นนทบุรี เดือดร้อนหนัก! ชาวบ้านกว่า 30 ชีวิต ต้องเดินลุยป่า ถูกปิดทางเข้า-ออก ที่ใช้มานาน 50 ปี เมื่อวันที่ 3 ก.ย. 67 นางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ สส.พรรคประชาชน เขต 2 จังหวัดนนทบุรี และทีมงาน ลงพื้นที่บริเวณชุมชนแห่งหนึ่ง ต.บางรักน้อย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านกว่า 30 ชีวิต ถูกปิดทางเข้า-ออก ที่ใช้มานาน 50 ปี ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก มีทั้งเด็ก คนชรา คนป่วย ผู้พิการติดเตียง ที่ต้องการใช้ทางนี้สัญจร ซึ่งมีพื้นที่ติดกับเส้นทางสาธารณะประโยชน์ โดยเจ้าของที่ได้ทำการปักเสาคอนกรีตลักษณะเป็นเสารั้ว จำนวน 15 ต้น และขึงด้วยลวดหนาม ระยะทางประมาณ 300 เมตร นอกจากนี้ระหว่างทางยังมีการนำกองไม้ ใบไม้ มาวางเพื่อปิดกั้นทาง ทำให้ชาวบ้านไม่สามารถสัญจรได้ และได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก นางจิราพร เคลื่อนคล้อย หรือยายหนูเอง อายุ 67 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ (เสื้อลายสก็อตสีส้ม) กล่าวทั้งน้ำตาว่า เมื่อก่อนเส้นทางนี้เดินเข้า-ออก ได้ตลอด ตนเสียใจมากไม่คิดว่าเขาจะมาทำกับตนได้ถึงขนาดนี้ ปกติก็เดินไม่ค่อยได้ เพราะขาไม่ดี ตอนนี้ยิ่งถูกปิดทางยิ่งลำบาก อยากกราบขอร้องให้เจ้าของที่เปิดทางให้ใช้งานได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีเจ้าหน้าที่มาถอดมิเตอร์ และมาตรน้ำ ตนเห็นแล้วก็รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก นางสมบัติ นิ่มนวล อายุ 74 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ (เสื้อสีเทาใส่หมวก) ตนอยู่ที่นี่ตั้งแต่เด็ก จนปัจจุบันอายุ 74 ปีแล้ว ใช้เส้นทางนี้สัญจรไป-มาตลอด เดิมเจ้าของที่เปิดทางให้ใช้เข้า-ออก พอเขาตายลูกสาวเลยมาล้อมรั้ว ตนใช้ชีวิตลำบากมาก เดินเลาะข้างทางก็กลัวลื่น เจ้าของที่อยากจะปิดก็มาปิดไม่เคยบอกกล่าวหรือพูดคุยอะไร ชาวบ้านต้องเอารถไปจอดข้างถนน หากรถหายก็ไม่รู้ใครจะรับผิดชอบ อยากให้เจ้าของที่ช่วยเห็นใจและเปิดทางเข้าออกให้ซัก 1.5 เมตร ให้สามารถใช้รถจยย.ได้ก็ยังดี ตอนนี้น้ำก็เริ่มขึ้น ถ้าน้ำท่วมยังไม่รู้จะเดินออกยังไง เพราะทุกวันนี้เอาไม้มาวางเพื่อเดินเข้า-ออกกัน ดีใจที่เห็นสส.เข้ามาช่วยเหลือ หากสามารถช่วยเจรจาได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี นางอัญธิกา คงแสง อายุ 46 ปี อาชีพรับจ้าง ชาวบ้านในพื้นที่-ผู้ร้องเรียน (เสื้อสีกรมท่า) กล่าวว่า ตนอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก ซึ่งพื้นที่ตรงนี้มีบ้านเรือนของชาวบ้านประมาณ 9 หลังคาเรือน และอาศัยอยู่กันทั้งหมด 30 คน ตอนนี้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เนื่องจากถูกปิดทางเข้า-ออก ซึ่งที่ตรงนี้เป็นที่มีเจ้าของ ที่เจ้าของเดิมอนุญาตให้ใช้สัญจรได้ พอตอนหลังเขาเสียชีวิตลูกสาวเลยล้อมรั้วเพื่อจะขายที่ รังวัดเสร็จเขาก็ล้อมรั้วโดยที่ไม่ได้มาพูดคุยอะไร ปกติเส้นทางนี้จะกว้างประมาณ 3 เมตร ซึ่งสามารถนำรถยนต์เข้า-ออกได้ พอถูกปิดทางก็ต้องนำรถไปจอดข้างถนน ที่นี่มีทั้งเด็ก คนชรา คนป่วย ผู้พิการติดเตียง ทุกคนใช้ชีวิตลำบากมาก ตนเคยร้องเรียนไปหลายหน่วยงานแต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร วันนี้จึงมาร้องเรียนกับสส.ปัญญารัตน์ เพื่อให้ช่วยเหลือและเจรจากับเจ้าของที่ให้เปิดทาง สามารถเข้า-ออกได้ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เจ้าของที่เห็นใจชาวบ้านที่อยู่ตรงนี้บ้าง เราขอเพียงแค่ทางเข้า-ออก กว้าง 1 เมตรเท่านั้น หรือถ้าเป็นไปได้ก็อยากขอให้เปิดทางจนสามารถนำรถเข้า-ออก ได้เหมือนเดิม นางปัญญารัตน์ นันทภูษิตานนท์ สส.พรรคประชาชน เขต 2 จังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าถูกปิดทางเข้า-ออก ด้านหน้า ซึ่งเป็นทางที่สามารถใช้สัญจรได้เพียงทางเดียว เนื่องจากด้านหลังติดคลองอ้อม และปัจจุบันไม่ค่อยมีการคมนาคมทางน้ำ จึงจำเป็นต้องใช้ทางด้านหน้าในการเข้า-ออก ซึ่งมีทั้งเด็ก คนชรา คนป่วย ผู้พิการติดเตียง ที่อาศัยอยู่บริเวณนี้ เวลาเด็กไปโรงเรียน หรือคนป่วยไปหาหมอก็ลำบาก เจ้าของที่ไม่ได้มีการมาพูดคุยหรือเจรจาอะไรก่อนที่จะปิดทาง ทุกคนลำบากมาก วันนี้ตนจึงลงพื้นที่เข้ามาช่วยเหลือเพื่อเจรจาและดูข้อกฎหมายถึงสิทธิของชาวบ้านทั้ง 30 ชีวิต ซึ่งเราให้ความยุติธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ว่ากันไปตามกฎหมาย และเจรจากัน โดยไม่ริดรอนสิทธิมาปิดทางเข้า-ออกแบบนี้ ตนพยายามติดต่อเจ้าของที่เพื่อให้มาพูดคุยหาทางออกร่วมกันแต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ อยากให้สื่อมวลชนเป็นกระบอกเสียงให้ชาวบ้านทั้ง 30 ชีวิต เพื่อให้เจ้าของที่เห็นข่าวและเข้ามาพูดคุยกัน ซึ่งจริงๆแล้วเจ้าของที่ก็เป็นญาติกับชาวบ้านที่เดือดร้อนด้วย อยากให้เข้ามาพูดคุยกันมากกว่า