รวบหนุ่ม 16 ปีร่วมแก๊งลักรถจักรยานยนต์ข้ามชาติ
สารภาพสิ้นทํามาแล้วหลายครั้ง
กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตํารวจทางหลวง (บก.ทล) ภายใต้ การอํานวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล., พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น รอง ผบก.ป.ช่วยราชการ รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ชาคริต มงคลศรี, พ.ต.อ.ณัฐพงษ์ ปิตะบุตร, พ.ต.อ.จตุพล เร่งถนอมทรัพย์, พ.ต.อ.สุมรภูมิ ไทยเขียว รอง ผบก.ทล., พ.ต.อ.ศตวรรษ บุญมี ผกก.1 บก.ทล., พ.ต.ท.ธัช โพธิ์สุวรรณ,พ.ต.ท.นาวิน คงสว่าง รอง ผกก.1 บก.ทล.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นําโดย พ.ต.ท.กฤษณะ เชิงยุทธ์ สว.ส.ทล.2 กก.1 บก.ทล., ร.ต.อ.ปรัชญานนท์ ยงยิ่ง รอง สว.ส.ทล.2กก.1 บก.ทล.,
ร่วมกันจับกุม นายธีรพงศ์ ฯ หรือปาล์ม อายุ 16 ปี ซึ่งต้องหาว่ากระทําความผิดฐาน “ร่วมกันลัก ทรัพย์ผู้อื่นในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อความสะดวกแก่การกระทําความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร”
สถานที่จับกุม หน่วยบริการตํารวจทางหลวงมิตรภาพ ส.ทล.2 กก.1 บก.ทล.(สระบุรี) ตําบลทับกวาง อําเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตํารวจทางหลวง ได้รับการประสานข้อมูลคนร้ายเครือข่ายลัก รถจักรยานยนต์ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จากเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.สส.1 บก.สส.บช.น. และ เจ้าหน้าที่ตํารวจ สน.ลาดพร้าว ที่ได้เฝ้าดูพฤติกรรมของคนร้ายกลุ่มดังกล่าวและได้สังเกตเห็นกลุ่มคนร้าย มี การขับขี่มุ่งหน้าไปยังภาคอีสาน
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตํารวจชุดจับกุมได้เรียกให้รถคันดังกล่าวหยุดที่บริเวณ หน่วยบริการตํารวจทางหลวงมิตรภาพ ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี พบนายธีรพงศ์ ฯ แสดงตัวเป็นผู้ขับ ขี่ และพบรถจักรยานยนต์ 8 คันอยู่ภายในส่วนตู้กระบะทึบ เมื่อตรวจสอบข้อมูลรถจักรยานยนต์ที่ตรวจพบทั้ง 8 คัน พบว่ามีการแจ้งหายไว้จํานวน 3 คัน และอีก 5 คันอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูล
จากการสอบถามปากคําทราบว่า นายธีรพงศ์ ฯ รับว่ามีหน้าที่ในการขับรถยนต์คันดังกล่าวรับ รถจักรยานยนต์ที่ได้มาจากการซื้อขายและรถจักรยานยนต์ที่ได้มาจากการลักขโมย ซึ่งในครั้งนี้ นายธีรพงศ์ฯ ขับรถเตรียมมุ่งหน้าอําเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อนํารถจักรยานยนต์ที่บรรทุกไปส่ง ให้แก่ลูกค้าหรือผู้รับซื้อในพื้นที่ดังกล่าว ยอมรับว่า ในระยะเวลา 2 เดือน ทํามาแล้วหลายครั้ง
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางนําส่งพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป










