พบโครงการขุดลอกแควหนุมานต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรีบางแห่ง ตลิ่งพัง

วอนให้กรมเจ้าท่า เร่งพิจารณาระงับโครงการ และดำเนินการจัดกระบวนการให้มีการรับฟังคิดเห็นจากทุกภาคส่วนรอบด้าน ที่หากดำเนินการจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและประชาชน 2 ฝั่งแควหนุมาน โครงการจะขุดทั้งหมด 7 กิโลเมตร ตอนนี้ได้ดำเนินการไปแล้วครึ่งหนึ่ง ถ้าไม่ดำเนินการอะไรเขาก็จะขุดต่อไปซึ่งตอนนี้เขาขุดไปแล้วตลิ่งก็เริ่มพังแล้วทั้งทั้งที่น้ำมายังไม่มาก โครงการนี้ค่อนข้างเงียบมีประชาชนส่วนน้อยที่ทราบข้อมูลข่าวสาร

วันนี้ 16ก.ค.66 ผู้สื่อข่าว จ.ปราจีนบุรี ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่ตั้งบ้านเรือนติดริมต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี หรือ ต้นน้ำบางปะกง ซึ่งเกิดจากการไหลมารวมบรรจบกันระหว่างแควพระปรงที่น้ำไหลมาจากเทือกเขาสอยดาว จ.สระแก้ว ไหลมารวมบรรจบกันกับแควหนุมานที่น้ำไหลมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี รวมกับเป็นต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี หรือ ต้นน้ำบางปะกง ที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ว่า

… ตามที่สำนักงานพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำที่ 5 (สบ.5) สำนักพัฒนาและบำรุงรักษาทางน้ำ กรมเจ้าท่า ได้จ้างเหมาขุดลอกแควหนุมาน อ.กบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีชุดควบคุมงาน ผู้รับจ้าง ให้ข้อมูลการขุดลอกแควและจัดประชาสัมพันธ์รับฟัง ปัญหาอุปสรรคพร้อมทั้งรับฟังความต้องการของชาวบ้านชุมชนในพื้นที่ที่มีบ้านพักอาศัย พื้นที่ ประกอบอาชีพตามแนวพื้นที่ขุดลอก โดยสรุปผลงานความก้าวหน้าเป็นไปตามแผนงาน

แต่ด้วยช่วงเวลาที่เข้าฤดูฝนซึ่งอาจเป็นข้อจำกัดในการปฏิบัติงานบ้าง ขอให้เร่งรัดการปฏิบัติงานให้เร็วยิ่งขึ้น เพิ่มเครื่องจักรหรือเพิ่มชั่วโมงการทำงาน รวมทั้งประสานหน่วยงานชลประทานเกี่ยวกับการระบายน้ำจากอ่างเก็บน้ำนฤบดินทรจินดาลงสู่ลำแควด้วย เพื่อให้การขุดลอกแล้วเสร็จภายในกำหนด ชุมชนในพื้นที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติงาน

ทั้งนี้โครงการขุดลอกแควหนุมาน เป็นไปตามความต้องการของชุมชนเพื่อแก้ปัญหาความตื้นเขิน ระยะทาง 7,750 เมตร ความกว้างก้นร่องเฉลี่ย 30.00 เมตร ความลึก 1.50-3.00 เมตรจากระดับทะเลปานกลาง วัสดุขุดลอก 300,000 ลบ.ม. เริ่มโครงการ วันที่ 26 มกราคม 2566 ระยะเวลา 180 วัน เมื่อแล้วเสร็จจะเพิ่มพื้นที่รับน้ำ ช่วยการระบายน้ำ ป้องกันอุทกภัยในพื้นที่รวมทั้งการใช้น้ำในการอุปโภคบริโภค

ต่อมา เครือข่ายกลุ่มมิตรรักบางปะกง ยื่นหนังสือต่ออธิบดีกรมเจ้าท่าเรียกร้องให้ยับยั้ง การขุดลอกแควหนุมาน ด้วยเหตุผลกระทบสิ่งแวดล้อม-ชุมชน ทางกลุ่มมิตรรักบางปะกง ขอให้กรมเจ้าท่า เร่งพิจารณาระงับโครงการ และดำเนินการจัดกระบวนการให้มีการรับฟังคิดเห็นจากทุกภาคส่วนรอบด้าน

โดยขอให้ทำหนังสือตอบผลพิจารณาเป็นลายลักษณ์อักษร ส่งถึงมิตรรักบางปะกง ทางกลุ่มฯเปิดเผยจดหมายถึงอธิบดีกรมเจ้าท่าเรื่องขอให้ระงับโครงการขุดลอก และบำรุงรักษาร่องน้ำภายในประเทศที่ร่องน้ำแควหนุมาน ที่หากดำเนินการจะส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและประชาชน 2 ฝั่งแควหนุมาน โครงการจะขุดทั้งหมด 7 กิโลเมตร ตอนนี้ได้ดำเนินการไปแล้วครึ่งหนึ่ง ถ้าไม่ดำเนินการอะไรเขาก็จะขุดต่อไปซึ่งตอนนี้เขาขุดไปแล้วตลิ่งก็เริ่มพังแล้วทั้งทั้งที่น้ำมายังไม่มาก โครงการนี้ค่อนข้างเงียบมีประชาชนส่วนน้อยที่ทราบข้อมูลข่าวสาร

วันนี้ 16ก.ค.66 พลเมืองดีแจ้งว่า ตลิ่งริมแควหนุมาน ที่มีการขุดคัดลอกนั้น พบว่าบางจุดมีการพังลงแล้ว เนื่องจากดินส่วนใหญ่เป็นดินทราย ซึ่งถูกน้ำฝนกัดเซาะไหลพังลงในน้ำ แม้ทางส่วนที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการปลูกหญ้าแฝกเพื่อป้องกันการดินพังทลาย แต่ก็มีการเซาะพังเสียหายจากน้ำฝนที่เพิ่งตกลงมา

จึงลงพื้นที่สอบถามชาวบ้าน ที่มีบ้านเรือนอยู่แม่น้ำพบ ลุงหรรษา ชิมงาม ชาวบ้านบ้านท่าหิน ต.นาแขม กล่าวว่า อยู่บ้านอยู่ริมตลิ่งขวัญหนุมานมา 30 กว่าปี ช่วงหน้าฝนน้ำก็ลุ้นตลิ่งเข้าท่วม ใต้ถุนบ้าน ซึ่งชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง

ที่ผ่านมาชินกับฤดูน้ำ พื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนของประชาชนที่อยู่ติดกับลุ่มน้ำนี้ ในการขุดลอกคลองในครั้งนี้ คิดว่าไม่น่าจะได้รับผลกระทบกับชาวบ้านมากนัก ส่วนใหญ่ริมตลิ่งจะปกคลุมด้วยต้นพงษ์ ซึ่งเป็นพืชตระกูลแฝกขึ้นเต็มพื้นที่สามารถป้องกันการกัดเซาะน้ำได้ดีระดับหนึ่งจึงไม่มีความกังวลใจมากนัก

ด้านนายขันติสุข ทองโบราณ ชาวบ้านบ้านท่าหิน ต.นาแขม กล่าวว่า มีบ้านเกิดติดอยู่ริมแควหนุมาน ที่ผ่านมาเวลาน้ำหลาก น้ำในแควก็จะสูงขึ้นท่วมใต้ถุนบ้าน ซึ่งเป็นธรรมชาติสำหรับคนที่มีบ้านเรือนอยู่ติดกับแม่น้ำลำคลอง

การที่มีการขุดลอกคลองยอมรับว่าไม่ทราบเรื่องมาก่อนว่าจะมีการขุดลอกคลองแต่อย่างใด ต้องดูต่อไปว่า หลังจากขุดลอกคลองแล้วจะทำการใดเพิ่มเติมหรือไม่ ในด้านปลูกหญ้าแฝกหรือนำหินมาวางเป็นการกั้นการถูกน้ำกัดเซาะตลิ่งพังหรือไม่ ส่วนตัวคิดว่าโครงการน่าจะอยู่ระหว่างการดำเนินการอยู่