ลูกน้องฉุน.!! เบิกค่าแรงไม่ได้ ต่อยผู้รับเหมาจนบาดเจ็บก่อนชิงรถ จยย.หลบหนี ย่านประชาอุทิศ
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2567
นาย บุญส่ง บุญแต้ม อายุ 64 ปี ผู้รับเหมารีโนเวทบ้าน ได้เดินทางไปที่ สน.ราษฎร์บูรณะ เพื่อเเจ้งความร้องทุกข์ กับร้อยตำรวจเอก จีระศักดิ์ หอมนาน รอง สว.สอบสวน สน.ราษฎร์บูรณะ เนื่องจากตนถูกลูกจ้างทำร้ายร่างกายแล้วยังชักมีดมาข่มขู่ตนแล้วชิงรถจักรยานยนต์ หลบหนีไป ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณ ปากซอย ประชาอุทิศ 11 เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าวแล้วจึงรีบรุดจัดกำลัง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายสืบ สน.ราษฎร์บูรณะ เร่งรัดตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วนทันที
และเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบจุดเกิดเหตุดังกล่าวอยู่บริเวณหน้าปากซอยประชาอุทิศ 11 ถนน ประชาอุทิศ แขวง ราษฎร์บูรณะ เขต ราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ภายในจุดเกิดเหตุพบกับญาติของผู้เสียหายยืนรอให้การกับเจ้าหน้าที่อยู่และจากการตรวจสอบพื้นที่โดยรอบแล้วพบว่าจุดเกิดเหตุดังกล่าวเป็นซอยแคบและเป็นเส้นทางที่จะทะลุออกได้หลายซอย เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงทำการตรวจเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายดังกล่าวโดยการเดินตรวจสอบหากล้องวงจรปิดภายในที่เกิดเหตุและบริเวณใกล้เคียง แต่ว่าถายในซอยดังกล่าวเป็นซอยที่มีทางสลับซับซ้อนเป็นอย่างมาก แต่อย่างไรเจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ลดละความพยายามและเร่งติดตามค้นหาตัวผู้ก่อเหตุอย่างเต็มที่ ต่อมาจึงทราบชื่อผู้ก่อเหตุรายดังกล่าวชื่อนาย จุ่น อายุประมาณ 30 ปี เป็นลูกจ้างของผู้เสียหาย เนื่องจากทางผู้เสียหายไม่ได้เก็บเอกสารหลักฐาน ของนาย จุ่น เอาไว้เลยจึงไม่มีรูปภาพใบหน้าของนาย จุ่น ผู้ลงมือก่อเหตุ และตรงนี้ก็เลยทำให้ยากต่อการตามจับตัวเป็นอย่างมาก และยังทราบต่อมาอีกว่า นาย จุ่น เพิ่งจะมาทำงาน กับนาย บุญส่ง ได้ประมาณแค่ 10 วันเท่านั้นเองแล้วก็ลงมือก่อเหตุการณ์ดังกล่าวเลย
นาย บุญส่ง บุญแต้ม อายุ 64 ปี ผู้เสียหายและบาดเจ็บ บอกเล่าว่า เมื่อเช้านี้ตนขี่รถมอไซค์มาจอดไว้ปากซอยประชาอุทิศ 11 แล้วเข้าไปในซอยเพื่อไปทำงาน พอประมาณ 10 โมง ตนก็ออกมานั่งดูดบุหรี่ที่รถ แล้วเค้าก็มาเตะก้านคอ ตนก็ล้มลงไป เค้าก็เข้ามาต่อยๆๆ แล้วก็คว้าเอากุญแจรถ ขี่รถของตนเข้าไปในซอย คนก่อเหตุเคยทำงานกับตนมาประมาณ 10 วัน แล้วตนก็ให้เงินไปแล้ว แต่ยังไม่ครบ เค้ามาทวงถามเงินที่เหลือ แต่ตนบอกว่า เดี๋ยวจะหามาให้ เค้าก็ไม่ฟัง มาทำร้ายตนและเอารถไปเลย
และนาง ต้อย อายุ 54 ปี ภรรยาของนายบุญส่ง บอกเล่าว่า รถมอไซค์ จะใช้ขี่มาทำงานตรงนี้ประจำ แต่หยุดไป 2 วัน สามีตนก็เพิ่งมาวันนี้ ก็มาจอดตามปกติ แล้วสามีตนก็นั่งดูดบุหรี่ ก็มาเตะเสยเข้าที่หน้า มีแผลที่หางคิ้วข้างซ้าย และบริเวณหูข้างซ้าย ก็ไปแจ้งความ มาแล้ว คนที่ก่อเหตุก็เป็นคนงานเค้านี่แหละ ไม่ได้เอาเอกสารอะไรไว้ มีคนฝากให้ทำงานอีกทีนึง แต่ก็จำหน้าได้ จะมาเอาตังค่าแรง สามีตนก็บอกว่า เดี๋ยววันนี้เบิกให้ เค้าก็ไม่ฟังๆ
เบื้องต้นเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. ที่ปากซอยประชาอุทิศ 11 นาย จุ่น ได้มาขอเบิกเงินค่าแรงจำนวน 1,500 บาท ที่นาย บุญส่ง ซึ่งเป็นนายจ้าง แล้ว นาง ต้อย ซึ่งเป็นภรรยาของนาย บุญส่ง ก็บอกว่าจะไปเบิกมาให้ แต่นาย จุ่น กลับไม่พอใจจึงลงมือก่อเหตุทำร้าย นาย บุญส่ง จนได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลถลอกบริเวณหางคิ้วด้านซ้าย และที่คอหลังใบหู ซึ่งบาดแผลดังกล่าวเกิดจากการที่นาย จุ่น เตะที่ก้านคอจนล้มลงไปนอนกับพื้นแล้วก็โดนต่อยอีกหลายหมัดแบบไม่ยั้ง หลังจากนั้นนาย จุ่น ก็ชักมีดออกมาข่มขู่ว่าจะแทง นาย บุญส่ง แล้วก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น หรีด สี เทา ทะเบียน 7 ขฮ 851 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถจักรยานยนต์ ของนาย บุญส่ง หลบหนีไปโดยใช้เส้นทางหลบหนีภายในซอยประชาอุทิศ 11 แต่ว่าด้วยการที่ นาย จุ่น ชำนาญทางภายในซอยจึงรู้ทางลัดเลาะเป็นอย่างดีจึงทำให้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีได้อย่างรวดเร็วโดยยังไม่ทราบว่าขณะนี้ นาย จุ่น หลบหนีไปอยู่ที่ใด แต่อย่างไรแล้วเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงพื้นที่ตรวจสอบอย่างละเอียดทั้งภายในซอยและบริเวณโดยรอบ คาดว่าผู้ก่อเหตุดังกล่าวยังหลบหนีไปได้ไม่ไกลแล้วจะดำเนินการจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายได้อย่างแน่นอน