันว่า นายจ้างดูแลตนเป็นอย่างดี และเคยช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลของปู่ตน ก่อนที่ปู่จะเสียชีวิต
ด้านนายสุทพันธ์ บุญโปร่ง ทนายความของนางชัญชิสา เปิดเผยว่า น.ส.แบม ไม่ได้สูญหาย แต่ถูกบล็อกช่องทางการติดต่อจากบุคคลอื่น ทำให้ไม่มีใครสามารถติดต่อเธอได้ และไม่มีใครโทรหาเธอเพื่อขอให้มาให้ปากคำ ทนายความยังกล่าวว่า กรณีที่ น.ส.เอ อ้างว่าถูกทำร้ายร่างกายอย่างหนักและถูกสาดน้ำแกงใส่ อาจเป็นการเข้าใจผิด เนื่องจากนายจ้างให้ข้อมูลว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงการทำอาหารถวายพระทุกวัน และวันดังกล่าวอาหารไหม้ จึงมีการเหวี่ยงอาหารลงพื้น ไม่ได้มีเจตนาสาดใส่ลูกจ้างแต่อย่างใด
ส่วนกรณีที่ น.ส.เอ อ้างว่าไม่ได้รับเงินเดือนเต็มจำนวนและได้รับเงินเพียง 6 เดือนแรก นายจ้างชี้แจงว่า ตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน ตนให้เงิน น.ส.เอ ใช้ในลักษณะเบิกจ่าย และมีการจดบัญชีเอาไว้ อีกทั้งยังมีคลิปวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่า ทั้งนายจ้างและ น.ส.เอ เคยไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกัน และอยู่กันอย่างมีความสุข นอกจากนี้ นายจ้างยังเคยเสนอว่า หาก น.ส.เอ ทำงานต่อไปอีก 3 ปี จะให้เงินจำนวน 200,000 บาท พร้อมรถยนต์มือสองอีกหนึ่งคัน
ด้านนายสุทพันธ์ ทนายความ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายจ้างใช้ความรุนแรงกับลูกจ้างว่า ตนมองว่าการทำโทษลูกจ้าง เช่น การทุบศีรษะ 20 กว่าครั้ง อาจเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินไป และได้มีการพูดคุยกับนายจ้างว่าหากต้องการลงโทษลูกจ้าง ควรใช้วิธีการหักเงินเดือนหรือตัดสวัสดิการแทน อย่างไรก็ตาม นายจ้างยอมรับว่าอาจมีบางเหตุการณ์ที่ลงโทษรุนแรงเกินไป และพร้อมที่จะเยียวยาให้กับผู้เสียหาย
ในส่วนของกรณีทองที่หายไป นายจ้างยืนยันว่า ไม่มีบุคคลภายนอกเข้าไปในบ้าน ทำให้ต้องสงสัยคนที่อยู่ภายในบ้าน อย่างไรก็ตาม น.ส.แบม เป็นเพียงผู้ต้องสงสัย หากมีหลักฐานก็สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้
ขณะที่เรื่องการแจ้งความดำเนินคดี ทนายความระบุว่า นายจ้างได้แจ้งความไว้ตั้งแต่ 4 วันก่อน และเจ้าหน้าที่สามารถจับตัว น.ส.เอ ได้แล้ว แต่ในส่วนของความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนนั้นไม่ทราบแน่ชัด



