เอกสายไหมต้องรอด ร้องให้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน “ดิไอคอน” สงสัยว่ามีการโยกย้ายเงินเพื่อเลี่ยงการถูกอายัดทรัพย์ เมื่อเวลา 14.00 น. วันนี้ 18 ต.ค. ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอดและที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมทีมงาน ได้เดินทางเข้ามาเพื่อร้องให้พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ตรวจสอบตัวอย่างอุปกรณ์ที่เรียกว่า ‘ฮาร์ดแวร์ วอลเล็ต (Hardware Wallet)’ ซึ่งเป็นอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลเงินดิจิทัล มาตรวจสอบร่วมกับหลักฐานการโอนเงินดิจิทัลในช่วงเวลาก่อนที่บอสคนสุดท้ายของคดี ‘ดิไอคอน‘ จะถูกจับกุมว่ามีความเกี่ยวข้องกันหรือไม่ โดยนายเอกภพ กล่าวว่าจากการที่ตนได้ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนเงินดิจิทัล กรณีที่มีผู้ลงทุนรายหนึ่งได้ทำการขายเงินจำนวนกว่า 8-9 พันล้านบาทจากสกุล USDT ไปซื้ออีกสกุลเงินหนึ่งที่เรียกว่า อีเธอเรียม(Ether) โดยการตั้งซื้อแบบอัตโนมัติ ในห้วงเวลาเพียง 1 ชั่วโมงก่อนบอสคนสุดท้ายของคดีดิไอคอนจะถูกจับกุมตัว ทำให้มีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นการโยกย้ายทรัพย์สินเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกอายัดทรัพย์ ประกอบกับตนติดตามข่าวแล้วพบว่า ในการยึดทรัพย์ของบอสดิไอคอนนั้นมีสกุลเงินดิจิทัลเดียวกันกับที่ถูกยึดมาด้วย จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบว่าบอสรายดังกล่าวมีฮาร์ดแวร์วอลเล็ตหรือไม่ เพื่อทำการยึดมาตรวจสอบ ซึ่งหากมีจริงก็จะสามารถนำทรัพย์สินที่ถูกยักย้ายถ่ายโอนกลับคืนมาได้ อีกทั้งยังพบว่าขณะนี้บัญชีต้องสงสัยดังกล่าวยังมีการซื้อขายอยู่ ทั้งนี้ตนยังไม่ยืนยันว่าการทำธุรกรรมดังกล่าวว่ามีความเกี่ยวข้องกับดิไอคอนจริงหรือไม่ แต่ระยะเวลาในการทำธุรกรรมนั้นใกล้เคียงกับเวลาก่อนที่บอสคนสุดท้ายจะถูกจับ จึงนำหลักฐานมาเพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกันหรือไม่เท่านั้น










