ปริมาณน้ำในลำน้ำเพิ่มมากขึ้น
ส่งผลให้น้ำล้นตลิ่งบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำริมลำน้ำโดยเฉพาะแม่น้ำเจ้าพระยา
คาดการณ์ปริมาณน้ำที่ สถานี C2 อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ จะมีปริมาณน้ำไหลผ่านประมาณ 1,800 – 1,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
และมีปริมาณน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังและลำน้ำสาขาประมาณ 200- 300 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทำให้ปริมาณน้ำที่เหนือเขื่อนเจ้าพระยา มีปริมาณระหว่าง 2,000 – 2,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงต้องระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา ในอัตราระหว่าง 1,500 – 1,800 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ส่งผลต่อพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงผาง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นจากปัจจุบันอีกประมาณ 0.20 – 0.80 เมตร ที่อาจกระทบต่อพื้นที่ชุมชน
กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จังหวัดนนทบุรี ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคเอกชนที่ประกอบกิจการในแม่น้ำเจ้าพระยา เช่น งานก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง แพร้านอาหาร รวมถึงประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์สภาวะระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ ชุมชนมัสยิดท่าอิฐ เลขที่ 87/1 ตท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบรี พบนสงเรียม บุญประเสริฐ อายุ 73 ปี เจ้าของบ้านเล่าว่า บ้านของตนโดนน้ำท่วมทุกวันเป็นเวลาเกือบ 2 เดือนแล้วช่วงเวลา 17-18.00น.น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้นและน้ำจะไหลเข้าท่วมบ้านของตนและในชุมชนช่วงเวลา 23.00 น.น้ำก็จะเริ่มลดลง และช่วง 0.5.00 น.น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะเพิ่มขึ้นมาอีกรอบน้ำก็จะเข้าท่วมเหมือนเดิมและเวลา11.30น.น้ำก็จะลดลงซึ่งส่งผลกระทบให้กับประชาชนที่พักอาศัยริมฝั่งเจ้าพระยา
