นครปฐม หลวงพี่น้ำฝนโชว์ของดีติดตัว ย้ำเป็นกำลังใจเท่านั้น นำคำหลวงพ่อพูล เน้นไม่ให้หลวงพี่น้ำฝน โชว์ของดีติดตัว เป็นอัฐิล็อกเก็ท ภาพแม่

นครปฐม หลวงพี่น้ำฝนโชว์ของดีติดตัว ย้ำเป็นกำลังใจเท่านั้น นำคำหลวงพ่อพูล เน้นไม่ให้
หลวงพี่น้ำฝน โชว์ของดีติดตัว เป็นอัฐิล็อกเก็ท ภาพแม่

และหนุมานเชิญธงปี 47 ตัวแทนความกตัญญูหลวงพ่อพูล บรมครู หลังประสบอุบัติเหตุรถชนพลิกหงายกลางถนน แต่ไร้บาดแผล ย้ำชัดวัตถุมงคลเป็นเพียงเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ไม่ใช่สร้างเพื่อให้หลงงมงาย ส่วนภาพคลิปที่ประสบอุบัติเหตุ มีรถเก๋งเบียดเลนเข้ามาหลานชายจึงโยกหลบไปชนท้ายรถที่กำลังจอดรอขับรถ ฮือฮารายชื่อสุดยอfพระเกจิชื่อดังนั่งปรก หนุมานเชิญธงปี 47

วันที่ 22 เมษายน 67 จากกรณีข่าว พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์โดยปรากฏมีภาพ คลิปนาทีที่รถพุ่งเข้าชน จนเกิดอาการพลิกหงายกลางถนน ทำให้ศิษยานุศิษย์ต่างแสดงความเป็นห่วง และได้สอบถามถึงเหตุการณ์ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยหลวงพี่น้ำฝนบอกว่าพกอัฐิและ วัตถุมงคลหลวงพ่อพูลติดตัว อยู่เป็นประจำ ซึ่งหลานชายที่ขับรถก็รอดตายแล้วปาฏิหาริย์ ซึ่งได้พบล็อกเก็ทภาพหลวงพ่อพูล ติดตัว เช่นเดียวกันกับ เจ้าหน้าที่ที่นั่งรถไปด้วยก็ได้พกเครื่องรางเกี่ยวกับหลวงพ่อพูล หลายอย่าง หลายคนถึงได้ บอกว่าอยากเห็นวัตถุมงคลที่หลวงพี่น้ำฝนพวกติดตัวในวันเกิดเหตุด้วย

โดยพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม บอกว่าหลังจากเกิดเหตุตั้งแต่เมื่อวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา และมีการเผยแพร่ข่าวไปทางสื่อทีวีและสื่อออนไลน์ หลายช่องทางและหลายสำนัก ได้มีศิษยานุศิษย์ทั้งในประเทศและต่างต่างประเทศต่างโทรเข้ามาสอบถามข้อมูลและแสดงความเป็นห่วงอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้ได้แจ้งไปว่าทุกอย่างปกติดีทุกคน ไม่ว่าจะเป็นอาตมา หลานชาย หรือแม้กระทั่งเจ้าหน้าที่ของวัดที่นั่งรถไปด้วย ขณะได้กลับมาทำงานในวัดตามปกติตั้งแต่สองวันหลังเกิดเหตุครบทุกคนแล้ว โดยชี้ว่าเรื่องนี้เป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนนซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และขอให้ญาติโยมอยู่ในความไม่ประมาทในการใช้รถใช้ถนน สิ่งที่บอกไปเป็นการแสดงอุทาหรณ์ให้กับการดำเนินชีวิตโดยต้องใช้สติ

ขณะเดียวกันได้มีประชาชนหลายคนได้เข้ามาสอบถามว่าหลวงพี่ฝนพูดถึงกระดูกอัฐิของโยมแม่ ที่พกติดตัวไว้ เป็นประจำ ซึ่งยังมีวัตถุมงคลของหลวงพ่อพูล อยู่ด้วยแต่ไม่ทราบว่าเป็นรุ่นไหนปีไหน จึงอยากขอดูว่าเป็นรุ่นเดียวกับที่ได้มีการเช่าบูชาไปไว้กับตัวแล้วหรือไม่ ซึ่งวันนี้หลวงพี่น้ำฝนก็ได้ยอมที่จะ นำของดีติดตัวมา โชว์ให้ศิษยานุศิษย์ ที่ได้สอบถามเข้ามาได้ชม

โดยชิ้นแรกเป็น อัฐิของมารดาที่เป็นก้อนและมีการสกรีนเป็นภาพใบหน้าของโยมแม่บุญส่ง มารดาซึ่งเสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน อีกหนึ่งอย่าง คือรูปหล่อเล็กเลี่ยมกรอบพลาสติกเป็นหนุมานเชิญธง ซึ่งเป็นรุ่นที่ได้จัดสร้างขึ้น ตามดำริของหลวงพ่อพูล ปี 47 ส่วนชิ้นสุดท้ายที่ไม่ได้บอกไปว่าพกติดตัวเป็นประจำนั่นคือลูกอมหินโบราณ ซึ่งมีลักษณะกลมเงา ถูกเลี่ยมด้วยพลาสติกเลี่ยมทอง อีก 1 ชิ้น

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวว่า เชื่อว่าหลายคนนั้นจะมีของที่เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจไว้ติดตัวตลอดเวลาซึ่งอาตมาก็ได้ติดตัวเอาไว้สามอย่าง นั่นคือ อัฐิ ของโยมแม่ และหนุมาเชิญธง ของหลวงพ่อพูล ซึ่งทั้งสองสิ่งถือว่าเป็นเครื่องแสดงเจตนาในการกตัญญูรู้คุณ ซึ่งในส่วนของหนุมานเชิญธงที่มีการนำมาติดตัวไว้ ก็เป็นการแสดงออกว่าหนุมานคือตัวแทนของความกตัญญูรู้บุญคุณคน ซึ่งอาตมาไม่เคยลืมบุญคุณของมารดาและพระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล ซึ่งเป็นหนึ่งในคติพจน์ ของ อาตมา นั่นคือ ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน และรู้บุญคุณคน ซึ่ง ได้นำไปใช้สั่งสอนให้ ลูกศิษย์ลูกหานำไปใช้ในการดำเนินชีวิตเพื่อความเจริญก้าวหน้า

ส่วนลูกอมที่ได้มามีเพียงหนึ่งลูกเท่านั้น และได้มาเมื่อประมาณ7-8 ปีที่แล้ว เมื่อครั้งไปแสวงบุญที่ประเทศ สปป.ลาวโดยไปกับคณะสงฆ์ของวัดไผ่ล้อม 5 รูป ซึ่ง หลังจากการสวดมนต์เจริญภาวนาและนั่งสมาธิ ที่เขาควาย ประเทศ สปป.ลาว ก็ได้มาเห็นหินกลมต้นดังกล่าวตกอยู่ในบริเวณที่ปฏิบัติธรรม และเกิดนิมิตตรงใจ จึงได้เก็บกลับมาที่ประเทศไทยและนำมาเลี่ยมกรอบเอาไว้ติดตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งก็ไม่ทราบว่ามีอะไรมาโดนใจ ให้รู้สึกว่าต้องเก็บหินก้อนนั้นมา แต่ก็เก็บติดตัวมาอยู่ถึงทุกวันนี้

หลวงพี่น้ำฝน กล่าวต่อว่า สำหรับประเด็นที่ชาวเน็ตได้มีการวิพากษ์วิจารณ์และแสดงความเห็นว่ารถที่อาตมาโดยสารนั้นขับขี่โดยคนขับน่าจะหลับในหรือเล่นโทรศัพท์อยู่ ขอชี้แจงตรงนี้ว่า คนขับคือหลานชายแท้แท้ของอาตมา ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ ก็พูดคุยกันมาตลอดทาง แต่ในคลิปเต็มของกล้องหน้ารถที่จะจับภาพไว้ได้จะมีรถยนต์เก๋งสีขาวยี่ห้อ BMW ออกมาจากข้างทางและเลี้ยวซ้ายขึ้นมาบนถนนเป็นช่วงที่รถของอาตมาลงจากสะพานมาพอดีและได้โยกหลบเบี่ยงไปทางขวากระทั่งไปชนท้ายรถที่จอดอยู่เตรียมกลับรถ ไม่ได้มีการหลับในหรือขับรถโดยประมาทแต่อย่างใด

” สำหรับประเด็นที่มีกระแสวิจารณ์ว่าเป็นการหลงงมงายเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ อาตมาก็ได้บอกไปแล้วกับสื่อมวลชนเมื่อวานว่าขอให้มองเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ ซึ่งหากมีสติก็จะสามารถแก้ไขปัญหาและลุล่วงจากปัญหานั้นได้ และขอย้ำว่า หลวงพ่อพูล ท่านได้ให้แนวทางเอาไว้ นั่นคือ วัตถุมงคลต่างๆ สร้างขึ้นไว้เป็นที่ระลึกเท่านั้น ไม่ได้ให้หลงงมงาย อิทธิปาฎิหาริย์ที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากจิตศรัทธาและแรงอธิษฐานของตัวเราเอง ถ้าเรามีความเคารพศรัทธาในตัวครูบาอาจารย์ สิ่งที่ยึดเหนี่ยวจิตใจจะทำให้เกิดพลังอะไรบาง ที่ปกปักรักษาเราในการดำเนินชีวิต และอาตมาเองก็ไม่ได้สอนให้ใครงมงายเพียงแต่ให้มีความดีเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจสำหรับการดำเนินชีวิตนั่นเอง” หลวงพี่ฝนกล่าวปิดท้าย

สำหรับหนุมาน เชิญธง ปี 47 เป็นวัตถุมงคล พระเครื่อง หนุมานเชิญธง หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม ปี 2547
เป็นวัตถุมงคลรุ่นแรกในโอกาสได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ในวโรกาส 72 พรรษา มหาราชินี ในราชทินนามที่พระมงคลสิทธิการ ปลุกเสก 3 วาระ
รายนามพระเกจิอาจารย์นั่งปรกในพิธีมังคลาภิเษก วัตถุมงคลเจ้าคุณพูล รุ่นแรก
ท่านเจ้าคุณทอง วัดจักรวรรดิ์ราชาวาส จุดเทียนชัย เวลา 17.59 น. ท่านเจ้าคุณพูล ดับเทียนชัย เวลา 23.59 น.
ชุดที่ 1 เวลา 17.59 น. – 19.59 น. พระพิธีธรรม วัดสุทัศน์เทพวราราม กรุงเทพฯ
สวดจตุภาณวาร