วิ่งแก้บนกลับบ้านจาก “เรือนจำเขาบินราชบุรี-สุราษฎร์ธานี” หลังได้รับการปล่อยตัว . อดีตนักโทษเรือนจำกลางเขาบิน ตำบลหนองนางแพรว อำเภอจอมบึง ราชบุรี วิ่งแก้บนหลังพ้นโทษคดียาเสพติดจากหน้าเรือนจำกลับบ้านเกิดที่สุราษฎร์ธานี เชื่อความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปในแดนผู้ต้องขังที่ช่วยเหลือให้พ้นโทษเร็ว จากกรณีมีการออกประมวลกฎหมายใหม่ของผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์การปล่อยตัว . วันนี้ (25 ต.ค.67) มีการปล่อยตัวของอดีตนักโทษ 6 คนจากกรณีมีการออกประมวลกฎหมายใหม่ของผู้ต้องขังที่เข้าเกณฑ์การปล่อยตัว ขณะที่ 1 ในจำนวน 6 ที่ได้บนบานศาลกล่าวเอาไว้กับองค์พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ประจำแดน 6 ภายในเรือนจำกลางเขาบิน ต.หนองนางแพรว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ว่าถ้าหากพ้นโทษก็จะขอวิ่งจากหน้าเรือนจำกลับบ้านเกิด โดยช่วงสายวันนี้ได้ถูกปล่อยตัวออกจากจำกลางเขาบิน ซึ่งเป็นเรือนจำความมั่นคงสูง ในคดียาเสพติดร่วมกับเพื่อนๆ อดีตนักโทษอีก 5 คน ซึ่งมีพ่อ แม่ ญาติมารอรับตัวกลับเช่นกัน ขณะที่นายปัญจนาท (ขอสงวนนามสกุล) เดินออกจากเรือนจำ ที่มีแม่ และลูกมารอรับ นายปัญจนาท ได้คุกเข่ากราบเท้าแม่ด้วยความสำนึกบุญคุณ พร้อมกับสวมกอดด้วยความดีใจและคิดถึงร่วมกับพี่น้องที่มาคอยรับกลับบ้านเกิดที่ จ.สุราษฎร์ธานี แต่นายปัญจนาท บอกแม่ว่าขอวิ่งออกจากเรือนจำเพื่อกลับบ้านเพราะได้บนเอาไว้ . นายปฏิพัทธ์ มหายศนันท์ รักษาการผู้อำนวยการส่วนพัฒนาผู้ต้องขัง เรือนจำกลางเขาบิน กล่าวว่า สำหรับประมวลกฎหมายยาเสพติด เป็นการรวบรวมกฎหมายหลายฉบับในประเทศไทยมารวมไว้เป็นประมวลเพียง 1 ฉบับ แต่ก่อนจะมีกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดเยอะมาก ทั้งของ ปปส. เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ถือกฎหมายอีกฉบับ สาธารณสุขก็ถืออีกกฎหมายหนึ่ง ทางรัฐบาลได้มีการรวมกฎหมายทุกฉบับรวมมาเป็นประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งมีอัตราโทษที่มีเพิ่มขึ้น และลดลง ผู้ต้องขังก็จะได้รับประโยชน์จากประมวลกฎหมายนี้ มีการปรับลดโทษ มีการปล่อยตัวในวันนี้ ซึ่งผลเกิดจากได้ปรับโทษตามประมวลกฎหมายอาญาฉบับใหม่ บางคนได้รับลดโทษตามประมวลกฎหมายยาเสพติด บางคนได้รับการปรับโทษ ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ย้อนหลัง 3 – 5 ปี แล้วแต่คนที่ได้อภัยโทษ ตามวาระต่าง ๆ มีผลย้อนหลังให้หมด . โดยประมวลกฎหมายยาเสพติดจะดูปริมาณและดูพฤติการณ์ของการกระทำผิด ว่าเป็นผู้ค้ารายใหญ่หรือไม่ ผู้ขน ผู้รับจ้าง อัตราโทษจะลดหลั่นกันไป ผู้ต้องขังส่วนมากที่ได้ส่วนใหญ่การปรับโทษไม่ใช่ผู้ร้ายรายสำคัญ เป็นชนิดผู้ขน อัตราโทษจะต่ำลงมา จึงได้รับประโยชน์ตรงนี้และปรับโทษจนได้รับการปล่อยตัว . “วันนี้ได้รับการปล่อยตัวจำนวน 6 คน ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดฉบับใหม่ กรณีถ้าเป็นคดียาเสพติดส่วนมากจะขอปรับโทษตามประมวลกฎหมายใหม่ทั้งหมด ส่วนใครจะได้หรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล ซึ่งจะมีอยู่ 2 ประเภท คือ ปรับโทษแต่ยังไม่ได้ปล่อย และปรับโทษเสร็จแล้วและปล่อยตัวพ้นโทษในวันนี้เลย” นายปฏิพัทธ์ กล่าว . จากการสอบถามนายปัญจนาท อดีตนักโทษ กล่าวว่า เนื่องจากคดีตนเองตอนแรกได้รับมา 2 ปีแล้ว ต่อมามีข่าวออกมาไม่ดีตนเองก็เลยถอนอุทธรณ์และได้ไปแก้อุทธรณ์ใหม่อีกครั้ง ซึ่งมันเป็นไปได้ยากที่จะได้ในคดีแบบนี้ แต่ศาลท่านให้และมั่นใจว่าเป็นพระพุทธรูปในแดนที่ตนอยู่ ได้บนบานศาลกล่าวท่านไว้และเป็นพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 10 น่าจะให้โอกาสกลับไปหาพ่อ แม่ ทำตัวให้ดีใหม่อีกครั้ง . สำหรับพระพุทธรูปเป็นลักษณะปางสมาธิอยู่ในแดน จะมีเพื่อน ๆ นักโทษชอบไปบนบานศาลกล่าวท่านอยู่บ่อยเพราะเชื่อในความศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งก็ได้ทำความสะอาดถวายน้ำอยู่เป็นประจำ และจะช่วยหัวหน้าคอยทำความสะอาดพื้นที่ในแดน มีงานทำจะได้ไม่ฟุ้งซ่าน หลังพ้นโทษก็จะกลับไปทำอาชีพเกษตรกับครอบครัวเพื่อสร้างชีวิตใหม่ . อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พูดคุยกับครอบครัวเป็นที่หายคิดถึงเรียบร้อยแล้ว นายปัญจนาท ได้ยกมือไหว้พระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ที่อยู่บริเวณด้านหน้าเรือนจำ และระลึกถึงพระพุทธรูปประจำแดน 6 ที่เคยอยู่ เพื่อระลึกถึงพระคุณที่คอยช่วยเหลือให้สามารถกลับไปใช้ชีวิตใหม่อีกครั้ง จากนั้นได้ออกวิ่งจากหน้าเรือนจำเพื่อกลับบ้านเกิดที่สุราษฎร์ธานี ตามที่ได้บนบานศาลกล่าวเอาไว้ ซึ่งมีระยะทางจากราชบุรีไปสุราษฎร์ธานี ประมาณ 596 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถประมาณ 8 ชั่วโมง แต่หากเป็นการวิ่งหรือเดินจะใช้เวลาประมาณ 5 – 6 วันโดยมีเจ้าหน้าที่เรือนจำมายืนส่งในกำลังใจ . แต่ทั้งนี้ทางเรือนจำกลางเขา และแม่ของนายปัญจนาทเอง เป็นห่วงว่า เกรงว่าหากวิ่งไปถึงสุราษฎร์ธานีจริงๆ จะเกิดอันตรายหลายเรื่อง ทั้งเรื่องอุบัติเหตุ และอาจมีผู้ที่ไม่หวังดีในอดีต จึงตกลงกันว่าให้วิ่งออกจากหน้าเรือนไประยะหนึ่งแล้วให้นั่งรถจากนั้นเมื่อถึงจังหวัดสุราษฎร์ธานี ก็ให้ลงจากรถแล้ววิ่งเข้าบ้านแทน
