นนทบุรี หนุ่มร้อง ถูกแฟนสาวนอกใจหนีออกจากบ้านพร้อมรถกระบะ คาดไปกับชู้พร้อมเงินกว่าล้านบาท วันที่ 19 ก.พ. 67 เวลา 19.00 น.ที่ สภ.บางใหญ่ ต.เสาธงหิน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นาย ธีรพงศ์ นงยุทธิ์ อายุ 39 ปี อาชีพไรเดอร์เดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บางใหญ่ กรณี น.ส.พรณิภา หรือตุ๊กตา สุวรรณภักดี อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นภรรยาที่จดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฏหมาย ได้หายออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมกับรถกระบะยี่ห้อ อีซูซุ ดีแม็ค สี เทาดำ ป้ายทะเบียน 8กถ 7391 กรุงเทพฯซึ่งรถคันนี้ซื้อเป็นชื่อของนาย ธีรพงศ์ และผ่อนมาแล้ว3ปี โดยผ่อน 8,000 บาท/เดือน ต่อมาวันที่ 18 ก.พ.มีเงินโอนเข้าบัญชีธนาคารของ น.ส.พรณิภา จำนวน 335,770 บาท และถอนออกในวันเดียวกัน จึงสงสัยว่า น.ส.พรณิภา จะนำรถไปจำนำหรือขายให้กับชู้รักซึ่งทำงานเกี่ยวกับเต้นท์รถ ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยมีเงินโอนเข้าบัญชีธนาคารของ น.ส.พรณิภา จำนวน จำนวน 1,632,919 บาท กลัวว่า น.ส.พรณิภาจะทำอะไรเกี่ยวกับบ้านที่กู้ซื้อร่วมกันรึเปล่า นาย ธีรพงศ์ หรือต้อง เล่าว่า เมื่อวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมา แฟนของตนบอกว่าจะออกไปทำงานโดยขับรถกระบะคันดังกล่าวออกไปจากที่บ้าน แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย ตนพยายามโทรติดต่อไปแต่เบอร์ก็ถูกบล็อค ได้แต่ส่งข้อความไปหาทางไลน์ถามว่าอยู่ไหนเขาอ่านแต่ไม่ยอมตอบไลน์ ตนสงสัยที่อยู่ๆ แฟนของตนเป็นแบบนี้จึงได้เอาสมุดบัญชีธนาคารของแฟนไปอัพเดตปรากฏว่ามีเงินโอนเข้าบัญชีธนาคารถึงสองรอบและเป็นจำนวนเงินที่ค่อนข้างสูงโดยมีเงินเข้าบัญชี ธ.กสิกรไทย วันที่ 12/02/67 จำนวน 1,632,919 บาท และถูกถอนออกไปวันเดียวกันและมีเงินเข้าบัญชี ธ.ออมสิน วันที่ 18/02/67 จำนวน 335,770 บาท และถูกถอนออกไปในวันเดียวกันเช่นกัน ตนจึงได้ทักข้อความไปหาทสงไลน์เพื่อสอบถามถึงเงินดังกล่าวว่าใครโอนมาให้และเป็นค่าอะไร แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจากแฟน ตนกลัวว่าแฟนจะนำรถกระบะไปจำนำหรือไปขายจึงได้ทักไปหาบอกให้ถ่ายรูปรถส่งมาให้ดูหน่อย แฟนก็ส่งรูปเก่ามาให้ดูแต่เป็นรูปเก่าแล้วพอบอกให้ถ่ายเป็นวิดีโอมาก็อ้างส่ากำลังขับรถอยู่ไม่ว่างถ่าย ส่วนเงินที่โอนมาเป็นล้านทางแม่ของตนก็กลัวว่า น.ส.พรณิภา จะทำอะไรเกี่ยวกับบ้านที่กู้ซื้อร่วมกันกับตนรึเปล่า โดยตนยอมรับว่าก่อนวันที่ 17 ก.พ.ที่ผ่านมาตนทะเลาะกับแฟนเรื่องที่แฟนของตนมีผู้ชายมาติดพันด้วยความโมโหจึงลงมือผลักหัวแฟนชนกับกำแพง เพราะที่ผ่านมาตนเคยจับได้หลายครั้งว่าแฟนของตนมีผู้ชายเข้ามาติดพัน ล่าสุดมีเพื่อนส่งรูปในTiktokของแฟนตนและผู้ชายคนนึงมาให้ดูสนลักษณะที่เขานั่งอยู่บนรถด้วยกันและมีการบอกคิดถึงกัน เคยไปแอบนัดเจอกันมาแล้ว คนที่ตนจับได้คาห้องพักของผู้ชายก็มี ตนก็ให้อภัยมาตลอด ล่าสุดที่คุยกันเห็นเขาบอกว่าจะไม่กลับมาแล้วเพราะเตรียมจะข้ามฝั่งไปพม่าแล้ว ตนก็เลยสงสัยว่าคงจะไปกับคนที่ชื่อท็อปแน่ๆ เพราะเป็นผู้ชายคนล่าสุดที่มาติดพันแฟนของตน นาย ธีรพงศ์ หรือต้อง กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนและแฟนคบกันและจดทะเบียนสมรสมา 13 ปีแล้ว มีลูกชายด้วยกัน1คน เวลาที่ตนจับได้ว่าแฟนมีกิ๊ก ลูกชายก็เป็นที่คอยปลอบใจตน เคยมีครั้งนึงที่ตนคิดจะผูกคอ แต่ก็ไม่ทำเพราะตนยังคิดถึงว่ายังมีลูกชายอยู่ข้างๆ ที่ผ่านมาตนจับได้มีหลักฐานหมด ผู้ชาย3คนที่เป็นกิ๊กกับแฟนตนก็ยอมรับหมด ก็ให้อภัยมาโดยตลอดมีแค่ครั้งนี้ที่จะขอยุติความสัมพันธ์ และจะขอแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนเรื่องของนายท็อปที่มาติดพันแฟนของตนก็ต้องดูว่าจะฟ้องร้องในเรื่องของชู้ได้หรือไม่ แต่ตอนนี้อยากฝากไปบอกกับ น.ส.พรณิภา ว่าให้นำรถของตนกลับมาคืนและมาคุยกันว่าจะเอายังไง ถ้าจะเลิกตนก็ยินดีที่จะเลิกให้ ตอนนี้กลัวแค่ว่ารถอาจจะถูกขายไปแล้วหรือเอาไปจำนำกับเต้นท์รถแล้วรึเปล่า ส่วนเรื่องเงินที่โอนเข้ามาบัญชีธนาคารของแฟนตนนั้น หลังจากแจ้งความแล้วทางเจ้าหน้าที่จะประสานกับเจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อตรวจสอบว่าใครเป็นคนโอนเงินมา *เบลอหน้าผู้เสียหายด้วยครับ
