นนทบุรี ต่อข่าว ดร.แก้วลงพื้นที่ช่วยไกล่เกลี่ยศึกสายเลือดโบกปูนปิดทาง ยอมถอยทั้ง 2 ฝ่าย
จากกรณีที่มีผู้เสียหายร้องขอความช่วยเหลือผ่าน เพจ “ดร.แก้วช่วยได้” ว่าขอให้ช่วยเข้ามาแก้ไขปัญหากรณีที่พี่สาวได้ก่ออิฐบล็อคมาปิดทางร่วม ทางเข้า-ออก ของบ้านน้องสาว (ผู้ร้องเรียน) และแม่ โดยเหลือเนื้อที่ให้สามารถขับขี่รถจยย.ออกจากบ้านได้เพียง 1 เมตรเท่านั้น
ล่าสุด วันที่ 14 ต.ค. 67 ดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาอัยการจังหวัดนนทบุรี , ประธาน กต.ตร.สภ.รัตนาธิเบศร์ และผู้ก่อตั้งเพจ “ดร.แก้วช่วยได้” พร้อมด้วย นายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง สส.พรรคประชาชน เขต 7 จังหวัดนนทบุรี (ซึ่งมาในฐานะให้ข้อมูลด้านกฎหมาย) ได้ลงพื้นที่เพื่อช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยปัญหานี้ และได้พูดคุยเจรจากับครอบครัวของพี่สาว ซึ่งน.ส.อ้อย (นามสมมุติ) ได้เดินออกมายืนอยู่หน้าบ้าน ตะโกนบอกว่า “ให้แบ่งครึ่งกันไปเลย และมีเสียงแม่บอกว่าแบ่งไม่ได้ มึงต้องเอาออก” ซึ่งดร.แก้ว และทนายโป้ง ได้เข้ามาพูดคุยแต่น.ส.อ้อย (นามสมมุติ) ไม่ยินยอม ยังยืนด่าแม่ตัวเอง จนทนายโป้งบอกว่า “พูดกับแม่ดีๆหน่อย”
โดยน.ส.อ้อย (นามสมมุติ) ก็อยู่ในอารมณ์ฉุนเฉียว ด่าทอ ผู้เป็นแม่ และค้านหัวชนฝาว่าจะให้แบ่งถนนร่วมคนละครึ่ง จาก 3 เมตร ให้เหลือคนละ 1.5 เมตรไปเลย ทำให้ต้องแยกมาพูดคุยเจรจา กับลูกชายและสามีของน.ส.อ้อย (นามสมมุติ) จนได้ข้อสรุปที่เข้าใจตรงกันทั้ง 2 ฝ่าย
นายเกียรติคุณ หรือทนายโป้ง กล่าวว่า จากเอกสารเบื้องต้นเส้นทางเข้า-ออกของบ้าน ของคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ที่เป็นพี่น้องกันเป็นกรรมสิทธิ์ร่วม เป็นชื่อที่ได้รับมรดกมาจากพ่อ ทั้งคู่มีความไม่เข้าใจกันเนื่องจากทางพี่สาว ซึ่งเป็นผู้จัดการมรดกมีการนำสุนัขมาเลี้ยง มีความเข้าใจผิดในเรื่องของมูลสุนัข ที่ทำความสะอาดร่วมกันไม่ได้ ต่อมาก็มีการเข้าใจผิดในเรื่องของการก่ออิฐกีดขวางทางจราจร ทำให้น้องสาวไม่สามารถนำรถยนต์ รถจยย. ขับขี่เข้าไปภายในบ้านของตัวเองได้ เพราะถูกอิฐบล็อกขวางทาง เรื่องนี้ได้พูดคุยเจรจากับทางลูกชายและสามี ของน.ส.อ้อย (นามสมมุติ) แล้ว ซึ่งทั้ง 2 ก็รับปากว่าจะไปพูดคุยเจรจากับน.ส.อ้อย และจะนำอิฐบล็อกออกให้ ส่วนในเรื่องของมูลสุนัขตัวสุนัขก็ต้องยืนยันว่าเจ้าของต้องเป็นคนดูแล แต่ถ้าเป็นยามวิกาล เจ้าของสุนัขหลับ ทางฝั่งน้องสาวและแม่ก็ยินยอมที่จะดูแลทำความสะอาดให้ โดยทำความสะอาดให้เรียบร้อยไม่ปัดไปในพื้นที่ของใครคนใดคนหนึ่ง
ด้านดร.ปรเมศร์ ชัยพัชรกุลพงษ์ หรือ ดร.แก้ว เปิดเผยว่า เท่าที่ฟัง ทั้ง 2 ฝ่ายแล้ว เข้าใจว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาภายในครอบครัว เป็นลักษณะของการอยากเอาชนะมากกว่า สิ่งที่ทะเลาะกันทำให้เสียหายทั้งคู่ ถ้าจะให้แบ่งพื้นที่สัญจร ตามกฎหมายสามารถทำได้แต่ถ้าทำแล้วมันจะลำบากทั้ง 2 ฝ่าย ทั้ง 2 บ้านจะไม่สามารถขับขี่รถจยย. หรือรถยนต์ เข้ามาจอดในบ้านได้เลย ซึ่งจะทำให้การใช้ชีวิตยากขึ้น
ขณะที่นายทวีศักดิ์ ฉ่ำนิตย์ลูกชาย ของน.ส.อ้อย (นามสมมุติ) ยืนยันว่าจะรื้ออิฐบล็อก ออกให้กับน้าและยายให้สัญจรได้สะดวก และก็จะทำตามข้อตกลงที่คุยกันไว้ เรื่องมูลสุนัขแต่ก็อยากให้อะลุ่มอล่วยกัน หากตนไม่เห็นว่าสุนัขไปขี้ที่บ้านน้า ให้มาแจ้งตนได้ตนจะได้ไปเก็บ ส่วนเรื่องแม่ก็รับปากว่าจะไปพูดคุยให้
