นนทบุรี ยายร่ำไห้แทบเป็นลมหลังหลานชายขับกระบะไปงานบวชถูกแท็กซี่มักง่ายกลับรถตัดหน้าก่อนเสียหลักชนต้นไม้ดับ 2 เจ็บ 3
จากกรณีเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 3 พ.ค.67 ร.ต.อ.เอก ศรีระวัฒน์ พนักงานสอบสวนสภ.ทรงธรรม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมหน่วยกู้ภัยข่าวภาพกำแพงเพชรได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กะบะเสียหลักตกถนนชนต้นไม้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตหลายรายจึงได้เดินทางไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุบริเวณถนนพหลโยธิน(ขาขึ้น)ม.8 บ้านทรงธรรม ต.ทรงธรรม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พบรถกระบะอีซูซุ 4 ประตู พุ่งชนอัดเข้ากับต้นไม้บริเวณเกาะกลางถนนสภาพรถพังยับทั้งคันมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตติดอยู่ภายในซากรถรวม 5 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 2 ราย คือ 1.นายสิทธิพร อายุ 30 ปี คนขับ 2.นายวรพงษ์ อายุ 30 ปี นั่งข้างคนขับและบาดเจ็บ 3 ราย คือ 1.น.ส.ดวงฤทัย อายุ 30 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2.นายพรชัย อายุ 29 ปี 3.นายอนุวัตร อายุ 30 ปี
ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำแพงเพชรจึงรีบนำอุปกรณ์เครื่องตัดถ่างเข้าช่วยเหลืองัดร่างทั้งหมดออกจากซากรถนานกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถนำผู้บาดเจ็บและนำร่างผู้เสียชีวิตออกมาได้สำเร็จสอบถามผู้บาดเจ็บที่สามารถพูดคุยได้ให้ข้อมูลว่าทั้งหมดได้เดินทางจาก จ.นนทบุรี เพื่อจะเดินทางไปร่วมงานบวชที่ จ.ลำปาง แต่พอมาถึงจุดเกิดเหตุมีรถเก๋งตัดหน้าอย่างกระชั้นชิตจนทำให้เสียหลักลงข้างทางชนกับต้นไม้เกาะกลางถนน
หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นด้านหน้าด่านจุดตรวจ สภ.ทรงธรรม พอดีพบว่ามีรถเก๋ง(แท็กซี่)สีเขียวเหลืองกำลังเลี้ยวกลับรถบริเวณดังกล่าว(ซี่งไม่ใช้จุดกลับรถทางจราจรที่ถูกกฎหมายแต่เป็นทางที่คนในพื้นที่ใช้กัน)โดยรถกระบะคันเกิดเหตุที่มาทางตรงไม่สามารถเบรคทัน จึงหักหลบพุ่งชนต้นไม้เกาะกลางถนนจนทำให้เกิดการสูญเสียดังกล่าว เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามรถแท็กซี่สีเขียวคันดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ต่อมาเมื่อเวลา 16.30 น. ที่ศาลา 1 วัดแสงสิริธรรม ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยข่าวภาพจังหวัดกำแพงเพชร ได้นำศพ นายสิทธิพร ปิ่นนาง อายุ 30 ปี เดินทางมา เพื่อตั้งสวดพระอภิธรรมศพที่วัดแห่งนี้ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของบรรดาญาติพี่น้องเพื่อนฝูง โดยผู้เป็นป้าคือนางสมจิตร อายุ 85 ปี ถึงกับร้องห่มร้องไห้แทบเป็นลม ญาติพี่น้องต้องช่วยพากันปลอบใจหายาดมมาให้ พร้อมช่วยกันปลอบใจเพื่อให้หายจากความโศกเศร้าเสียใจ
นางสมจิตร ยายผู้เสียชีวิต กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเลี้ยงหลานชายคนนี้มาตั้งแต่เด็ก หลังจากพ่อแม่เขาแยกทางกัน หลานเป็นคนดีขยันขันแข็งในการทำมาหากิน ก่อนหน้านี้ทำงานบริษัทก่อนจะลาออกมาขับรถแก๊ปหาเลี้ยงตนเอง ตนไม่อยากให้เขาตายฟรีอยากให้ตำรวจทำคดีให้ถึงที่สุด ให้ความเป็นธรรมกับหลานด้วยเขายังไม่มีครอบครัวแต่ต้องมาด่วนจากไปกะทันหันแบบนี้ “คนที่ตายไม่น่าเป็นเขาเลยน่าจะเป็นตนมากกว่า”
ขณะที่ ลุงสมชาย-ป้าสมจิตรร่วมกันเปิดเผยว่า หลานชายพร้อมกับเพื่อนๆจะไปงานบวชที่จังหวัดลำปางแต่ยังไปไม่ถึงนานเลย ก็มาประตูอุบัติเหตุเสียชีวิต จากความมักง่ายของแท็กซี่ที่กลับรถ โดยไม่เหลียวหน้าแลหลัง ทำให้หลานชายต้องหักหลบ จนไปชนต้นไม้และเสียชีวิต 2 รายบาดเจ็บสาหัส 3 ราย หลังเกิดเหตุ ทางครอบครัวไม่เคยได้รับการติดต่อจากคนขับแท็กซี่รายนี้ หรือแสดงความรับผิดชอบออกมาให้เห็นเลย อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ติดตามตัวเขา มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ด้วย


