วันนี้(วันอังคาร ที่ 9 ส.ค. 65) เวลา 13.30 น.
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์
ผบช.ภ.7
เป็นประธานในการประชุม
“ประชุมบริหารราชการ ภ.7 ครั้งที่ 7/2565”
โดยมี
พล.ต.ท.รักษ์จิต หม้อมงคล
ผทค.พิเศษ ตร. รรท. รอง ผบช.ภ.7
พล.ต.ต.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต
รอง ผบช.ภ.7
พล.ต.ต.อาทิชา เปาอินทร์
รอง ผบช.ภ.7
พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุข
รอง ผบช.ภ.7
พร้อมด้วยผบก.ฯ, รอง ผบก.ฯ, ผกก.ฯ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
โดยก่อนการประชุมเป็นผู้แทนรับมอบ “เครื่องฟอกกำจัดเชื้อโรคและมลพิษในอากาศด้วยระบบผลิตสารอนุพันธ์” จำนวน 10 เครื่อง จาก คุณนันทวัฒน์ พรรณสกุลวัฒน์ ประธานบริหารบริษัท เอ พลัส อินโนเวชั่น แอสเซท จำกัด เพื่อใช้ประโยชน์ในทางราชการของตำรวจภูธรภาค 7
จากนั้นเป็นประธานมอบโล่ประกาศเกียรติคุณพร้อมเงินรางวัลแก่ชุดปฏิบัติการตาม “โครงการประกวดการฝึกยุทธวิธีของชุดปฏิบัติการสืบสวน ภ.7”
ในการประชุมได้สั่งการเน้นย้ำให้ทุกหน่วยปฏิบัติ ดังนี้
1. กำชับการพิจารณาดำเนินคดี ผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง การทำคดีในชั้นต้น เมื่อเกิดเหตุ ภายใน 24 ชม. ให้รวบรวมพยานหลักฐานในชั้นต้น ให้ครบถ้วน 100% และต้องมีความละเอียด รอบคอบ ให้ผู้บังคับบัญชาไปกำชับ และกำกับดูแลผู้ปฏิบัติด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาทางคดี
2. เรื่องการสอบสวนวินัยต่าง ๆ หรือการตั้งกรรมการสอบสวนวินัยต่างๆ บางหน่วยไม่ปฏิบัติตามแนวทางที่ ตร. กำหนดไว้ ให้ทุกหน่วยไปตรวจสอบด้วย กรณีไปตรวจสอบแล้วไม่มีเหตุอันควร หรือไม่เป็นมาตรฐานตามที่ ตร. กำหนดไว้ ให้ชี้แจงให้ทราบด้วย
3. เรื่องการระงับเหตุที่อันตราย กำชับการปฏิบัติให้เป็นไปตามยุทธวิธี SOP ต้องมีการฝึกซักซ้อม ให้ตรวจสอบเครื่องมืออุปกรณ์ต้องพร้อมใช้ ให้ผู้บังคับบัญชาไปกำกับดูแลเอาใจใส่ในการฝึก ให้มีการจัดแข่งขันระดับสถานีตำรวจ และระดับภูธรจังหวัด
4. เรื่องยาเสพติด ให้ระดมจับกุมผู้จำหน่ายรายย่อยในชุมชนต่าง ๆ ให้ประสานร่วมกับชุมชน และประชาชนในพื้นที่ เมื่อมีการจับกุมผู้เสพยา ให้แก้ปัญหาตั้งแต่ต้น ประสานฝ่ายปกครอง สาธารณะสุขในพื้นที่ นำเข้าระบบบำบัด และให้นำข้อมูลผู้เสพไปใส่ใน Application Traffy Fondou และบูรณาการร่วมกับ โครงการ Smart Safety Zone 4.0
- กำชับการดำเนินการตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี เกี่ยวกับการปราบปรามการค้ามนุษย์ แรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง ผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง การค้าประเวณี การทำประมงผิดกฎหมาย เงินกู้นอกระบบ ยาเสพติด เด็กแว้น นักเรียนยกพวกตีกัน การละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา การเปิดสถานบริการผิดกฎหมาย บ่อนการพนัน การพนันออนไลน์ การแก้ไขปัญหาจราจร และกระทำผิดบนโลกโซเชียล Fake New (ข่าวปลอม) ต่าง ๆ
- กำชับการรายงานเหตุและการติดตามเร่งรัดคดี สร้างความเข้าใจและความเชื่อมั่นให้กับผู้เสียหาย กรณีเกิดเหตุหรือคดีสำคัญ หรือเป็นที่สนใจของประชาชนและสื่อมวลชน กำชับให้หัวหน้าสถานี หรือหัวหน้าชุดปฏิบัติการ รายงานด้วยวาจาทางโทรศัพท์เบื้องต้น ให้ รอง ผบ.ตร.(สส) และ ผู้ช่วย ผบ.ตร.(สส) ที่เกี่ยวข้อง เพื่อทราบในโอกาสแรก หลังจากนั้น ให้รายงานเป็นลายลักษณ์อักษรตามระเบียบการตำรวจเกี่ยวกับคดี ลักษณะที่ 18 บทที่ 1 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยเคร่งครัด และให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ โดยเฉพาะ ผบช. และ ผบก. อำนวยการ กำกับ ติดตาม เร่งรัด การดำเนินการทางคดีด้วยตนเองอย่างต่อเนื่องทุกคดี เพื่อให้การสืบสวนสอบสวนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งให้ชี้แจงและสร้างความเข้าใจให้ผู้เสียหายและสื่อมวลชน เพื่อทราบความคืบหน้าในการปฏิบัติงานของตำรวจทุกระยะ
- กำชับการให้ข่าว แถลงข่าว หรือชี้แจงเกี่ยวกับขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนและพยานหลักฐานทางคดีเนื่องจากในระยะที่ผ่านมา บางคดีมีการให้ข่าว แถลงข่าว หรือเผยแพร่ข้อมูลพยานหลักฐานทางคดี เช่น กล้องวงจรปิด หลักฐานจาก พฐ. ข้อมูลการติดต่อทางโทรศัพท์ ตลอดจนข้อมูลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทางคดี ซึ่งอาจกระทบต่อการสืบสวนสอบสวน ทำให้เกิดความเสียหายต่อรูปคดีและการติดตามตัวผู้กระทำผิด จึงกำชับผู้เกี่ยวข้องให้ระมัดระวัง ห้ามมิให้มีการให้ข่าว แถลงข่าว หรือชี้แจงเกี่ยวกับเทคนิค ขั้นตอนการสืบสวนสอบสวน และพยานหลักฐานทางคดีซึ่งอาจกระทบต่อการปฏิบัติงานสืบสวนสอบสวน นอกจากนี้ให้ผู้บังคับบัญชา คอยกำกับ ดูแล อย่างใกล้ชิด เพื่อมิให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติดำเนินการในลักษณะดังกล่าว ทั้งนี้ในการให้ข่าว แถลงข่าว ให้สัมภาษณ์ หรือเผยแพร่ภาพต่อสื่อมวลชน กำชับให้ถือปฏิบัติตามระเบียบ คำสั่งที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด โดยเฉพาะระเบียบการตำรวจไม่เกี่ยวกับคดีลักษณะที่ 30 : การปฏิบัติเกี่ยวกับการให้ข่าว แถลงข่าวฯ ตลอดจนวิทยุ ตร. ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้แจ้งทุกหน่วยทราบส่วนหนึ่งแล้ว
- กำชับผู้บังคับบัญชาฝ่ายสืบสวน ให้อำนวยการ กำกับ ดูแล การปฏิบัติงานของนักสืบ เนื่องจากในระยะที่ผ่านมา มักปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนบางนาย ปฏิบัติหน้าที่โดยลำพัง บางครั้งผู้ปฏิบัติ ขาดทักษะ ยุทธวิธีความชำนาญ หรือความรู้ในการปฏิบัติงาน หรือบางกรณีมีการปฏิบัติหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ กระทบต่อภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของประชาชน จึงกำชับผู้บังคับบัญชาฝ่ายสืบสวนในทุกระดับ อำนวยการ กำกับ ดูแล ติดตามการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนอย่างใกล้ชิด ร่วมแก้ไขปัญหา สนับสนุน และสั่งการในการปฏิบัติหน้าที่ โดยเฉพาะการควบคุม กำกับ ดูแลความประพฤติ และระเบียบวินัยของเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน หากพบการกระทำผิด ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่อย่างเด็ดขาด
- ให้ทุกหน่วย เพิ่มความเข้มในการตรวจสถานบริการ สถานบันเทิง และสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะคล้ายสถานบริการ ร้านอาหารที่จำหน่ายสุรา ผับ บาร์ ต่าง ๆ โดยเน้นตรวจค้นอาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายทุกชนิด โดยให้บังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดและจริงจัง
ในการตั้งจุดตรวจ จุดสกัด ให้เพิ่มความเข้มในการตรวจค้นบุคคล/กลุ่มบุคคลเป้าหมาย ที่มีพฤติกรรมที่อาจจะก่ออาชญากรรมในพื้นที่ และตรวจค้นยานพาหนะที่ผ่านเข้าออกในพื้นที่ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุในเบื้องต้น รวมทั้งให้เพิ่มความเข้มในการตรวจค้นอาวุธปืน อาวุธสงคราม ระเบิด ยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ เพื่อเป็นการป้องกันและปราบปรามการกระทำผิด และตัดช่องทางโอกาสในการประกอบอาชญากรรมของคนร้าย
โดยให้ทุกหน่วยถอดบทเรียนจากเคส “กราดยิงอุบล” ทั้งเรื่องการป้องกันเหตุ การตรวจสถานบริการ การเข้าระงับเหตุ และเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นำมาเป็นบทเรียน ปรับแผนการปฏิบัติต่าง ๆ และซักซ้อมแผน เพื่อให้เกิดความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ - ให้ทุกหน่วยทบทวนการเข้าตรวจค้นจับกุมตามหลักยุทธวิธีตำรวจทั้งฝ่ายป้องกันปราบปรามและฝ่ายสืบสวน เพื่อป้องกันการสูญเสีย รวมทั้งผู้บังคับบัญชาจะต้องดูแล จัดหา สนับสนุน อาวุธยุทโธปกรณ์ เสื้อเกราะกันกระสุน ให้พร้อมอยู่เสมอ
ณ ห้องประชุมตำรวจภูธรภาค 7 ชั้น 2 ถ.ข้างวัง ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม