นนทบุรี รักข้ามกำแพง ประคองความรักตลอด3ปี แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกันเผยความเชื่อใจเป็นสิ่งสำคัญ
วันที่ 14 ก.พ.67 เวลา 15.00 น.ที่ร้าน “หับเผย” by เรือนท่านนท์ เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ต.สวนใหญ่ อ.เมือง จ.นนทบุรี วันวาเลนไทน์ปีนี้ นอกจากความรักของคนทั่วไปแล้ว ยังมีอีกหนึ่งความรักที่ไม่พูดถึงไม่ได้ คือคู่รักระหว่างผู้ต้องขังและแฟนซึ่งทั้งคู่ไม่สามารถรักกันได้แบบอย่างคนปกติทั่วไป เพราะความรักที่มีกำแพงกั้นและไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้ จึงยิ่งทำให้คู่รักยิ่งต้องมีความเชื่อใจและไว้ใจกันมากกว่าเดิม
นาย เอ (นามสมมุติ) อายุ 40 ปี (ผู้ต้องขัง) ต้องโทษ 6 ปี 3เดือน กล่าวว่า ตอนนี้ตนเหลือรับโทษอีก 3 ปี 3เดือน เป็นนักโทษชั้นดีที่ทางเรือนจำจังหวัดนนทบุรี ให้ออกมาทำงานสาธารณะประโยชน์ เช่นการลอกท่อ ฯลฯ ตามเกณฑ์ที่ทางเรือนจำกำหนด ซึ่งในวันนี้หลังจากปฏิบัติหน้าที่เสร็จแล้ว ก็มีแฟนสาวมารอเยี่ยมอยู่ที่เรือนจำ เนื่องจากตนเป็นนักโทษชั้นดี ทางเรือนจำจึงได้ให้สิทธิการเยี่ยมมากกว่าผู้ที่ต้องโทษอยู่ด้านในเรือนจำ แต่ก็ต้องปฏิบัติตามกฏของเรือนจำในการเยี่ยมอย่างเคร่งครัด เพียงแต่แฟนหรือญาติสามารถมาเยี่ยมได้อย่างใกล้ชิดภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่เรือนจำ ซึ่งในวันนี้เป็นวันพิเศษวันวาเลนไทน์ ตนรู้สึกดีใจมาก่แฟนตนมาเยี่ยมวันนี้ถึงแม้ว่าจะมีเวลาเยี่ยมแค่ 15 นาทีก็ตาม ที่ผ่านมาแฟนของตนเข้ามาเยี่ยมตนเป็นประจำตั้งแต่ตนยังอยู่ข้างในเรือนจำ ซึ่งให้ความรู้สึกแตกต่างจากการเยี่ยมแบบนี้ ตนรู้จักกับแฟนมา6ปี ตั้งแต่ยังเป็นนักดนตรีอนู่ข้างนอก จนกระทั่งตอนนี้ ตนเป็นผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำแต่แฟนก็ยังคอยดูแลลูกของตนไม่เคยขาดตกบกพร่อง ยิ่งทำให้ตนรักผู้หญิงคนนี้มากขึ้น ก็มีกังวลอยู่บ้างเพราะเขาอยู่ข้างนอกมีโอกาสเจอคนเยอะแยะ แต่ที่ผ่านมาเขาก็ไม่เคยทำให้ตนรู้สึกไม่สบายใจ ตนรักผู้หญิงคนนี้มากและรอคอยวันที่พ้นโทษจะได้ออกไปดูแลครอบครัว
ด่าน น.ส.บี (นามสมุติ) อายุ 37 ปี (แฟนของผู้ต้องขัง) กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเข้ามาเยี่ยมแฟนตลอด มีพาลูกๆของแฟนมาเยี่ยมด้วย พอเขาเห็นลูกๆเขาก็ดีใจ มีเรื่องอะไรก็จะบอกเขาตลอด ตนอยากให้เขาสบายใจไม่ต้องห่วงเรื่องที่บ้านตนจะดูแลอย่างดี ในเรื่องของความรักที่ผ่านมา เพราะมีความเชื่อใจและไว้ใจกัน ก็อยากบอกว่ารักเขามาก และจะรอวันที่เขาพ้นโทษ ไม่ว่านานแค่ไหนตนก็จะรอวันที่จะได้ใช้วิตร่วมกัน
นาย ประจวบ ไชยชมภู หัวหน้าฝ่ายพัฒนาผู้ต้องขัง เรือนจำจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า ให้ผู้ต้องขังที่ออกมาทำงานนอกเรือนจำ ได้สิทธิ์พบปะกับญาติอย่างใกล้ชิด โดยให้ญาติที่มาเยี่ยมไปลงทะเบียนตามปกติ และเอาบัตรเยี่ยมมาติดต่อกับผู้ดูแลเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ต้องขังข้างนอก เราได้ให้พูดคุยนั่งกินข้าวอย่างใกล้ชิด ถือว่าผู้ต้องขังที่ได้งออกมาทำงานข้างนอกสมควรได้รับมากกว่าผู้ต้องขังทั่วไป โดยต้องอยู่ในกฎระเบียบของทางเรือนจำ กรมราชทัณฑ์ กำหนดไว้ ให้พูดคุยได้ตามปกติ แต่ห้ามใช้เครื่องมือสื่อสารทุกชนิด ให้เสมือนว่าอยู่ใสเรือนจำ เพราะผู้ต้องขังชุดนี้ได้ออกมาทำประโยชน์ให้เรือนจำ กรมราชทัณฑ์ ถือว่าเป็นการให้สิทธิประโยชน์ที่เพิ่มมากขึ้น จากผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำ ซึ่งการพบญาติอย่างใกล้ชิดจะไม่ได้มีบ่อย ถือว่าผู้ต้องขังชุดนี้มีคว่มเรียบร้อย เข้าเกณฑ์ออกทำงานนอกเรือนจำ ซึ่เหลือโทษอีกไม่กี่เดือนก็จะพ้นโทษกลับไป ก็จะมีความพร้อมที่จะออกไปสู่สังคมและครอบครัว การที่จะมาเยี่ยมก็สามารถไปที่ห้องเยี่ยมญาติแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าขอเยี่ยมผู้ต้องขังโดยการใช้สิทธิ์เยี่ยมตากปกติ พอได้บัตรคิว ก็ถือบัตรมาแจ้งกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลผู้ต้องขังนอก ทางเราก็จะจดลงสมุดเยี่ยม และชื่อสำหรับติดต่อมีความสัมพันธ์ยังไงกับผู้ต้องขัง เพื่อเป็นหลักฐานไว้ ถ้าเป็นของกินหรือของใช้ที่จะฝากให้ผู้ต้องขัง ก็ต้องส่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบก่อน เพิ่อป้องกันสิ่งของต้องห้ามที่จะหลุดรอดเข้าไป ก็ต้องอยู่ในสายตาของเจ้าหน้าที่ 1 คน ทางเจ้าหน้าที่จะให้เยี่ยมประมาน 20 นาที จะให้มาเยี่ยมได้ 2 ครั้ง 1 สัปดาห์ ขอฝากกว่าผู้ต้องขังที่สามารถออกมาทำงานข้างนอกได้นั้น ทางเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วว่า มีตวามประพฤเรียบร้อย ผู้ต้องขังขั้นดีขึ้นไป ได้รับโอกาสให้ออกมาทำงานนอกเรือนจำเป็นการปรับตัว เตรียมตัวที่จะออกไปสู่สังคม นอกจากนี้ก็ยังมีรายได้จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ จากฝีมือของผู้ต้องขังทั้งหมด ส่งนหนึ่งเขาก็จะได้เงินเป็นทุนไปประกอบอาชีพภายนอกหลังจากพ้นโทษ นอกจากจะมีอาชีพติดตัวแล้วยังได้เงินปันผลจากงานที่เขาทำ ซึ่งก็มีนักโทษที่พ้นโทษไปแล้วก็ไปประกอบอาชีพธุระกิจส่วนตัวก็ได้แนวคิดจากการออกมาทำงาน แล้วนำไปประกอบอาชีพ ถือว่าเป็นตัวอย่างให้กับคนที่ยังอยู่เขาได้จุดประกายความคิดให้กับเขา ก็อยากให้บุคคลภายนอกให้โอกาสผู้ต้องขังได้กับตัวและอยู่กับสังคมอย่างปกติสุข ซึ่งเรือนจำก็ยินที่เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ให้โอกาสผู้ต้องขังถือว่าก้าวพาดทุกคนเพราะว่าทุกคนไม่รู้หรอกหรืออาจจะเป็นตัวเองที่ก้าวพาดทุกคนมีโอกาส ส่วนคนที่กับตัวกับใจเข้าสู่สังคมอยากให้ทุกคนให้โอกาสพวกเขาด้วย
