นนทบุรี วงจรปิด โดนซ้ำ 2 ครั้ง! เชฟเดช เชฟกระทะเหล็กอาหารจีนชื่อดัง เตือนภัย เผยกลโกงถูกมิจฉาชีพต่างชาติ ใช้แบงค์พันซื้อน้ำฉกเงินทอนหนี
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปวงจรปิดเตือนภัยมิจฉาชีพหลอกซื้อน้ำแบงค์พัน ฉกเงินทอนหนี พร้อมระบุข้อความว่า “เตือนภัย มิจฉาชีพ แบงค์ 1,000 มาซื้อน้ำ แล้วทำให้พนักงานสับสน (พนักงานเราเองก็ไม่รอบครอบ) เลยเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพ ระวังกันด้วยครับ โดน 2 ครั้งแล้ว (คนล่ะร้าน) คนร้ายเปลี่ยนคนมา แต่วิธีการแบบเดียวกัน เคยแจ้งความแต่ไม่คืบหน้า”
เมื่อวันที่ 25 ก.ย. 67 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้าน “เดช เป็ดพะโล้ By เหลาริมทาง” ย่านสนามบินน้ำ ถ.เลี่ยงเมืองนนทบุรี ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นร้านของนายอภิเดช เร่งบุญมา หรือเชฟเดช เชฟกระทะเหล็กอาหารจีนชื่อดัง ที่ถูกมิจฉาชีพใช้แบงค์พันซื้อน้ำแล้วหลอกเอาเงินทอนหนีไปถึง 2 ครั้ง ใน 2 สาขา
นายอภิเดช หรือเชฟเดช กล่าวว่า ตนถูกคนคนร้ายก่อเหตุลักษณะนี้มาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปลายเดือนพฤษภาคม ที่ร้านเดช เป็ดพะโล้ สาขาเลี่ยงเมืองนนท์ มีภาพจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพไว้ได้เป็นชาย 1 ราย เป็นคนแขกต่างชาติ พูดไทยไม่ได้ ได้เข้ามาก่อเหตุนำแบงค์พัน ทำท่าทีมาซื้อน้ำชาเขียว 1 ขวด จากนั้นได้พูดจาวกไปวนมาสั่งชาเขียวเพิ่มอีก 1 ขวด พูดจาวกวนให้พนักงานภายในร้านงง ระหว่างจะเงินทอน ทางคนร้ายก็ได้ดึงเงินของตัวเองคืนแล้วชวนคุยจนพนักงานหลงกล เผลอทอนเงินไปให้ส่วนต่างประมาณ 950 บาท ซึ่งตนได้แจ้งความไว้แล้วที่สภ.เมืองนนท์
นายอภิเดช หรือเชฟเดช กล่าวต่อว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ก.ย.67 เวลา 19.16 น. ตนได้ถูกคนร้ายซึ่งไม่ใช่รายเดิม โดยครั้งนี้มากัน 2 คน เป็นคนแขกชาวต่างชาติเช่นเดียวกัน ลักษณะการก่อเหตุเหมือนครั้งเก่าโดยนำแบงค์พัน มาซื้อน้ำเปล่าจำนวน 2 ขวด แล้วทำท่าหลอกชวนคุย ก่อนจะนำเงินที่จะยื่นให้พนักงานคืน ระหว่างพนักงานนับเงินทอน โดยครั้งนี้จะมีคนดูลาดเลา 1 คน อยู่หน้าร้านจะคอยกันพนักงานที่ร้านตนไม่ให้เข้าไปยุ่งระหว่างทอนเงิน จนกระทั่งพนักงานร้านตนเผลอ ลืมตัวหลงกลคนร้ายทอนเงินให้ไปเป็นจำนวน 980 บาท ซึ่งลักษณะการพูดจะเป็นการพูดภาษาอังกฤษคนไทย ซึ่งทางเด็กในร้านตนก็ไม่รอบครอบไม่ได้เช็คดูแบงค์พันว่าในลิ้นชักมีแบงค์พันหรือเปล่า ดูลักษณะคนร้ายเหมือนเป็นแขก บังคลาเทศ หรืออินเดีย ตนโดนมา 2 คาั้งแล้ว เท่ากับเสียทั้งเงินเงินทอนเสียทั้งน้ำไปเสียหายเป็นจำนวนเงิน 2,000 บาท การที่ตนนำเรื่องมาโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ก็เพื่อยากจะอยากฝากเตือนถึงร้านค้าด้วยกัน เพื่อป้องกันมิจฉาชีพที่มาในลักษณะนี้ควรดูให้รอบคอบ ซื้อน้ำแค่ 20 บาทแต่จ่ายแบงค์พัน โดยหลังจากนี้ตนได้บอกกับพนักงานทั้งหมด 3 สาขา สาขาราชพฤกษ์ เลี่ยงเมืองนนท์ และสนามบินน้ำ ว่าหลังจากนี้ไม่รับแบงค์พัน ที่ลูกค้ามาซื้อน้ำเปล่า 1-2 ขวด หรือมาซื้อข้าวเปล่า 1 ถุง เพื่อป้องกันมิจฉาชีพ ซึ่งช่วงนี้เศรษฐกิจก็ไม่ดีค้าขายก็ลำบากอยู่แล้วกลับมาเจอมิจฉาชีพในลักษณะนี้อีกพ่อค้าแม่ค้าก็ลำบาก แต่ครั้งล่าสุดตนไม่ได้แจ้งความเนื่องจากต้องทำมาหากิน
