ตร.รับแจ้งเหตุลื่นล้มก่อนเค้นปากคำรวบ ปวช.1 พลาดทำกระสุนลั่นใส่ท้องเพื่อนดับอนาถ
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 7 ก.ค. พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ เพ็ชรประกอบ สว.(สอบสวน) สน.ท่าข้าม รับแจ้งเหตุชายลื่นล้มศรีษะแตกหมดสติภายในบ้านเลขที่ 90/54 การเคหะบางบอน ถนนพระราม 2 แขวงและเขตบางบอน กทม.จึงประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู และรถพยาบาลแพทย์กู้ชีพศูนย์เอราวัณรุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์สูง 4 ชั้น จากการตรวจสอบบนชั้นดาดฟ้า พบร่าง นายนก (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี นักเรียน ปวช.ปี 1 แผนกช่างอิเล็กทรอนิกส์ วิทยาลัยเทคนิคราชสิทธาราม นอนนิ่งอยู่บนพื้น ในสภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขายาวสีกรมท่า ที่หน้าท้องมีบาดแผลคล้ายรอยกระสุนปืน ฝังอยู่จำนวน 1 นัด เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ช่วยกันปั๊มหัวใจยื้อสัญญาณชีพแล้วแต่ไม่เป็นผล นายนก ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตลงในจุดเกิดเหตุ
จากการตรวจสอบสภาพที่เกิดเหตุ พบเพื่อนผู้ตายที่เป็นนักเรียนสถาบันเดียวกัน อยู่ด้วยจำนวน 3 คน โดยทุกคนอยู่ในอาการมีพิรุธ นอกจากนั้นยังพบกล่องเปล่า ที่เอาไว้ใช้ใส่กระสุนปืนจำนวนมาก โดยมีกระสุนปืนขนาด .380 ACP ยังไม่ได้ยิงหลงเหลืออยู่ด้วยจำนวน 1 นัด เมื่อเจ้าหน้าที่เค้นสอบทำให้ นายหรั่ง (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี หนึ่งในเพื่อนสนิทของผู้ตาย ยอมนำ อาวุธปืนแบงค์กัน ยี่ห้อ Blow รุ่น tr14 ซึ่งดัดแปลงเอาไว้ใช้ยิงกระสุนขนาด .380 ACP พร้อมปลอกกระสุนที่ยิงไปแล้วจำนวน 1 นัด ออกมามอบให้กับเจ้าหน้าที่
โดย นายหรั่ง เปิดปากรับสารภาพว่า อาวุธปืนดังกล่าวเป็นของตนเองซื้อมาในราคากระบอกละ 6,000 บาท ก่อนเกิดเหตุชักชวนผู้ตายมา นั่งเล่นที่บ้านเพื่อนในกลุ่ม แล้วชวนกันขึ้นไปบนดาดฟ้า เพื่อทดลองยิงปืนเล่นกัน โดยที่เพื่อนอีก 2 คนอยู่ที่ห้องชั้นล่าง ระหว่างกำลังทดสอบปืนนั้น ตนหันปากกระบอกไปในทิศทางปลอดภัย ยิงไปทีแรกปืนกลับไม่ลั่น จึงคิดว่าปืนเสียหายใช้การไม่ได้ จากนั้นจึงคิดอุตริจ่อปืนไปที่ท้องของผู้ตาย แล้วลั่นไก ทว่าคราวนี้ปืนดันลั่นดังขึ้น 1 นัด กระสุนเจาะเข้าที่ท้องเพื่อนจนล้มฟุบ ก่อนพากันวางแผนโทรศัพท์แจ้ง 191 ว่าเพื่อนลื่นล้มได้รับบาดเจ็บหมดสติ
เบื้องต้น พ.ต.ท.ทนงศักดิ์ จึงประสานแพทย์นิติเวช รพ.ศิริราช และกองพิสูจน์หลักฐาน เข้ามาร่วมตรวจสอบสภาพศพผู้ตาย หลังเพื่อนยอมรับสารภาพ ว่า เป็นอุบัติเหตุปืนลั่นใส่กันเอง ส่วนการตรวจค้นห้องพัก ชั้นที่ 3 ที่ผู้ตายและกลุ่มเพื่อนเดินทางมามั่วสุมกันนั้นพบระเบิดปิงปอง พันด้วยผ้าเทปพันสายไฟ 3 ลูกและ มีดดาบ 2 เล่ม โดยหลังจากนี้ จะควบคุมตัว นายหรั่ง พร้อมอาวุธปืนของกลาง และเพื่อนๆที่อยู่ด้วยกันทั้งหมด ไปดำเนินการตามกฎหมาย ส่วนศพของ นายนก จะมอบให้แพทย์ไปทำการผ่าชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อประสานญาติมารับไปบำเพ็ญกุศลต่อไป
ขณะที่ น.ส.ชลนิภา หาญกล้า อายุ 36 ปี อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ซึ่งเดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุเป็นคนแรก กล่าวว่า เคสผู้เสียชีวิตกรณีนี้ หากผู้แจ้ง โทรศัพท์แจ้งข้อเท็จจริงตั้งแต่แรก ทางเจ้าหน้าที่ก็จะรีบจัดส่งรถพยาบาลที่มีอุปกรณ์สำหรับการกู้ชีพอย่างครบครัน เข้ามาในที่เกิดเหตุก่อน ซึ่งอาจจะยื้อชีวิตเหยื่อกระสุนเอาไว้ได้ แต่กลุ่ม ผู้ต้องหากลับวางแผนโทรศัพท์แจ้งข้อมูลเท็จ ว่าเป็นเพียงการลื่นล้มหมดสติ ทางหน่วยกู้ภัยชุดแรกที่เข้ามาตรวจสอบจึงมีแค่อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้นเท่านั้น กว่าจะได้รับการยืนยัน ว่าผู้บาดเจ็บถูกยิง ก็กินเวลานานมากแล้ว จึงถือเป็นกรณีตัวอย่างที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพราะอาจส่งผลร้ายแรงถึงชีวิต ต่อตัวผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้แจ้งเท็จอาจถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมอีกด้วย.
/////////