นนทบุรี ชาวบ้านผวา ชายป่วยจิตเวชบุกเข้าห้องพบวีรกรรมเพียบ หวั่นไม่ปลอดภัยวอนญาติพาไปรักษา วันที่ 20 พ.ย.67 เวลา 16.00 น.ที่ เอื้ออาทรบางใหญ่ซิตี้ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พ.ต.ต.พงศ์ศักดิ์ จูมแพง สวป.(ชส) สารวัตรชุมชนสัมพันธ์ สภ.บางใหญ่ ลงพื้นที่ตรวจสอบหลังได้รับแจ้งจาก น.ส.เอื้อลภัส บัวขำ ผู้จัดการนิติบุคคลเอื้ออาทรบางใหญ่ซิตี้ มีผู้ชายมีอาการป่วยทางจิตเที่ยวไปเคาะห้องลูกบ้านคนอื่นตอนดึกๆ ไปขุ้ยขยะหาเศษอาหารกิน เข้าไปนอนในห้องคนอื่น เข้าไปนอนให้ห้องซักผ้า คุยกับตัวเองและบางครั้งก็ด่าทอด้วยคำหยาบคาย ล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้บุกไปห้องลูกบ้านที่เป็นคนแก่และเป็นผู้หญิง พยายามจะพังประตูเข้าไปให้ได้โชคดีที่ลูกบ้านฮึดสู้ดันประตูกันเอาไว้ได้ จากการตรวจสอบชายดังกล่าวทราบชื่อคือ นาย สุรพันธ์ เจตน์แสงอุบล หรือลุงแอ๊ด อายุ 61 ปี อดีตข้าราชการขนส่งกรุงเทพฯ อาศัยอยู่ในห้องพักที่ชั้น1 ตึก 41 โครงการเอื้ออาทรบางใหญ่ซิตี้ ภายในห้องมีสภาพสกปรก เหม็นกลิ่นเน่าจากเศษข้าวเศษอาหารและขยะต่างๆ พบเสื้อผ้าไม่ได้ซักที่นอนสกปรก เร่งประสานติดต่อญาติเพื่อนำส่งตัวไปรักษา น.ส.พิมล อาจหาญ อายุ 37 ปี พี่ ตุ่น (สวมเสื้อสีน้ำเงิน) เล่าว่า ตนอาศัยอยู่ที่ตึกเดียวกันกับลุงแอ๊ด ห้องก็อยู่ใกล้ๆกัน บางครั้งตนและลูกบ้านก็ยังช่วยหาข้าวหาน้ำมาให้ลุงแอ๊ด เพราะรู้ว่าแกไม่มีงานทำและไม่มีเงิน ทุกเย็นจะเห็นลุงแอ๊ดเดินออกมาตรงทางเดินและก็พูดคุยคนเดียว และยังด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย แต่ไม่รู้ว่าลุงแกด่าใคร เพราะตนก็ไม่เห็นว่ามีใครยืนคุยกับแก คนเดินผ่านไปผ่านมาก็กลัว แต่ตนไม่ได้กลัวลุงแกเพราะแกคุยรู้เรื่อง แต่ด้วยความที่ตนมีลูกบางครั้งก็รู้สึกรำคาญ เพราะแกด่าเสียงดังเด็กๆหลับอยู่ก็สะดุ้งตื่น ส่วนตัวแกยังไม่เคยมาเคาะประตูห้อง แต่แกจะเดินขึ้นไปอีกตึกนึงฝั่งตรงข้าม แกจะชอบขึ้นไปเคาะห้องที่ชั้น5 ซึ่งตนก็ไม่รู้ห้องใคร บางครั้งแกก็จะไปนอนอยู่ในห้องซักผ้า ทำให้คนที่จะลงมาซักผ้ากลัว ไม่กล้าเข้าไปใช้เครื่องซักผ้า ทางเจ้าของห้องซักผ้าก็เคยช่วยลุงแอ็ดหลายครั้ง ทั้งข้าว ค่าน้ำ ค่าไฟ เขาก็ช่วยจ่ายให้หมด ป้า องุ่น (สวมเสื้อคอกระเช้า) เล่าว่า ตนอาศัยอยู่ที่ตึก39 ชั้น1 ห้องที่ 6 เมื่อวานนี้(19 พ.ย.)เวลาประมาณ 07.00 น. ตนกำลังถูพื้นอยู่ในห้องและไม่ได้ล็อคประตู จู่ๆลุงแอ๊ดก็เดินมาเคาะห้องและผลักประตูจะเข้ามาในห้อง พอตนเห็นจึงรีบวิ่งไปใช้มือดันประตูเอาไว้ ไม่ให้เข้ามาตอนนั้นก็ดันกันไปดันกันมา ตนก็พยายามดันจนสุดกำลังเพื่อไม่ให้เขาเข้ามาในห้อง ถ้าเขาเข้ามาได้ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น โชคดีที่ตอนนั้นตนถือไม้ถูพื้นอยู่ด้วยจึงได้ยกขึ้นมาขู่ว่าจะตีเขา เขาจึงยอมถอยกลับออกไป ตนสังเกตุมาหลายวันแล้วเห็นเขาชอบเดินมามองห้องตนอยู่ครั้ง วันนี้พอรู้ว่ามีเจ้าหย้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยดูแลก็สบายใจและอยากให้พาลุงแอ๊ดไปรักษา กลัวว่าหากวันนึงเขามีอาการหนักกว่านี้กลัวว่าเขาจะไปทำร้ายคนอื่น หรือหากเขากลับมาที่ห้องตนเอง ตนก็อาจจะไม่โชคดีแบบนี้เพราะตนก็แก่แล้วและอยู่ห้องเพียงลำพัง ด้าน น.ส.เอื้อลภัส บัวขำ ผู้จัดการนิติบุคคลเอื้ออาทรบางใหญ่ซิตี้ กล่าวว่า ตนรับแจ้งจากลูกบ้านหลายครั้งถึงเรื่องของลุงแอ๊ด ซึ่งที่ผ่านมาลุงแกมีพฤติกรรมชอบเดินไปเคาะห้องของลูกบ้านคนอื่นตอนดึกๆ ไปขุ้ยขยะหาเศษอาหารมากิน เข้าไปนอนในห้องซักผ้า และชอบด่าคำหยาบดังๆ ส่วนใหญ่แกจะไม่ค่อยอยู่ห้องแต่มักจะชอบเดินเตร็ดเตร่ไปเรื่อยๆ ภายในโครงการ ทำแบบนี้มาประมาณ 1 ปีแล้ว จนเริ่มมาหนักช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งที่ผ่านมาเวบาคุยดับลุงแอ็ดแกก็คุยรู้เรื่อง ตนได้พยายามติดต่อหาญาติให้แกแล้วแต่ก็ไม่สามารถตามหาได้ จนวันนี้ต้องประสานขอความช่วยเหลือกับ พ.ต.ต.พงศ์ศักดิ์ จูมแพง สวป.(ชส) สารวัตรชุมชนสัมพันธ์ สภ.บางใหญ่ ให้ช่วยตามหาญาติจนกระทั่งตรวจสอบพบว่าลุงแอ๊ดมีลูกชายอยู่ 1 คน จึงได้โทรให้ลูกชายเข้ามาดูและช่วยกันหาทางออก เพื่อทำให้ลูกบ้านที่อาศัยอยู่ที่นี้สบายใจและนำตัวลุงแอ๊ดไปรักษา ทางด้าน นาย พันธุ์ หรืออาร์ม เจตน์แสงอุบล อายุ 30 ปี (ลูกชาย) เล่าว่า หลังทราบเรื่องจึงรีบมาทันที ตนไม่ทราบว่าพ่อมีอาการป่วยทางจิต เพราะที่ผ่านมาพ่อไม่เคยมีอาการงแบบนี้มาก่อน หลังจากพ่อกับแม่เลิกกันก็ประมาณ 10 ปีแล้ว ตนไปอาศัยอยู่กับแม่ ส่วนพ่อก็มาซื้ห้องอยู่ที่นี้ ตอนนั้นตนก็ยังเป็นคนเข้ามาจัดการดูแลความสะอาดห้องก่อนพ่อจะย้ายเข้ามาอยู่เลย แต่ก่อนหน้านี้ตนกับพ่อมีปากเสียงและทะเลาะกันตนจึงไม่ได้ติดต่อพ่ออีกเลย น่าจะผ่านมาประมาณ 2ปีกว่าๆ แล้ว ซึ่งตอนนั้นตนทราบว่าพ่อก็ยังติดต่อกับพี่สาวและญาติๆของเขาอยู่เลย ยังเห็นมารับไปกินเหล้าที่บ้านพี่สาวอยู่เลย แต่ตอนนี้ไม่รู้ทำไมพ่อถึงอยู่ในสภาพแบบนี้ หลังจากนี้ตนจะพาพ่อไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล หากพ่อมีอาการปาวยทางจิตจริงก็จะพาไปรักษาที่โรงพยาบาลเฉพาะทาง ตนต้องขอโทษทุกคนจริงๆ ที่พ่อของตนสร้างความเดือดร้อนให้ *เบลอหน้าพ่อและลูกชายด้วยครับ