เปิดใจ เจ้าของโรงงานเฟอนิเจอร์ข้างๆ ไม่คิดว่าคนไทยจิตใจโหดร้ายแบบนี้
จากกรณีพบชิ้นส่วนมนุษย์ ถูกฆาตกรรมหั่นศพยัดใส่ถุงดำเป็นมือและชิ้นส่วนกระดูก และกระโหลกศีรษะ ในพื้นที่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
เมื่อเวลา 21.30 น.วันที่ 23 เม.ย.67 ที่ผ่านมาเจ้าหนัาที่ตำรวจชุดสืบสวน ภาค 1 สืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรีและสืบสวน สภ.บางบัวทอง ได้ร่วมกับควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ชื่อนายบอม (นามสมมุติ) อายุ 34 ปี คนขับรถให้ผู้ต้องหาชายชาวญี่ปุ่น 2 คน ไปก่อเหตุฆ่าชายชาวญี่ปุ่น จากนั้นได้หั่นศพเป็นชิ้นๆ ที่บริเวณโกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.บางบัวทอง ก่อนจะนำชิ้นส่วนยัดใส่ถุงดำนำไปแยกทิ้งตามจุดต่างๆ พร้อมรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุซึ่งหลักฐานได้นำส่งตรวจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์
เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่โกดังทำเฟอนิเจอร์ที่อยู่ข้างๆโกดังเกิดเหตุ พบเจ้าของโรงงานจึงสอบถามเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
ชายเสื้อน้ำเงิน (เจ้าของโรงงานเฟอนิเจอร์ข้างๆ) กล่าวว่า ของตนก็เป็นโรงงานทำเฟอนิเจอร์เหมือนกัน แต่ของตนจะใช้เป็นเครื่องตัดออโต้ซึ่งเป็นเครื่องที่ค่อนข้างทันสมัย แต่สำหรับโรงงานข้างในจะเป็นพวกเครื่องมือสมัยเก่า ถ้าเขาจะใช้เลื่อย เลื่อยศพ เลื่อยโซ่ ซึ่งถ้าเป็นเลื่อยวงเดือนหรืออะไรพวกนี้เขาสามารถจับเลื่อยหันได้เลย แต่ถ้าเอาไปใส่เครื่องเลื่อยสมัยใหม่แบบที่ตนใช้อยู่ตนคาดว่าคงไม่เหลือเป็นชิ้นส่วนแน่ๆ พอตนทราบว่ามีการฆ่าหันศพใกล้ๆที่ตนอยู่ก็ตกใจไม่คิดว่าคนไทยจะมีจิตใจโหดร้ายแบบนี้ ตอนแรกตนคิดว่าจะเป็นพวกแก็งค์ชาวต่างชาติที่เขาขัดผลประโยชน์กันและทำลักษณะแบบนี้ได้เพราะว่า เพราะตนเห็นตามข่าวที่ภูเก็ต ฆ่าหันศพยัดกระเป๋าส่วนมากก็เป็นชาวต่างชาติ ซึ่งโกดังเฟอนิเจอร์ที่เกิดเหตุข้างๆตน มาอยู่หลังตนเปิดได้ประมาน 2 ปีกว่าแล้วที่ตนเห็นรถวิ่งเข้าออก แต่ว่าพักหลังๆมาช่วงนี้จะเงียบไม่ค่อยเห็นรถช่างเฟอนิเจอร์เข้าออกเท่าไหร่ เพราะเวลาช่างเข้าออกจะมีเครื่องมืออยู่หลังรถให้เห็นอยู่แล้ว













