“ผบช.น.สั่งระดมนักสืบนครบาลทั้ง 9 บก. เร่งไล่ล่า 2 มือปืนบุกรัวยิง 6 นัด นศ.อุเทนถวาย ปี 1 อดีตทีมชาติพายเรือ ตร.วางกำลังคุมเข้ม “วันบลูเดย์”
เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 30 ม.ค.ที่สน.ปทุมวัน พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เรียกประชุมชุดสืบสวนคลี่คลายคดีคนร้ายขับขี่ จยย. ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง นายนราวิทย์ ปัญญา อายุ 19 ปี นักศึกษาชั้นปี 1 สาขาวิศวกรรมก่อสร้าง มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย ส่งผลให้กระสุนเข้าหน้าอก 2 นัด จนได้รับบาดเจ็บ ถูกนำตัวส่งรักษา รพ.ตำรวจ ส่วนคนร้ายหลบหนีไปได้ เหตุเกิดบริเวณป้อมตำรวจถนนพญาไท ตัดซอยจุฬาฯ 12 แขวงและเขตปทุมวัน กทม. เมื่อเวลาประมาณ 22.50น.วันที่ (29 ม.ค.) ซึ่งเป็นช่วงใกล้วันคล้ายวันสถาปนาอุเทนถวาย หรือวันบลูเดย์ โดยมี พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัยรรท.ผบก.สส.บช.น., พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3, ผบก.อคฝ., ผู้กำกับการสืบสวน บก.น.1-9, บก.สส.บช.น., กก.ดส.บช.น. และสน.ปทุมวัน เข้าร่วมประชุม
ภายหลังการประชุม กว่า 1 ชม. พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวว่า วันนี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลได้เรียกผู้กำกับการสืบสวนนครบาล 1-9 มาร่วมประชุมติดตามความคืบหน้าคดีนี้ เบื้องต้นนักศึกษาที่ได้รับบาดเจ็บอาการปลอดภัยแล้ว ซึ่งผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ก็ได้ให้ความเป็นห่วงว่าทุกครั้งที่มีเหตุเกิดขึ้น ซึ่งก็เกิดขึ้นหลายครั้ง ตำรวจเองก็ให้ความระมัดระวัง ป้องกันวางมาตรการตั้งแต่ก่อนหน้าปีที่แล้วจนถึงปีนี้ ในวัน “บลูเดย์”
ซึ่งตามทฤษฎีอาชญากรรมทุกครั้งคนร้ายมักตั้งใจจะให้เกิดเหตุ ก็พยามระวังตัวเองแล้ว ตำรวจเองก็พยามตัดช่องโอกาสของคนร้าย ถ้าคนร้ายมีโอกาสเมื่อไหร่อาชญากรรมเกิดขึ้นแน่นอน ช่องโอกาสที่ตำรวจพยายามตัดไม่ให้เกิดขึ้น จึงมีการวางกำลังตรวจส่วนหนึ่ง มีข้อมูลสืบสวนล่วงหน้าส่วนหนึ่ง ฐานข้อมูลของผู้ที่จะก่อเหตุ ก็ทำเป็นข้อมูลไว้
จากเหตุการณ์นี้ตำรวจได้ตรวจสอบประวัติของผู้ได้รับบาดเจ็บ พบว่า เป็นเด็กดีมาก ตั้งใจเรียน จบ ม. 6 ก็มาเข้าเรียนที่สถาบันแห่งนี้ เป็นอดีตนักกีฬาทีมชาติพายเรือ และเป็นนักกีฬาฟุตบอลของสถาบัน พอตรวจสอบเรื่องประเด็นชู้สาวผู้บาดเจ็บก็ยังไม่มีแฟน และตรวจสอบพฤติกรรมกลุ่มเพื่อนที่อยู่ขณะเกิดเหตุ ส่วนพฤติการณ์ว่ามีการเจาะจงยิงหรือไม่ ก็พบว่าคนร้ายยิงกระสุนสาดเข้าไปในกลุ่มผู้เสียหายทั้งหมด 6 นัด ซึ่งอยู่ระหว่างการติดตามตัวมาดำเนินคดี เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง จึงขอแจ้งเตือนว่าตำรวจมีประวัติ ไม่ว่าผู้ก่อเหตุจะเป็นนักศึกษา หรือพ้นสภาพไปแล้ว ที่อาจก่อเหตุในห้วงเวลานี้ในเชิงสัญลักษณ์ ตำรวจจะตามมาดำเนินคดีให้ได้
ซึ่งการสืบสวนได้ตั้งไว้หลายประเด็น ทั้งกลุ่มคู่ขัดแย้ง และความขัดแย้งของนักศึกษาแต่ละคนที่อยู่ในเหตุการณ์อยู่ระหว่างสอบปากคำ
จากการที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเศษกระสุนอยู่ อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ อีกทั้งยังไปเก็บหลักฐานที่บริเวณใต้สะพานหัวช้าง หลังจากที่มีประชาชนแจ้งเบาะแสว่าว่ามีวัยรุ่นไปมั่วสุม จึงได้มีการเปรียบเทียบแผนพฤติกรรมและรูปพรรณของคนร้ายเพื่อตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มองค์กรอาชญากรรมขนาดเล็กที่เคยกวาดล้างไปก่อนหน้านี้หรือไม่ ส่วนการเข้าตรวจค้นในสถาบันวันนี้ไม่พบสิ่งกฎหมายแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะวางกำลังไว้ที่ 2 สถาบัน จนถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ เพื่อป้องกันเหตุรุนแรง จะมีตำรวจสาย, ตำรวจ คฝ. เดินเท้า เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว เนื่องจากอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าหลายแห่ง หากเจอบุคคลต้องใส่ก็ให้ตรวจค้นทันที โดยเน้น บุคคลที่ขับขี่และซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์สวมหมวกกันน็อคแต่งกายมิดชิดอำพรางใบหน้าไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนรถจะให้เข้าตรวจค้นทุกคัน โดยวางกำลังให้เต็มพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าลักษณะคนร้านเป็นชาย 2 คนขับขี่ จยย. แบบผู้หญิง สีทูโทน แต่งกายมิดชิด สวมชุดดำหมวกกันน็อกสีดำ ก่อนเกิดเหตุเวลา 22.26. น. คนร้าย 2 คนขับขี่ จยย. ลอดใต้สะพานมา เข้า ถ.พญาไท ทิศทางมุ่งหน้าแยกราชเทวี ก่อนจะวิ่งย้อนศร ถ.พญาไท กลับไปใต้สะพาน และก่อเหตุ จากนั้นเวลาประมาณ 22.56 น. คนร้ายขี่ จยย.หลบหนี โดยใช้เส้น ถ.พญาไท ผ่านแยกสามย่านเลี้ยวซ้ายตรงมุ่งหน้าแยกอังรีดูนังต์ ถ.พระราม 4 โดยมีรถยนต์กระบะตำรวจ ขับไล่ตามอย่างกระชั้นชิด ก่อนคนร้ายขี่จยย.หลบหนีไป
////////////
