กองปราบรวบโจรแต่งคล้ายตำรวจทหาร ร่วมกันก่อเหตุปล้นทองคำหนัก 33 บาท 1.5 ล้านหนีคดี 7 กว่าปี
14 ก.ค.65 กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.มีชัย กำเนิดพรม รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ รอง ผบก.ป., พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.,
ว่าที่ พ.ต.อ.วิวัฒน์ จิตโสภากุล ผกก.3.บก.ป., พ.ต.ท.สิงห์ชัย ฐานไชยสิทธิ์, พ.ต.ท.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์,
พ.ต.ท.พงศกร ตันอารีย์, พ.ต.ท.สุรเชษฐ์ เดชะพันธ์ รอง ผกก.๓ บก.ป. และ พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง
ปฏิบัติราชการ รอง ผกก.3.บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.พิชญา ทวิชศรี สว.กก.3.บก.ป., ร.ต.อ.วีรศักดิ์ เผือกพันธ์
รอง สว.กก.3.บก.ป. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายวันชัย (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ 156/2559 ลงวันที่ 23 กันยายน 2559 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ปล้นทรัพย์โดยแต่งเครื่องแบบทหาร
หรือตำรวจหรือแต่งกายให้เข้าใจว่าเป็นทหารหรือตำรวจ หรือโดยมีหรือใช้อาวุธปืน หรือโดยใช้ยานพาหนะเพื่อการกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไปฯ”
จับกุม ในพื้นที่ แขวงออเงิน เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2559 มีผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความที่ สภ.กาบเชิง
จ.สุรินทร์ ว่าถูกกลุ่มผู้ต้องหาแต่งเครื่องแบบทหารพร้อมอาวุธปืน จำนวน 7 คน เข้าตรวจค้นที่บ้าน โดยกลุ่มผู้ต้องหาทำทีแสดงตัวเป็นทหารอ้างว่า มีคำสั่งให้ตรวจสอบเรื่องธุรกิจและการรับจำนำรถยนต์ ผู้เสียหายจึงให้ความร่วมมือเพราะเข้าใจว่ากลุ่มผู้ต้องหาเป็นทหารจริง
หลังจากกลุ่มผู้ต้องหาเข้าทำการตรวจค้น กลุ่มผู้ต้องหาได้เอาทรัพย์สินมีค่าภายในบ้าน ได้แก่ ทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 33 บาท เงินสดจำนวน 350,000 บาทอาวุธปืนพกสั้น 1 กระบอก พระเครื่องประมาณ 10 องค์ รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 1,500,000 บาท จากก่อเหตุกลุ่มผู้ต้องหาได้แยกย้ายกันหลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กาบเชิง ได้ติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุได้เกือบครบทั้งหมด เหลือผู้ต้องหาคนสุดท้าย คือ นายวันชัยฯ (ผู้ต้องหา)
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนและติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ ในขณะที่กำลังรับจ้าง
เป็นช่างต่อเติมภายในหมู่บ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในพื้นที่ เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร จากนั้นได้นำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การว่า ตนได้ร่วมกับพวกก่อเหตุ แอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่โดยใส่เครื่องแบบทหาร และไม่ได้เป็นทหารหรือมีความเกี่ยวข้องกับทหารแต่อย่างใด ซึ่งจากกรณีดังกล่าวได้รับเงินส่วนแบ่งจำนวน 30,000 บาท