จากกรณีเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 68 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนายธันวา หุมเพียง อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ว่าได้ถูกรถเมล์ สาย 505 (ปากเกร็ด-วงเวียนใหญ่) ถอยชน ขณะที่กำลังขับขี่รถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 สีน้ำเงิน ขึ้นบริเวณเลนซ้ายเชิงสะพานพระราม 4 มุ่งหน้าปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นเหตุทำให้ตนและเพื่อนที่ซ้อนท้ายได้รับบาดเจ็บ รถจยย.พังเสียหาย โดยขับรถเมล์ได้ลงมาจากรถ อ้างว่าลืมของ ก่อนจะมอบเงินจำนวน 200 บาทให้ พร้อมระบุว่าเป็น “ค่าทำขวัญ” แล้วขับรถออกไป เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 ม.ค. 68 เวลาประมาณ 20.35 น. แจ้งความไว้ที่สภ.ชัยพฤกษ์
ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 12 ม.ค. 68 ที่สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ระหว่าง นายเมทนี เจริญพวง อายุ 33 ปี และน.ส.มัชชญา โพธิ์หัก อายุ 32 ปี พ่อและแม่ของนายธันวา หุมเพียง อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ผู้เสียหาย และนายฉัตรชัย ตันติพีรธรรม อายุ 48 ปี คนขับรถเมล์ สาย 505 (ปากเกร็ด-วงเวียนใหญ่) พร้อมบริษัทประกันภัย เข้ามาพูดคุยเจรจาค่าเสียหาย โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถตกลงกันได้
นายเมทนี พ่อของผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นัดตนมาพูดคุยเจรจากับฝั่งคู่กรณี และบริษัทประกันภัย ซึ่งตนได้เรียกค่าเยียวยาจิตใจของลูกชายจำนวนเงิน 100,000 บาท โดยบริษัทประกันได้รับเรื่องไว้ทั้งหมดเพราะฝั่งคนขับรถเมล์ผิดจริง ซึ่งคนขับรถเมล์ได้มีการขอโทษตนแต่ตนรู้สึกว่ามันช้าไป คำพูดเป็นนายคน ถ้าเขาไม่พูดว่าลูกชายตนขับรถย้อนศรมา ลูกตนก็ผิดเหมือนกัน ตนคงรู้สึกดีกว่านี้ ลูกชายได้มาเล่าเหตุการณ์ให้ฟังอีกว่าคนขับรถเมล์ถอยมาทับรถจยย.จนไปติดอยู่ใต้ท้องรถ โชคดีที่ไม่บาดเจ็บอะไรมาก ซึ่งที่เกิดเหตุมันไม่ควรจอดตรงนั้น ตนขอให้เขาซ่อมรถจยย.และโทรศัพท์มือถือให้ เขาก็ไม่ยอม วันนี้จึงเดินมาเพื่อพิสูจน์ว่าลูกชายตนไม่ได้ผิด ลูกชายตนเป็นลูกคนโต และคือความหวังของครอบครัวมาก ตนวาดฝันไว้อยากให้สอบตำรวจ ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ชัยพฤกษ์ และตัวแทนจากบริษัทประกัน ที่ช่วยประสานงาน และแสดงความรับผิดชอบ วันนี้ตนไม่กล้าให้ลูกชายของตนมาด้วยเพราะไม่อยากย้ำเหตุการณ์นาทีชีวิต และครอบครัวต่างรู้สึกสะเทือนใจกันมาก หากคืนนั้นถ้ารถจยย.ไม่ขัดล้อไว้ ยังนึกภาพไม่ออกว่าลูกของตนจะเป็นอย่างไรบ้าง กับความประมาทของคนขับรถเมล์
จากการสอบสวนนายฉัตรชัย ตันติพีรธรรม อายุ 48 ปี คนขับรถเมล์ สาย 505 (ปากเกร็ด-วงเวียนใหญ่) ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวเพียงสั้นๆว่า คืนเกิดเหตุตนขับรถออกมาจากอู่ใต้สะพานพระราม 4 และกำลังกลับรถเพื่อขึ้นสะพาน นึกได้ว่าลืมของเลยจอด ตนรู้สึกเครียดและไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ รู้สึกผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยินดีชดใช้ความเสียหายทั้งหมด
ด้านนายรังสิมันต์ รัตนจันท อายุ 30 ปี เจ้าหน้าที่ประกัน กล่าวว่า วันนี้ตนได้รับข้อเสนอไว้ตามที่ทางครอบครัวผู้เสียหายเรียกร้องมา ทั้งค่าเยียวยาจิตใจ ค่าทำขวัญ ค่าเสียเวลาที่น้องต้องหยุดเรียน จำนวนเงิน 100,000 บาท ส่วนค่าซ่อมโทรศัพท์มือถือและรถจยย. ที่เสียหาย ตนจะออกใบเคลมไว้เพื่อรับผิดชอบให้ทั้งหมด ซึ่งดูจากคลิปกล้องวงจรปิดแล้วฝั่งคนขับรถเมล์เป็นฝ่ายผิดจริง
เบื้องต้น ทางประกันภัยได้รับข้อเสนอการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน จำนวนเงิน 100,000 บาท โดยไม่รวมการชดใช้ความเสียหายในเรื่องของทรัพย์สิน ทั้งรถจยย.และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของบริษัทประกันภัย จะทราบผลภายในวันที่ 27 ม.ค. นี้ นอกจากนี้ทางคนขับรถขสมก. ได้มอบเงินเบื้องต้นให้แก่ครอบครัวผู้เสียหาย จำนวนเงิน 2,000 บาท และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน