รวบบัญชีม้า
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 15 พ.ย. พ.ต.อ.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว ผกก.สน.เพชรเกษม
พ.ต.ต.ธวัชชัย ทิพย์วงศ์ สว.สส.ฯ , จ.ส.ต.เอกยุทธ ปล้องคง ผบ.หมู่ (ป.) จ.ส.ต.สมภพ เที่ยงธรรม ผบ.หมู่ (ป.) ฯ และ ส.ต.อ.ประทานพร เชษขุนทด ผบ.หมู่ (ป.) ฯ ร่วมกันจับกุมตัว น.ส.ยุทธารี ปั้นศุข อายุ 44 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรีที่ 971/2567 ต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงโดยการแสดงตนเป็นคนอื่นอันเป็นเท็จต่อประชาชน และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมด หรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน”
โดยจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก ตำบลห้วยยาง อำเภอโขงเจียม จ.อุบลราชธานี
พฤติการณ์ คือ เมื่อวันที่10 มี.ค.67 นางเจน (นามสมมติ) อายุ65ปี เห็น โฆษณาทางเพจเฟซบุ๊ก ซึ่งเป็นกลุ่มสาธารณะชื่อ “สินเชื่อกรุงไทย ใจป้ำ” และได้ติดต่อแอพพลิเคชั่นไลน์ ชื่อบัญชี “ฝ่ายบริการ KTB” เพื่อสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสินเชื่อกู้ยืมเงิน ทางแอพฯแจ้งให้นางเจน กรอกข้อมูลส่วนตัวผ่านทาง LINK: https://bit. ly/Krungthai-Online สแกนบัตรประจําตัวประชาชน พร้อมสแกนใบหน้า สแกนสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีท้ังหมด รวมไปถึง สแกนลายเซ็นที่เขียนด้วยลายมือ ลงไปในระบบ
เมื่อนางเจนกรอกข้อมูลเสร็จเรียบร้อย เจ้าหน้าที่ในระบบแจ้งว่า ให้รอ1-2 วัน เพื่อให้ระบบอนุมัติผลการกู้ยืมเงิน ลงทะเบียนยื่นกู้เสร็จสมบูรณ์ ให้นางเจนติดต่อไปยังบัญชีไลน์ ชื่อ“ฝ่ายการเงิน” ซึ่งแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายสินเชื่อ เมื่อผลออกมา เลขบัตร หรือ เลขบัญชีไม่ถูกต้อง เจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะต้องโอนเงินจํานวน 238,816 บาท เพื่อเป็นการปลดบล็อคระบบในการแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องและยกเลิกอายัดวงเงิน นางเจนแจ้งว่า มีเงินเพียง 20,000 บาท เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้โอนเงินไปจํานวน 20,000 บาท นางเจนจึงได้โอนเงินไปก่อนเพื่อยืนยันว่าจะยังคงประสงค์กู้ยืมเงินและรับเงิน แล้วหามาเพิ่มให้ได้ตามจํานวนข้างต้น ซึ่งนางเจนไม่สามารถหาเงินตามจํานวนดังกล่าวได้ และสังเกตเห็นความผิดปกติของเจ้าหน้าที่และระบบที่ไม่สามารถแก้ไขได้ รวมไปถึงให้โอนเงินเป็นจํานวนมากไปก่อน คิดว่าโดนหลอก จึงแจ้งความไว้ที่สน.เพชรเกษม
จากการสอบสวนน.ส.ยุทธารี ให้การอ้างว่า ไม่เคยเปิดบัญชีให้ใคร เพียงแต่เคยจะขอกู้เงินในเพจเฟซบุ๊ก ต้องมีการสแกนใบหน้า บัตรประชาชน แต่สุดท้ายกู้ไม่ผ่าน แต่ก็ไม่ได้สนใจ จนกระทั่งมาถูกจับดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่ไม่เชื่อ
จากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาพบเคยมีคดีฉ้อโกง พื้นที่สภ.โพธิ์แก้ว จ.นครปฐมและมีผู้เสียหายอีก9ราย ที่อายัดบัญชีชื่อน.ส.ยุทธารี มูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท ความเสียหายหลายพื้นที่ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป