ชาวบ้านวัดป่าโค จ.อยุธยา ติดแม่น้ำป่าสัก รวมตัวคัดค้าน กรมเจ้าท่า ขอให้แก้ไขรูปแบบเขื่อนป้องกันน้ำท่วม เหตุแนวเขื่อนเป็นกำแพงปูนทึบสูง 3 เมตร เป็นเหตุทำลายภูมิทัศนข์และวิถีชีวิตริมน้ำ
วันที่ 23 มิ.ย.65 ชาวบ้านชุมชนวัดป่าโค ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา กว่า 300 คน มารวมตัวกันที่ศาลาการเปรียญวัดป่าโค เพื่อร่วมเวทีแสดงความคิดเห็น และคัดค้านรูปแบบการก่อสร้างเขื่อนป้องกันพัง ของกรมโยธาการและผังเมือง โดยมี ว่าที่ ร.ต.สมทรง สรรพโกศลกุล นายกเทศมนตรีนครพระนครศรีอยุธยา เป็นตัวแทนชาวบ้าน และมีตัวแทนจากกรมโยธาฯ มาชี้แจง
สำหรับเขื่อนดังกล่าว เป็นเขื่อน คสล. ยาวรวม 2,414 เมตร ติมแม่น้ำป่าสัก ฝั่งวัดป่าโค และชุมชนด้านเหนือและท้ายวัด ประมูลจัดจ้างผู้รับเหมาแล้ว งบประมาณก่อสร้าง รวม 515 ล้านบาท เริ่มดำเนินการก่อสร้าง 30 มิ.ย.64 – 19 ก.ค.66 ปัจจุบันอยู่ระหว่างให้ชลอการก่อสร้าง สาเหตุเพราะชาวบ้านคัดค้านรูปแบบเขื่อน ที่สูงจากพื้นดิน 3 เมตร
โดยนายกเทศมนตรีนครฯ เปิดเผยว่า ชาวบ้านไม่ได้คัดค้านการสร้างแนวเขื่อน แต่คัดค้านรูบแบบและความสูงของแนวกำแพงคอนกรีตที่ทึบสูง 3 เมตร ที่จะกั้นแม่น้ำกับชุมชนริมน้ำ จนคล้ายกำแพงคุก และกำแพงนี้ทำลายภูมิทัศน์ ทำลายวิถีชีวิตริมน้ำ ที่สำคัญการออกแบบเขื่อน ไม่เคยมาขอความคิดเห็นชาวบ้านเลย โดยชาวบ้านยืนยันว่า หากปรับกำแพงคอนกรีตความสูงจากพื้นดิน เหลือสัก 1 เมตร ก็น่าจะเป็นข้อตกลงที่จะคุยกันได้
อย่างไรก็ตาม วิศกรโยธาปฏิบัติการกองวิศวกรรม กล่าวว่า การสร้างเขื่อนป้องกันนำในครั้งนี้ เพื่อเป็นป้องกันตลิ่งพัง รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการเดินเรือและขนส่งทางน้ำ อีกทั้งยังเป็นแนวป้องกันน้ำท่วม ให้กับชุมชนด้วย
แต่หากประชาชนคัดค้านรูปแบบความสูงของเขื่อนและต้องการให้ปรับรูปแบบการก่อสร้าง ก็จะเร่งนำข้อมูลความต้องการของประชาชน ไปนำเสนอกับทางกรมเจ้าท่าพิจารณาต่อไป
