รวบเซลล์แมนแสบ ยักยอกเงินบริษัทหลายบริษัท บริษัทเดียวเสียหายกว่า 1.5 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ, พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย, พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป., พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ และ พ.ต.ท.พชรเดช บุญฤทธิ รอง ผกก.1 บก.ป. เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.อนวัช ตันตินันทกุล สว.กก.1 บก.ป., ร.ต.อ.ธีรเดช อรุณนพรัตน์ รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป., ด.ต.ธวัชชัย ผาสุกานนท์, จ.ส.ต.ปิยะชัย เหมะธุลิน และ ส.ต.อ.ประพันธ์ ย้อยดา ผบ.หมู่ กก.1 บก.ป. ร่วมกันจับกุม นายจรัสฯ อายุ 42 ปี บุคคลตามหมายจับ 2 หมาย ได้แก่ – หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 1070/2565 ลงวันที่ 8 ธันวาคม 2565 – หมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ 111/2565 ลงวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ยักยอก” สถานที่จับกุม ตำบลบางตีนเป็ด อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2562 นายจรัสฯ (ผู้ต้องหา) ซึ่งทำงานเป็นพนักงานที่บริษัทนำเข้าและจำหน่ายเครื่องสำอางแห่งหนึ่งย่านมีนบุรี โดยผู้ต้องหามีหน้าที่หาลูกค้า และเสนอขายสินค้าเครื่องสำอางและสินค้าเสริมความงามของบริษัท ซึ่งภายหลังจากที่ผู้ต้องหาทำงานในบริษัทฯ ได้ไม่นาน บริษัทฯ ได้ตรวจพบว่านายจรัสฯ ได้แอบยักยอกเงินของบริษัทฯ โดยเป็นการรับเงินค่าสินค้าจากลูกค้าแล้วไม่ยอมส่งเงินให้บริษัทฯ แอบนำเอาไปใช้ส่วนตัวจำนวนหลายครั้ง รวมมูลค่าความเสียหายมากกว่า 1.5 ล้านบาท ซึ่งภายหลังจากก่อเหตุ ผู้ต้องหาได้หลบหนีออกจากบริษัทฯ และไปสมัครเข้าเป็นพนักงานขายที่บริษัทอื่นย่านมีนบุรี และก่อเหตุในลักษณะเดิมอีก โดยจากการตรวจสอบพบว่ามีผู้เสียหายในพื้นที่มีนบุรีรวมตัวเข้าแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีต่อศาลอาญามีนบุรี ซึ่งต่อมาศาลอาญามีนบุรี ได้ออกหมายจับผู้ต้องหารายดังกล่าวไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กก.1.บก.ป. ได้ทำการสืบสวนติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหารายดังกล่าว โดยพบว่าผู้ต้องหายังมีพฤติกรรมยักยอกในลักษณะดังกล่าวอยู่ โดยจะเข้าไปทำงานในบริษัทต่างๆ และก่อเหตุกระทำความผิด ก่อนจะหลบหนีไปในพื้นที่จังหวัดอื่น ทั้งจังหวัดชลบุรี, จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดกาฬสินธุ์ อีกทั้งยังทราบว่าผู้ต้องหาได้พยายามหลบหนีออกนอกประเทศอีกด้วย จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบทราบว่าปัจจุบันผู้ต้องหาแอบมาพักอาศัยและทำงานอยู่ที่บริษัทในพื้นที่ตำบลบางตีนเป็ด อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงลงพื้นที่ตรวจสอบและวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหารายดังกล่าวได้ จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาส่งศาลอาญามีนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยรับว่าทำไปเพราะแอบเอาเงินไปลงทุน แล้วหมุนเงินไม่ทัน