นนทบุรี คืบหน้า รวบแล้ว 2 โจ๋ นั่งคอตก หลังรุมทำร้ายไรเดอร์กลางถนน สาเหตุขับรถปาดหน้า อ้างถูกชักมีดขู่จึงชิงลงมือก่อนเพราะป้องกันตัว
วันที่ 28 ม.ค.68 ที่สภ.รัตนาธิเบศร์ จ.นนทบุรี พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณ ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้ทำการสืบสวนก่อนเชิญตัวนายเติ๊ก อายุ 23 ปี (สวมแว่น) และนายวันชัย หรือนายวิด เอี่ยมอาด อายุ 23 ปี มาพบพนักงานสอบสวนเพื่อให้ปากคำเบื้องต้น
นายเติ๊ก กล่าวชี้แจงว่า ย้อนไปเมื่อวันที่ 23 ม.ค.68 ที่ผ่านมา ตนได้ขับรถเป็นไรเดอร์ส่งอาหารตามปกติ ปรากฏว่าขณะเลี้ยวเข้าซอยเรวดี 22 ตนยอมรับว่าได้ขับรถปาดหน้ารถของผู้เสียหาย ทำให้เขาเกือบเสียหลัก ทางคู่กรณีจึงตะโกนมาว่า ”ขับรถแบบนี้ไม่ไม่ได้นะ“ ตนจึงยกมือไหว้และขอโทษโดยบอกว่า “ขอโทษครับพี่” โดยคู่กรณีก็เหมือนไม่รับคำขอโทษทำท่าทีไม่พอใจ
หลังจากนั้นก็มีไรเดอร์คนนึงคาดว่าเป็นพวกของเขาขับเข้ามาเหมือนให้ตนแยกย้ายกันไป ต่อมาวันที่ 25 ม.ค.68 ตนได้เจอกรณีอีกครั้งบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้า เอสพลานาดได้บังเอิญเจอ ซึ่งรอบนี้ทางคู่กรณีพูดกับตนว่า “เห้ยไม่ชนเลยละ” จากนั้นตนจอดรถ แล้วทางคู่กรณีไปเอามีดมาเพื่อจะแทงตน ตนใจดีสู้เสือเดินเข้าไปหาเพื่อจะลองพูดคุย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วก็แยกย้ายกันไป ตนจึงเดินทางกลับแล้วไปรับเพื่อนคือนายวิทย์ออกมาเพื่อที่จะไปกินข้าวกัน แต่ปรากฏว่าขณะขับรถผ่านซอยเรวดี 22 ได้เจอคู่กรณีจอดรถอยู่แถวดังกล่าว พอดี ซึ่งตนจำได้คือคนที่มีปากเสียงกันมาก่อน จึงขับรถจยย.ตามไปเนื่องจากอยากคุยและถามสาเหตุที่มีปากเสียงกันที่ผ่านมา ปรากฏว่าทางคู่กรณีเหทือนจะชักอาวุธมีดมาทำร้ายตนจึงนำไม้เบสบอลที่พกอยู่ประจำไปฟาดผู้เสียหายก่อน แล้วเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิป ยืนยันไม่มีเจตนาทำร้ายถึงชีวิต หรือวางแผนแต่อย่างใด เพียงเจอตัวแล้วตนจำหน้าได้เท่านั้น รวมถึงตนก็รู้สึกตัวเพราะคูากรณีมีมีด แต่ยืนยันว่าไม่รู๋จักกันมาก่อน ส่วนไม้เบสบอลตนซื้อเก็บไว้นานแล้ว ไม่เคยไปก่อเหตุกับใครนอกจากครั้งนี้ ซึ่งตอนนี้ตนก็ได้ยอมรับแล้วว่าเป็นคนทำร้ายร่างกาย แต่อยากให้ผู้บาดเจ็บนั้นออกมาพูดความจริงบ้าง
นายวิทย์ กล่าวว่า ตอนเกิดเหตุเพื่อนโทรมาหาตนว่ามีเรื่องให้ตนมารับกลับบ้าน ตนจึงขี่รถไปรับและกำลังหาข้าวกินก่อนเข้าบ้าน แต่ว่ามาเจอนายเบียร์ จึงเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ซึ่งเพื่อนตนมาเล่าให้ฟังว่าจะถูกนายเบียร์เข้ามาแทง ตนจึงตัดสินใจออกไปรับ ซึ่งตนยอมรับว่าไม่ได้ขับไล่หาตัวเขาแต่บังเอิญเจอ ก่อนที่จะเข้าไปทำร้ายนายเบียร์เขาทำท่าทีเหมือนอาการชักอาวุธมีดู หยุดรถและต่อว่าพวกตนก่อน ตนจึงจอดรถและเพื่อนได้ลงจากรถไปวิ่งเข้าไปใส่นายเบียร์ทันที
นางสาวรสุคนธ์ เสน่หา อายุ 42 ปี แม่ของวิทย์ เสื้อสีขาว เล่าว่า ลูกชายมาบอกตนว่ากลัว เพราะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดนอกเครื่องแบบโทรมาหาตนว่าให้พาลูกชายเข้ามามอบตัวเพราะว่าเขาตามสืบจากทะเบียนรถรถเป็นชื่อของตน ตนจึงเข้ามาพบเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังจากนั้นจึงตามลูกชายและเพื่อนเข้ามาทีหลัง ซึ่งทั้งสองคนไม่คิดที่จะหนี ยอมรับผิดและจะหาเงินชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งตอนเกิดเหตุลูกชายมาเล่าให้ฟังว่าเพื่อนมีปัญหากับนายเบียร์ และมีเหตุการณ์ขี่รถปาดหน้ากัน แต่ทางเพื่อนของลูกชายได้ขอโทษไปแล้วทางด้านนายเบียร์ไม่ยอมจบเรื่อง ลูกชายเล่าให้ฟังเท่านี้ และหลังจากเกิดเหตุลูกชายกลัวว่าถ้าออกไปข้างนอกจะโดนนายเบียร์ทำร้าย ตนจึงแนะนำลูกว่าให้รอเจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกก่อนอย่าพึ่งออกไปไหน พอตำรวจเรียกตนจึงเรียกลูกออกมาในวันนี้ ซึ่งน้องบอกว่าจะหาเงินชดใช้ค่าเสียหายรวมเงินกันเพราะน้องไม่ค่อยมีเงินขับหลายเด้อเหมือนกันทั้งสองคน ถ้าเค้าเรียกมาเยอะอาจจะมีไม่พอจะต้องรับสภาพโดนดำเนินคดีตามกฎหมาย ถ้าเรียกมาเกิน ที่จะชดใช้อาจจะไม่มี ซึ่งปกติลูกของตนไม่เคยมีเรื่องกับใครมาก่อนไม่เคยมีประวัติทะเลาะกับใคร มีแต่ตอนเรียนเป็นเด็กช่างอาจจะมีทะเลาะกับคนอื่นเล็กน้อยตามประสาเด็ก แต่เมื่อโตขึ้นไม่เคยมีเรื่องกับใครอีกเลย และเขากังวลกลัวว่าตนเองจะติดคุกหลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ซึ่งตัวต้นเหตุเป็นเพื่อนของลูกชายเพิ่งมาหาลูกชายตนไม่นานประมาณสามถึงสี่ครั้ง แล้วแล้วก็มีปัญหานี้เกิดขึ้น และต้นเพิ่งเจอเพื่อนของลูกชายไม่นานทำให้ไม่รู้นิสัยใจคอ และวันนี้ตนได้เห็นกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุแล้วมองว่าเป็นเหตุที่รุนแรงเหมือนกัน จึงอยากจะคุยกับทางผู้เสียหาย ว่าทางผู้เสียหายจะเอาอย่างไร ตนอยากจะคุยกับทางผู้เสียหายด้วยว่าจะต้องชดใช้อย่างไรได้บ้างเพราะเหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มตนไม่ทราบ
พ.ต.อ.พิสุทธิ์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำทั้งสองฝ่ายและอยู่ระหว่างรอผลตรวจร่างกายของผู้บาดเจ็บเพื่อตั้งข้อกล่าวหา ซึ่งเบื้องต้นคือข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น และจะประสานผู้เสียหายเพื่อพูดคุยเรื่องการชดใช้ค่าเสียหายต่อไป