เมาไม่ขับจัดหนักผกก.คันนายาว
เสนอบิ๊กต่ายตั้งกรรมการสอบ
ไม่เป่าแอลกอฮอล์ติ๊กชีโร่
นายสุรสิทธิ์ ศิลปงาม ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่าถึงกรณีพ.ต.อ. นเรนทร์ เครื่องสนุก ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลคันนายาว ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนกรณีไม่ตรวจวัดแอลกอฮอล์ นายศิริศักดิ์ นันทเสน
( ติ๊กชีโร่ ) นักร้องชื่อดัง กรณีขับรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน บาดเจ็บ 1 คน เหตุเกิดในท้องที่สถานีตำรวจนครบาลคันนายาว
ตนได้ทำหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนใหม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ขอให้มีการตั้งกรรมการสอบสวน ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลคันนายาว ในฐานไม่ปฏิบัติตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการตรวจพิสูจน์ปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายของผู้ขับขี่หรือบุคคลฯ ซึ่งประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2565 ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง หรือข้ออ้างของตำรวจทั่วประเทศในกรณีเกิดเหตุเมาแล้วขับ ซึ่งแนวทางในการปฏิบัติตำรวจทราบดีและมีกฎหมายให้การคุ้มครองเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว การที่ผู้ที่เมาแล้วขับอ้างว่าเจ็บหน้าอกไม่สามารถทำได้ในทางกฎหมาย เพราะขนาดหมดสติทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถทำเรื่องขอให้โรงพยาบาลเจาะเลือดตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ได้ ไม่ถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ส่วนบุคคลด้วย กรณีผู้ที่เมาแล้วขับ อ้างว่าเจ็บหน้าอก วิญญูชนโดยทั่วไปย่อมทราบดีเป็นการประวิงเวลาที่จะทำการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย เพื่อให้ตนเองพ้นผิด เพราะเมื่อเวลาผ่านล่วงเลยไป ปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายจะลดลง ทำให้ผู้ที่เมาแล้วขับพ้นผิดไม่ถูกดำเนินคดีข้อหาเมาแล้วขับ อันจะเป็นช่องทางในการหลบเลี่ยงกฎหมาย และเป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน แสวงหาผลประโยชน์จากผู้ที่เมาแล้วขับ ถือเป็นการทำลายขบวนการยุติธรรม ซึ่งตำรวจถือเป็นต้นทางแห่งความยุติธรรม ก่อนจะไปถึงอัยการ และศาล
ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยว่า
โดยส่วนตัวไม่ได้มีเหตุโกรธเคืองอันใดกับผกก.สน.คันนานยาว แต่อยากให้กรณีนี้เป็นกรณีตัวอย่าง ไปยังตำรวจทั่วประเทศ ในกรณีเกิดเหตุอุบัติเหตุมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ต้องตรวจแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่ตามระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติอย่างเคร่งครัด กรณีผู้ที่เมาแล้วขับอ้างว่าเจ็บหน้าอก ไม่สามารถเป่าเครื่องวัดได้ ตำรวจยังสามารถตรวจปัสสาวะได้ และถ้ายังปฏิเสธไม่ให้ความร่วมมือ ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับได้เลย กรณีปฏิเสธตรวจวัดแอลกอฮอล์ ( เมาไม่เป่า ) โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้จัดการมูลนิธิเมาไม่ขับ กล่าว
