รวบเสี่ยบ่อดินปืนดุหนีโทษจำคุกตลอดชีวิต
กองปราบรวบเสี่ยบ่อดินปืนดุ ยิงอริแก้แค้นแทนลูกน้องหนีคำตัดสินศาลฎีกาให้จำคุกตลอดชีวิต
16 มิ.ย.65 กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ
พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก.,พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป., พ.ต.อ.สุเทพ โตยิ้ม รอง ผบก.ป.,พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.2 บก.ป., พ.ต.ท.สิงห์ชัยฐานไชยสิทธิ รอง ผกก.3 บก.ป.ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป., พ.ต.ท.นฤทธิ์ ผูกจิตร,พ.ต.ท.กรกช ยงยืน,
พ.ต.ท.เนติวิทย์ ธนาสิทธิ์นิติกุล., พ.ต.ท.ณรัชพงศ์ สินสิริยานนท์ รอง ผกก.2 บก.ป.,พ.ต.ท.นพรัตน์ คำมาก
รอง ผกก.2 บก.ปทส.ปฏิบัติราชการ กก.2 บก.ป.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นำโดย พ.ต.ต.ธานุพันธ์ สุระสะ สว.กก.2 บก.ป. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 กก.2 บก.ป.
ร่วมกันจับกุม นายภูสิษฐ์ หรือ นายบุญเชิด (ชื่อเดิม) (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 140/2557 ลงวันที่ 11 มีนาคม 2557 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “พ.ร.บ.อาวุธปืน (ไม่มีทะเบียน), พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ (กระสุนปืน), ความผิดต่อชีวิต (พยายามฆ่า), พกพาอาวุธปืนฯ ศาลพิพากษาถึงที่สุดแล้ว”
จับกุม บริเวณหน้าบ่อดิน หมู่ที่ 3 ตำบลสามบัณฑิต อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2546 ลูกน้องของนายภูสิษฐ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ต้องหา
ได้ทะเลาะและชกต่อยกับผู้เสียหาย เมื่อเพื่อนของผู้เสียหายได้เห็นเหตุการณ์จึงเข้ามาช่วย ทำให้ลูกน้องผู้ต้องหา
ไม่สามารถสู้ได้ จึงได้พูดท้าทายให้ผู้เสียหายมาพบกันที่หน้าร้านขายของชำแห่งหนึ่ง แล้วจึงพากันกลับที่พักไป
ต่อมาลูกน้องผู้ต้องหาได้ไปบอกกับผู้ต้องหาว่ามีเรื่องกับผู้เสียหาย ผู้ต้องหาจึงขับรถพาลูกน้องไปชี้ตัวกลุ่มผู้เสียหายที่บริเวณร้านขายของชำดังกล่าว
เมื่อเดินทางมาถึงจึงได้จอดรถและเดินเข้ามาหากลุ่มผู้เสียหาย
แล้วใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่กลุ่มผู้เสียหายที่นั่งรวมกันอยู่ 6 คน จำนวน 2 นัด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 4 ราย
ส่วนอีก 2 รายไม่ได้รับบาดเจ็บ
ต่อมาศาลพิพากษาประหารชีวิตผู้ต้องหา เนื่องจากก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุก และให้รอลงอาญา 2 ปี ฐานขับรถขณะเมาสุราภายในกำหนดเวลาที่ศาลรอการลงโทษ ผู้ต้องหากลับมากระทำความผิดในคดีนี้ ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต และศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ต่อมาศาลฎีกายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกตลอดชีวิต เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2557 ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษา
แต่ผู้ต้องหาหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา ศาลจึงออกหมายให้จับผู้ต้องหามารับฟังคำพิพากษาดังกล่าว
สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา