นนทบุรี สาวใหญ่ร้องกระทรวงพาณิชย์ระงับการขายรถยี่ห้อดัง และเพิกถอนใบอนุญาตประกันหลังผิดสัญญาซื้อขาย เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 20 ต.ค. 66 ที่กระทรวงพาณิชย์ ต.บางกระสอ อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี น.ส.ชนัญชิดา ลิ้มนนทกุล อายุ 44 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว ผู้เสียหายคดีผู้บริโภค เดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนกับ รมว.กระทรวงพาณิชย์ ขอให้ระงับการขายรถยนต์นิสสัน และขอเพิกถอนใบอนุญาตตัวแทนประกัน เนื่องจากกรณีที่ศูนย์จำหน่ายรถนิสสัน และนิสสันลิสซิ่ง แห่งหนึ่งที่จ.ปทุมธานี กระทำการ (1) มีการเพิ่มราคารถยนต์สูงกว่าที่ตกลงกันไว้โดยไม่แจ้ง (2) นำเงินดาวน์รถยนต์ไปซื้อวัสดุอุปกรณ์ และกรมธรรม์คุ้มครองวงเงินรถยนต์โดยไม่แจ้ง และ (3) เพิ่มอัตราดอกเบี้ยเช่าซื้อรถยนต์เนื่องจากเงินดาวน์ไม่ถึง 20% ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการผ่อนรถยนต์สูงขึ้น เบื้องต้นได้แจ้งความไว้ที่สภ.บางบัวทอง น.ส.ชนัญชิดา กล่าวว่า วันนี้ตนเดินทางมายื่นหนังสือร้องเรียนที่กระทรวงพาณิชย์ เนื่องจากถูกละเมิดสิทธิ์ สร้างความเสียหายและผลกระทบให้กับตน คาดว่าจุดเริ่มต้นธุรกิจของบริษัทรถแบรนด์ดังก็มาจากการจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์เช่นกัน อยากให้ทางบริษัทรถรู้ว่าตัวเองเป็นนายทุนใหญ่ที่เข้ามาหากินในประเทศไทยแต่มาทำร้ายคนไทยแบบนี้ได้อย่างไร เงินทุกบาททุกสตางค์ที่จ่ายไป ทำมาหากินด้วยความยากลำบาก ตอนนี้เรื่องศาลได้รับฟ้องแล้ว คิดว่าไม่ได้เดือดร้อนแค่ตน หลาย ๆ คนน่าจะเดือดร้อนเช่นกัน เพราะคงต้องไปย้อนดูสัญญาว่าได้รับมาถูกต้องหรือไม่ ตรงกับความต้องการตั้งแค่แรกหรือไม่ กรณีของตน ตอนซื้อรถใบเสนอราคาก็ไม่ตรง จู่ ๆ มีการเพิ่มราคารถขึ้นมาเป็นหลักหมื่น ที่สำคัญนำเงินดาวน์ของตนไปซื้อประกันโดยที่ไม่แจ้งให้ทราบ ทำให้เงินดาวน์ที่จ่ายไปไม่ถึง 20% ก็ต้องเสียอัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น ไม่น่าจะต้องมาสร้างภาระอะไรให้ การตกลงซื้อขายใบเสนอราคาควรเป็นแบบที่ต้องการ หลังจากได้รับสัญญามาพยายามติดต่อประสานไปยังผู้ผลิตทุกเส้นทางที่จะติดต่อได้ แต่ถูกปฏิเสธทั้งหมด เหมือนเป็นประชาชนที่ไม่มีสิทธิ์มีเสียงอะไรทั้งที่เป็นผู้บริโภค วันนี้จึงมาที่นี่เพื่อให้ท่านรัฐมนตรีทราบว่าบริษัทเป็นผู้ค้าต่างประเทศที่ไม่ควรมาเอาเปรียบคนไทย ที่สำคัญพยานหลักฐานของตนค่อนข้างครบและสมบูรณ์มาก การกระทำความผิดเช่นนี้ต้องมีการตรวจสอบ หากพบว่ามีความผิดจริงต้องได้รับการเพิกถอนไม่ใช่ปล่อยให้ตนต้องมาจ่ายเงินทุกเดือนเพื่อรักษาเครดิตบูโรของตัวเอง แต่ตัวบริษัทยังทำธุรกิจและขายรถได้ตลอดแบบนี้ ทุกครั้งที่ไปจ่ายเงินเหมือนถูกหยามศักดิ์ศรีความเป็นคนไทย ตนพยายามพูดคุยทุกอย่างว่าซื้อเพราะแบรนด์ โฆษณาอยู่ตลอด หนึ่งปีขายรถได้ 200,000 คัน อยากให้คนไทยทุกคนลุกขึ้นมาตรวจสอบสัญญาของตัวเอง ว่าตรงหรือไม่ ทุกครั้งที่ไปพบจะได้รับแต่คำพูดดูถูกว่าทำอะไรไม่ได้ให้ไปฟ้องเอา หากเป็นคนอื่นที่หาเงินมาเพื่อซื้อรถโดยตรง จะทำอย่างไร ทุกคนไม่ได้สู้เหมือนกับตน น.ส.ชนัญธิดา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า วันนี้ที่มาเพราะกระทรวงพาณิชย์เป็นจุดเริ่มต้นแรกที่อนุญาตให้เปิดบริษัท ทำธุรกิจการค้าได้ถูกต้อง ทางกระทรวงฯ ต้องมีมาตรการในการช่วยเหลือบ้าง ไม่ใช่ปล่อยให้เดินเรื่องอยู่ฝ่ายเดียว อยากให้ทุกฝ่ายภาครัฐเข้ามาช่วยเหลือและตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้น ถ้าการทำธุรกิจของบริษัทนี้ไม่มีธรรมมาภิบาลหรือจริยธรรมแฝงไปด้วยการหลอกลวง ยังสามารถทำธุรกิจต่อไปในประเทศไทยได้หรือไม่ ควรมีมาตรการอะไรเพื่อให้ระงับไว้ก่อน เพราะทางบริษัทไม่ได้เสียอะไรเลยแต่ตนต้องจ่ายเงินทุกเดือนเพื่อรักษาเครดิตของตัวเอง เพราะทางบริษัทไม่เดือดร้อนจึงไม่เห็นค่าเลย เรื่องแรกการซื้อขายครั้งนี้มีการเพิ่มราคาโดยที่ไม่แจ้ง บวกราคาเพิ่มขึ้นจากเดิม 15,000 บาท ตนได้มีการวางดาวน์ไป 20% แต่ทางบริษัทได้นำเงินดาวน์ไปซื้อประกันสุขภาพแบบกลุ่ม ทำให้เงินดาวน์มีจำนวนไม่ถึง 20% จึงมีผลต่อดอกเบี้ยทำให้ดอกเบี้ยสูงขึ้น ซึ่งไม่ใช่วัตถุประสงค์ตั้งแต่แรก หลังจากเห็นสัญญาจึงรีบติดต่อแจ้งประสานงานทั้งคอลเซ็นเตอร์และโชว์รูมที่ซื้อแต่ไม่ได้รับการช่วยเหลืออะไรกลับมา เหมือนตนต้องจำยอมซึ่งตนรับไม่ได้ หากจะต้องมายอมในสิ่งที่ไม่ได้ซื้อตั้งแต่ต้น วันแรกที่ได้รับสัญญาก็รีบไปบันทึกประจำวันทันทีเพื่อแสดงความกระตือรือร้นเพราะได้มีการติดต่อไปยังคอลเซนเตอร์แล้วแต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ เพราะมั่นใจว่าถูกละเมิดสิทธิ์แน่นอน และจะต้องไม่ปล่อยผ่านเรื่องนี้ หากรู้ว่ารถราคานี้และต้องนำเงินไปทำประกันจะไม่ซื้อตั้งแต่แรก ส่วนสัญญาซื้อขายที่เป็นของไฟแนนซ์เป็นฟอร์มเปล่าที่จะให้เซ็นต์ ทั้งหมดทั้งมวลเซ็นต์เพราะความไว้ใจ พนักงานที่มามีป้ายชื่อครบว่ามาจากบริษัทอะไร หลังจากนั้นมีการแจ้งว่าอีกประมาณ 7 วัน หรือ 2 อาทิตย์จะได้รับสัญญา หลังจากได้รับมาแล้วพบว่าไม่ตรงก็เดือดเนื้อร้อนใจพยายามติดต่อทุกวิถีทาง พอมีใบเสร็จชั่วคราวของประกันมาที่บ้านตนตกใจว่าไปซื้อประกันอะไรไว้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ได้มีการโทรติดต่อไปยังบริษัทประกัน ทางบริษัทแจ้งว่าตนเป็นเจ้าตัวยกเลิกสัญญาไม่ได้จะต้องให้ทางบริษัทเป็นฝ่ายยกเลิก เพราะเป็นประกันกลุ่มซึ่งไม่ตรงกับที่จะทำประกันวงเงินสินเชื่อ ส่วนตัวมีรถหลายคันรู้อยู่แล้วว่าต้องทำประกันวงเงินเผื่อตนเป็นอะไรไป ตนเก็บหลักฐานไว้ทั้งหมด มีการปรึกษากับครอบครัวว่าต้องสู้ ไม่ใช่แค่ตัวเองแต่เพื่อให้เป็นบทเรียนกับคนไทยหากต้องการซื้อรถอย่าให้ตัวเองโดนเอารัดเอาเปรียบ อยากฝากถึงคนไทยหากต้องการจะซื้อรถหรือซื้อแล้ว ให้ตรวจสอบสัญญาให้ดี หากพบความผิดปกติเบื้องต้นให้มาที่กระทรวงพาณิชย์เพื่อจะให้ทางกระทรวงฯได้ทราบว่ามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น จะต้องพิจารณาในการดำเนินธุรกิจต่อไป อย่ามองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล็กน้อย เพราะถ้ารวมกันจำนวนเงินเป็นแสน เฉลี่ยปีละ 200,000 คัน เป็นจำนวนเงินสองหมื่นล้าน อยากให้รัฐบาลมาช่วยกันดูเรื่องนี้ ให้ช่วยกันแก้ไขปัญหาเรื่องนี้เพราะจะเป็นส่วนหนึ่งที่ให้เศรษฐกิจของประเทศไทยไม่เอารัดเอาเปรียบประชาชน ด้านผู้อำนวยการกองกลาง สำนักงานปลัดกระทรวงพานิชณย์ ได้เป็นตัวแทนมารับเรื่อง โดยแจ้งว่าจะต้องไปดำเนินการต่อ เพราะตอนนี้ต้องเรียบเรียงเรื่องว่าทั้งหมดเป็นของหน่วยงานไหน และต้องเรียบเรียงเอกสาร ซึ่งใครมาร้องเรียนก็จะรับไว้ทุกรายเพราะเป็นประชาชนที่เดือดร้อน ซึ่งถ้าเรื่องที่ร้องไปตรงกับหน่วยงานไหน ก็จะส่งเรื่องไปที่หน่วยงานนั้นและให้ดำเนินการต่อไป
