ปทุมธานี จับแล้วยกทีมมือปืนยิง เสี่ยโก้ ราชบุรี คาเบนซ์หน้าบ่อนไก่ชนปมเหตุเรื่องชู้สาว
จากกรณีมือปืนรัวยิงนายอภิชัย อุดมผล อายุ 40 ปี หรือเสี่ยโก้ ราชบุรี อาชีพเลี้ยงวัวและไก่ชน อยู่บ้านเลขที่ 92 หมู่ 5 ต.บ้านฆ้อง อ.โพธาราม จ.ราชบุรี คารถเบนซ์ สปอร์ต รุ่น ame eLc สีดำ หมายเลขทะเบียน ฆฆ 5454 กรุงเทพมหานคร เหตุเกิดหน้าสนามไก่ชน ดีดีอนันตชัย หมู่ 1 ต.หน้าไม้ อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม2566 เวลา 20.30 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ลาดหลุมแก้ว คนร้ายเป็นมือปืนรับจ้างมุ่งสาเหตุมุ่งหลายประเด็น ชู้สาวและขัดแย้งเรื่องส่วนตัว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น ความคืบหน้าล่าเมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 สิงหาคม 2566 พ.ต.อ.ธงรบ แจ้งจิต ผกก.สส.บก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.วรยุทธ พงษ์ต้น ผกก.สภ.ลาดหลุมแก้ว พ.ต.ท.ปัญญา เหล็กดี รอง ผกก.สอบสวน สภ.ลาดหลุมแก้ว พ.ต.ต.อนุส วิทธาภรณ์ สว.สส.สภ.ลาดหลุมแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.ลาดหลุมแก้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจังหวัดปทุมธานี เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภาค1 ระดมกำลังพร้อมอาวุธครบมือเข้าปิดล้อม 3 จุด ในพื้นที่หมู่ที่ 6 ต.สระพัฒนา อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เพื่อจับกุมมือปืนรับจ้างยิงเสี่ยโก้ ราชบุรี
จุดแรกเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมเป็นบ่อกุ้ง บ้านเลขที่ 104 หมู่ที่ 6 เข้าจับกุมนายอภิชาติ พัชรการ อายุ 35 ปี ที่บ้านเลขที่ 104 หมู่ที่ 6 ต.สระพัฒนา อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เป็นผู้ต้องหาและเป็นคนดูแลบ่อกุ้งและเป็นพ่อค้าคนกลางส่งกุ้งไปประเทศพม่า
จุดที่สองเข้าจับกุม นายณัฐวุฒิ กำมะณี อายุ 37 ปี ที่บ้านเลขที่ 83 หมู่ 3 ต.ห้วยม่วง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม พฤติกรรมเป็นคนชี้เป้าให้มือปืน มีอาชีพเปิดคาแคร์และเป็นสมาชิก อบต.กำแพงแสน และจุดที่สามเข้าจับกุม นายวิจักษ์ สระทองอ่อน อายุ 49 ปี บ้านแห่งหนึ่งใน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม เป็นมือปืนรับจ้างจับกุมพร้อมของกลาง อาวุธแม็กซีน ขนาด 9 มม.นอริงโก้ จำนวน 1 กระบอก
โดยจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ในข้อกล่าวหา ร่วมกันถ้าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อนมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนอาวุธปืนพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนอาวุธปืนโดยไม่มีเหตุอันควรจำเป็นเร่งด่วนและ(จ้างวาน)
จากการตรวจสอบประวัติ นายวิจักษ สระทองอ่อน อายุ 49 ปี หรือฉายา “โต้ง บ้านสระ”พบมีประวัติเคยก่อคดียิง รอง นายก อบต.ดอนมะนาว เสียชีวิต และนายก อบต. ดอนมะนาว บาดเจ็บสาหัส ผู้ต้องหาเพิ่งโทษออกจากคุกมาไม่นาน เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพ ได้รับการค่าจ้างเป็นเงินจำนวน 300.000 บาท ก่อเหตุยิง ก่อนเกิดเหตุโดยมีนายอภิชาติ เป็นคนโทรไปถามนายณัฐวุฒิ ที่เข้าไปในบ่อนไก่และชี้ตัว เสี่ยโก้ ราชบุรี ว่ายังอยู่ไหมก่อนโทรแจ้งให้นายวิจักษ มือปืนลงมือก่อเหตุ
ภายหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แยกตัวผู้ต้องหาไปทำการสอนสวนขยายผลเพิ่มเติม โดยนำตัวนายอภิชาต ผู้จ้างวานมาสอบสวนที่ สภ.ลาดหลุมแก้ว และนายวิจักษ มือปืนขณะเข้าจับกุมนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจค้นพบมียาเสพติด(ยาบ้า) จำนวน 400เม็ดซุกซ่อนพร้อมอาวุธขนาด 9 มม.ยี่ห้อนอริงโก้ ส่งตัวไปดำเนินคดีที่ สภ.บางกระตืบ จ.นครปฐม ในข้อหามียาเสพติดไว้ในความครอบครองและอายัดไว้ ส่วนนายณัฐวุฒิ ตำรวจนำตัวไปฝากขังที่ สภ.คูบางหลวง และทำการสอบสวนเพิ่มเติม
ทางด้าน พ.ต.อ.ธงรบ แจ้งจิต ผกก.สอบสืบสวน ภ.จว.ปทุมธานี กล่าวว่า ทั้งสามคนเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน โดยก่อนที่จะมาก่อเหตุ มีสาเหตุโกรธเคืองกันกับผู้ตาย แล้วมีการตกลงกันว่าจะเอาปืนมายิงผู้ตาย โดยทางมือปืนหาจังหวะที่จะยิงหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่สามารถก่อเหตุได้ในพื้นที่ของ สภ.ลาดหลุมแก้ว ซึ่งทั้งสามคนนั้นคอยโทรบอกต้นทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมรวบพยานหลักฐานจากกล้องวงจรปิดจนพบรถต้องสงสัยแล้วติดตามจนทราบว่าคนร้ายคือผู้ต้องหาทั้งสามคน ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ที่ทำไปเพราะโกรธแค้นเรื่องผู้หญิง โดยเรื่องเริ่มมาจากนายอภิชาติ ที่มีปัญหากันมาก่อน เกี่ยวกับเรื่องผู้หญิง โดยผู้หญิงที่มีปัญหากันนั้นคือผู้หญิงที่นั่งรถมาด้วยกับผู้ตายในคืนวันเที่เกิดเหตุ เบื้องต้นจากคำให้การของนายอภิชาติ ว่ารู้จักกันมาก่อน ส่วนทางด้านผู้หญิงไม่ได้บอกเกี่ยวข้องเรื่องนายอภิชาติ ส่วนอาวุธปืนที่สามารถตรวจยึดได้นั้น เป็นปืนยี่ห้อ นอริงโก้ ขนาด 9 มม. การวางแผนนั้นก็ไม่ได้มีอะไรมากเพราะทั้งสามคนเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกันนั่งคุยวางแผนกันตามปกติ โดยการเข้าจับกุมนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแบ่งพื้นที่กันเข้าค้นเป็นจุด ๆ จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ โดยการจ้างวานนั้นยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน โดยทางผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้รับเงินจ้างวานจากผู้ต้องหาอีกคนหนึ่ง ซึ่งยังไม่สามรถเปิดเผยรายละเอียดได้ โดยนายวิจักษ มือปืน เคยก่อเหตุฆ่าคนตายมาก่อนหน้านี้แล้ว ที่ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี พึ่งพ้นโทษมาประมาณ 1 ปี แล้วก็มาก่อเหตุอีก
หลังจากนี้ก็จะนำตัวผู้ต้องหาไปทำการฝากขัง แล้วก็จะนำตัวไปขยายผลหาข้อมูลเพิ่มเติมที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้หลักฐานมา ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหากับทั้งหมดว่า ร่วมกันถ้าผู้อื่นโดยเจตนาโดยไตร่ตรองไว้ก่อนมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนอาวุธปืนพกพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนอาวุธปืนโดยไม่มีเหตุอันควรจำเป็นเร่งด่วน