ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อวันที่ 11 มิ.ย.65ที่ผ่านมา นายแพทย์แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยภายหลังกฎหมายว่าด้วยพืชกัญชามีผลบังคับใช้ ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมานั้น โดยไม่ถือว่าพืชกัญชาเป็นยาเสพติดอีกต่อไป ทั้งผู้เสพ ผู้ครอบครอง ไม่มีความผิดตามกฎหมาย ซึ่งจากกรณีดังกล่าว
“ตนมีความห่วงใยถึงผลกระทบที่จะตามมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูบกัญชาแล้วไปขับรถเนื่องจากกัญชามีผลต่อสมองทำให้สมรรถนะในการขับขี่รถลดลงเหมือนเมาสุราแล้วขับรถ”
ในฐานะที่ทำงานรณรงค์เมาไม่ขับมากว่า 30 ปี เรื่องนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นอย่างมาก เพราะจากนี้บนท้องถนนนอกจากจะเจอกับคนเมาแล้วขับร่วมทางกับเราแล้ว คนไทยยังต้องเผชิญกับคนเมา (กัญชา) แล้วขับอีก ถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่งกับประชาชนบนท้องถนน เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายลงโทษผู้ที่เมา(กัญชา)แล้วขับ
เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ เปิดเผยต่อไปว่า
ขอวิงวอนไปยังพี่น้องประชาชน ถ้าสูบกัญชา
ขออย่าได้ออกมาขับขี่ยานพาหนะบนท้องถนนอย่างเด็ดขาด เพราะเป็นอันตรายทั้งกับตัวผู้ขับขี่ และผู้ร่วมทางบนท้องถนน ขณะเดียวกันก็ฝากไปยังรัฐบาลต้องเร่งออกมาตรการควบคุมการการสูบกัญชาแล้วออกมาขับรถ ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมบนท้องถนนซ้ำเติมสถานการณ์อุบัติเหตุบนท้องถนนของประเทศไทยที่รุนแรงอยู่แล้วให้รุนแรงมากขึ้นไปอีก