วันนวมินทรมหาราช พบหนุ่มใหญ่สะสมพระบรมฉายาลักษณ์ ร. 9 และน้อมนำพระราชดำรัสเป็นแนวทางดำรงชีวิต
หนุ่มใหญ่ลูกจ้าง โรงพยาบาล ฯ ยึดมั่นในคำสอนพ่อหลวง และชื่นชอบเก็บสะสมพระบรมฉายาลักษณ์ และธนบัตร ประดับตกแต่งไว้เต็มห้อง และยังคงยึดพระราชดำรัสเป็นแนวทางในการดำรงชีวิต
วันนี้ 13 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า ในโอกาส วันนวมินทรมหาราช เป็นปีที่ 7 ของวันสวรรคตรัชกาลที่ 9 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้รับแจ้งพบนายละภัสษ์พงษ์ พงษ์แก้ว หรือ ช่างเหนก หนุ่มใหญ่ ชาว อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ลูกจ้างโรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน อ.ประจันตคาม ผู้ยึดมั่นในคำสอนของพ่อหลวง รัชกาลที่ 9 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช และใช้เป็นแนวทางในการดำนรงค์ชีวิตเรื่อยมายาวนานนับสิบปี
นายละภัสษ์พงษ์ หรือช่างเหนก บอกอย่างปลื้มปิติว่า ตนยึดคำสอนของพ่อหลวงในการดำเนินชีวิตเพราะถือว่าเป็นคำสอนที่ทรงคุณค่า ทุกคำสอนของพ่อทำได้จริงและเกิดความเจริญรุ่งเรือง โดยเฉพาะทำให้ตนมีกำลังใจและความสุข
นอกจากจะน้อมนำคำสอนของพ่อหลวงมาเป็นแนวทางในการดำรงชีวิตแล้ว ช่างเหนก หรือ นายละภัสษ์พงษ์ พงษ์แก้ว ยังเก็บรวบรวมสะสมพระบรมฉายาลักษณ์และ ธนบัตร ที่มีพระบรมรูปของล้นเกล้า รัชกาลที่ 9 ทุกยุคทุกรุ่น ทุกราคา ประดับประดาไว้เต็มฝาผนังห้อง
ซึ่งช่างเหนกบอกว่า ทำให้ตนมีความสุขยามใดที่เกิดทุกข์ตนก็จะมานั่งมองความทุกข์นั้นก็จะหายไป ที่สำคัญ นายละภัสษ์พงษ์ พงษ์แก้ว ยังบอกด้วยว่า ไม่คิดจะขายแม้จะมีคนมาขอซื้อให้ราคาสูง เพราะตนสะสมด้วยจิตใจไม่หวังประโยชน์ แต่พร้อมแบ่งปันให้ฟรีกับคนที่รักและเคารพพ่อหลวงเช่นตน
สำหรับจังหวัดปราจีนบุรีมีสถานที่ที่ระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อาทิ เขื่อนห้วยสโมง หรือ เขื่อนนฤบดินทรจินดา ต.แก่งดินสอ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ซึ่งเป็นโครงการชลประทานขนาดใหญ่แห่งสุดท้ายในพระราดำริ
และ โครงการพัฒนาส่วนพระองค์บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี ตัวอย่างโครงการเกษตรทฤษฎีใหม่เพื่อเป็นแนวทางสู่ประชาชน ปัจจุบันมีกิจกรรมการทำนาข้าว ปลูกพืชสวนครัว บ่อปลา ไม้ผล ปลูกพืชไร้ดิน
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเคยเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเกี่ยวข้าวเมื่อวันที่18พ.ย.41 ซึ่งพสกนิกรชาวปราจีนบุรีได้ร่วมกันปลูกไว้ และในการเสด็จพระราชดำเนินครั้งนั้น มีพระราชดำรัสว่า
“ข้าวที่ผลิตได้นั้นไม่ควรมุ่งด้านการจำหน่าย แต่ควรหาวิธีการจัดระบบในรูปแบบของธนาคารการเกษตรโดยให้เกษตรกรยืมข้าวพันธุ์ไปปลูกแล้วนำมาคืนภายหลังในเวลาที่กำหนด โดยต้องวางระเบียบให้รัดกุมและเหมาะสม” อันเป็นที่ปลื้มปิติแก่พสกนิกรเป็นล้นพ้น
