กลุ่มผู้เสียหาย บุกกองปราบเอาผิดผู้รับเหมาแสบ โกงเงินสร้างบ้าน ทิ้งงาน หนำซ้ำปลอมสลิปเบิกจ่ายค่าวัสดุก่อสร้าง เสียหายกว่า 10 ล้าน

กลุ่มผู้เสียหาย บุกกองปราบเอาผิดผู้รับเหมาแสบ โกงเงินสร้างบ้าน ทิ้งงาน หนำซ้ำปลอมสลิปเบิกจ่ายค่าวัสดุก่อสร้าง เสียหายกว่า 10 ล้าน 

เมื่อวันที่ 13 พ.ย. นายธนาผล กีรสิทธิ์เสริฐ อายุ 47 ปีพร้อมผู้เสียหายกว่า 10 ราย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ป.เพื่อแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษกับนายณัฐนันท์ และ  น.ส.ฐิดาภา (ทั้งสองสงวนนามสกุล) สองสามีภรรยา ที่ก่อเหตุหลอกกลุ่มผู้เสียหาย รับต่อเติมสร้างบ้าน แต่ภายหลังมีการเบิกเงินก้อนแรก และทิ้งงานไป หนำซ้ำมีพฤติกรรมปลอมสลิปใบเสร็จเบิกค่าวัสดุก่อสร้าง จนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท


นายธนาผล กล่าวว่า สืบเนื่องจากตนรู้จักกับผู้รับเหมารายนี้ผ่านทางเพจเฟสบุ๊ก ซึ่งตัวของผู้รับเหมารายนี้ ได้ประกาศรับสร้าง-ต่อเติมบ้าน ด้วยความสนใจตนจึงได้ติดต่อไป โดยบ้านของตนสร้างอยู่บนที่ดินตาบอดรถใหญ่ไม่สามารถเข้าถึง และผู้รับเหมาส่วนใหญ่จะรับงานในราคาที่แพงกว่าปกติ ซึ่งผู้รับเหมารายนี้ยืนยันว่ารับสร้างบ้านให้ จึงได้ทำสัญญากัน  หลังทำสัญญาทางผู้รับเหมาได้นำคนงานเข้ามาทำงานพองานคืบหน้าสัก 20-30% ก็จะเบิกค่าแรงงวดแรกไป ก่อนจะทิ้งให้ลูกน้องทำงานต่อ 2-3 คน จนกระทั่งคนงานได้หนีไปทิ้งงาน เมื่อสอบถาม ได้ความว่าทางผู้รับเหมา ไม่ได้มีการจ่ายค่าแรงให้กับพนักงานหรือคนงาน ทำให้ไม่สามารถที่จะดำเนินก่อสร้างต่อได้ อย่างไรก็ตาม ได้สอบถามไปยังผู้รับเหมารายนี้ก็กลับไม่ได้รับคำตอบ อีกทั้งมีพฤติกรรมบ่ายเบี่ยงและพยายามบล็อกทุกช่องทางในการติดต่อ และ มาทราบภายหลังว่ามีผู้เสียหายที่โดนในลักษณะเดียวกันอีกจำนวนมากบางรายถึงกับหมดตัว เพราะเป็นเงินเก็บที่อยากจะมีบ้านเป็นเองตัวเอง สุดท้ายก็ไม่มีบ้าน แถมได้หนี้สินมา 

น.ส.สิริวิไล แตงแสงจันทร์ อายุ 43 ปี กล่าวว่า ในส่วนของตน ผู้รับเหมารายนี้ได้ยื่นสลิปการโอนเงินซื้อวัสดุก่อสร้างมาให้ตน จำนวน 30,000 บาท แต่เมือเช็คกับทางร้านวัสดุก่อสร้างจึงทราบว่า สลิปเงินดังกล่าวเป็นของปลอม ยอดสั่งซื้อจริงอยู่ที่ 10,000 กว่าบาท ซึ่งทางร้านดังกล่าวยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน เมื่อติดตามทวงถาม ผู้รับเหมารายนี้ก็บ่ายเบี่ยง เมื่อทวงถามบ่อยๆเข้า ผู้รับเหมารายนี้ก็บล็อกเบอร์ติดต่อทุกช่องทาง เช่นเดียวกับ น.ส.ปภัสสิริย์ ปัณณพรพิชญ์ อายุ 44 ปี ระบุอีกว่า ตั้งแต่ปี 62 เราตามสืบมาเมื่อจับได้ผู้รับเหมารายนี้ก็จะย้ายบ้านหนี เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ เปลี่ยนเพจเฟชบุ๊ก และไม่เคยถูกดำเนินคดีใดๆเลย เชื่อว่าทำให้เขามั่นใจหลอกลวงผู้เสียหายรายอื่นๆอีก โดยจะเน้นเบิกเงินงวดแรกๆงวดที่เยอะๆ แล้วก็ทิ้งงานไปติดต่อไม่ได้อีกเลย นอกจากนี้ลูกน้องของผูัรับเหมาได้เล่าให้ฟังอีกว่า ที่ผ่านมาเอกสารหมายศาลไปถึงผู้รับเหมารายนี้ก็บอกให้ลูกน้องเอาไปทิ้งถังขยะหรือฉีกทิ้ง 

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำกลุ่มที่เสียหายไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาสั่งการต่อไป