บชก.เปิดยุทธการ “คอมมานโดปราบคนพาล”
“บิ๊กก้อง” #สั่งคอมมานโดปูพรม 17 จุด ใน 12 จังหวัด รวบพ่อ”นิกกี้-ณฉัตร” คาบ้านพักย่านนนทบุรี หลังหลบหนีคดีพยายามฆ่า -รวบอดีตลูกเจ้าพ่อนครบาล “แคล้ว ธนิกุล” ก่อเหตุปลิดชีพหนุ่มคาศาลารอรถโดยสาร
เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 7 ก.ค.2565 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.ภูมินทร์ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบก.ปพ. พ.ต.อ.จักรวรรดิ บุญทวีกุลสวัสดิ์ รองผบก.ปพ. พ.ต.อ.ชัยฏิภูมิ อำนวยชัย ผกก.5 บก.ปพ. พ.ต.อ.อภิสัณฐ์ ไชยรัตน์ ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.ปพ. พ.ต.ท. พีรณัฏ บุญค้ำพงษ์ สว. วิเคราะห์ข่าวฯ บก.ปพ.นำกำลัง #ชุดปฎิบัติการพิเศษคอมมานโด ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในจังหวัด 12 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงราย, แม่ฮ่องสอน, นนทบุรี, กรุงเทพฯ, สมุทรปราการ ,กาญจนบุรี,ฉะเชิงเทรา,จันทบุรี,นครศรีธรรมราช,ขอนแก่น,นครพนมและ กาพสินธุ์ ตามยุทธการคอมมานโดปราบคนพาล
โดยจุดที่น่าสนใจ อาทิที่จังหวัดนนทบุรี ชุดปฎิบัติการพิเศษ นำกำลังปิดล้อม บ้านเลขที่ 100 หมู่บ้านวิภาวรรณ ถนนเลี่ยงเมืองสนามบินน้ำ 15 ต.บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี สามารถจับกุม”นายวรเชษฐ จันทพันธ์” ซึ่งเป็นพ่อของนักแสดงหนุ่มอารมณ์ดี #นิกกี้ณฉัตร จันทพันธ์ และณัฐชา จันทพันธ์ หรือเม้าส์ บีโอวาย ตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ พยายามฆ่า , พ.ร.บ.อาวุธปืน หลังใช้อาวุธปืนลูกกรดยิงใส่คนขับรถบรรทุก โดยไม่ทราบสาเหตุ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และรถเกิดความเสียหายเหตุในพื้นที่จ.นนทบุรี
ที่ จ.นครศรีธรรมราช คอมมานโดนำกำลังจับกุม นายคม ธนิตกุล อายุ 35 ปี ลูกชายของ #แคล้วธนิกุล หรือ #เหลาสวนมะลิ อดีตผู้กว้างขวางในพื้นที่กรุงเทพมหานครและอดีตโปรโมเตอร์และผู้จัดในวงการมวยไทย, มวยสากล และมวยสากลสมัครเล่นในประเทศไทย เจ้าของฉายา ” #เจ้าพ่อนครบาล” ได้ที่ริมถนนในตำบลเกาะขันธ์ อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช โดยนายพรหมถูกศาลออกหมายจับในคดีใช้อาวุธปืนขนาด.45 ก่อเหตุยิงนายเอกณรงค์ เรืองเนตร 4 นัด หน้าศาลาที่พักผู้โดยสารริมถนนแสงชูโตสายเก่า หมู่ที่ ๙ ตำบลวังศาลา อำเภอท่าม่วง จังหวัดกาญจนบุรี อย่างอุอาจไม่แคร์สายตาชาวบ้านที่นั่งรอรถโดยสารแล้วหลบหนีไป
และที่ จ.ฉะเชิงเทรา ชุดปฎิบัติการพิเศษนำหมายค้นศาลอาญา เลขที่495/2565 ลงวันที่ 6 ก.ค. 2565 ปิดล้อมบ้านเลขที่ 92/2 หมู่1 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นบ้านของนายสถาพร เค้าพงษ์จันทร์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับในข้อหา #ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และความผิดตามพรบ.อาวุธปืน ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวปลูกติดกัน 3 หลัง ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 40 ไร่ เจ้าหน้าที่ได้แสดงหมายค้น ก่อนนำกำลังปิดล้อมเพื่อทำการจับกุมตัวนายสถาพร อย่างไรก็ตามจากการตรวจค้น #ไม่พบตัวของนายสถาพรกบดานอยู่ที่บ้านดังกล่าว พบเพียงญาติและครอบครัวของนายสถาพร
“สำหรับนายสถาพร เป็นผู้ต้องหาที่ทางการต้องการตัวโดยเมื่อปี 2550 หลังใช้อาวุธปืนขนาด .45 จ่อยิง นายอุเทน เลาะเนาะ คู่กรณีที่บริเวณศีรษะ เสียชีวิตตายคาที่ ปมเหตุมาจากเรื่องที่ดิน เหตุเกิดที่ ต.บึงน้ำรักษ์ อ.บางน้ำ เปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา ต่อมาถูกจับกุมและขอประกันตัวในชั้นศาล อีกทั้งหลบหนีไม่ยอมมาฟังคำพิพากษาศาลตัดสินให้ประหารชีวิต แต่มีเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษให้เหลือจําคุกตลอดชีวิต นอกจากนี้มีประวัติพัวพันกับยาเสพติดถูกศาลจำคุก 12 ปี พ้นโทษเมื่อปี 2562 อีกด้วย”
“สำหรับปฎิบัติการดังกล่าว ทางพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ทางกองบังคับการปฎิบัติการพิเศษหรือคอมมานโด ทำข้อมูลสืบสวนผู้ต้องหาที่มีพฤติกรรมก่อคดีฆ่าผู้อื่นอย่างอุกอาจ คดีอาวุธปืน ตลอดจนคดียาเสพติด ที่เป็นภัยต่อสังคมที่ยังคงหลบหนีการจับกุม จนเป็นที่มาของการปูพรมเป้าหมาย 17 จุด ผู้ต้องหา 16 คน ทั่วประเทศ อย่างไรก็ตามในช่วงสายวันนี้ทางพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. จะแถลงข่าวสรุปผลการปฎิบัติ ที่บช.ก. ต่อไป” พล.ต.ต.ภูมินทร์ กล่าว
