นครปฐม เปิดตัวคลินิกผู้ป่วยเบาหวานความดัน วัดไผ่ล้อม โมเดลต้นแบบแห่งแรกของประเทศดูแลผู้ป่วยครบวงจร
ทีมแพทย์นครปฐม หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เปิดตัว คลินิกผู้ป่วยนอก โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลนครปฐม โครงการต้นแบบแห่งแรกในประเทศไทยบริการรักษา บำบัดผู้ป่วยครบวงจร หลังประสบปัญหายอดผู้ป่วยพุ่งสูงสถานที่รองรับไม่เพียงพอสร้างหน่วยย่อยกดูแลประชาชนโดยบูรณาการระหว่างวัดและหน่วยงานรัฐ เตรียมผลักดันดำเนินการทั่วประเทศ หลวงพี่น้ำฝนย้ำยินดีนำทัพบุญร่วมช่วยสังคมต่อเนื่อง
วันที่ 13 กรกฎาคม 66 ที่วัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมือง จ.นครปฐม แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 5 เดินทางเป็นประธานเปิดคลินิกผู้ป่วยนอก โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลนครปฐม ศูนย์วัดไผ่ล้อม ร่วมด้วยนายแพทย์วิโรจน์ รัตนอมรสกุล สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม โดยนายแพทย์สุรชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม เป็นผู้กล่าวเปิดงาน พร้อมด้วยคณะสงฆ์วัดไผ่ล้อม นำโดยครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม นายสมชาติ สาลีพัฒนา รองประธานมูลนิธิหลวงพ่อพูล และคณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครปฐมและโรงพยาบาลนครปฐม เข้าร่วมในพิธีโดยพร้อมเพรียง
แพทย์หญิงอัจฉรา นิธิอภิญญาสกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 5 เผยว่าปัจจุบันระบบสาธารณสุขกำลังเจอปัญหาใหญ่คือไม่โรคติดต่อเรื้อรัง คือความดันและเบาหวาน คาดว่าจะมีมากถึง 20 เปอร์เซ็นต์ของประชากร ขณะเดียวกันโรงพยาบาลในส่วนของกระททรวงสาธารณสุขก็เริ่มมีความคับแคบและประชาชนที่เข้ามาใช้บริการจนอัด การที่หลวงพี่น้ำฝนได้ให้ใช้สถานที่ในวัดไผ่ล้อมเพื่อจัดตั้งคลีนิคผู้ป่วยนอก ถือว่าเป็นโมเดลของการดำเนินการที่สมบูรณ์แบบมากเพราะเป็นศูนย์ที่ดูแลผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานและความดันที่สมบูรณ์แบบ โดยเป็นการบูรณาการระหว่างพระสงฆ์ที่เป็นศูนย์รวมทางจิตวิญญาณและภาครัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข เพื่อบริการประชาชน และประชาชนสามารถมาที่เดียวได้รับการบริการทั้งการรักษาและดูแลสุขภาพ เป็นหนึ่งในแม่แบบที่จะต้องนำไปปรับใช้กับจังหวัดต่างๆ ต่อไป
นายแพทย์วิโรจน์ รัตนอมรสกุล สาธารณสุขจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ของโรคเบาหวานและความดัน ขณะนี้แม้ว่าเราจะมียาที่ดีและการแพทย์ที่ดีขึ้น ย่อมจะหมายถึงผู้ป่วยก็ต้องอยู่กับโรคนี้นานขึ้นด้วย ซึ่งในส่วนที่โรงพยาบาลนครปฐม มีการจัดตั้งคลีนิคที่วัดไผ่ล้อมก็ถือว่าสถานที่เหมาะสมอากาศถ่ายเทได้ดีมีที่จอดรถสะดวกและหากประชาชนต้องเข้าไปรับบริการยังโรงพยาบาลจะทำให้ต้องไปรอคิวอย่างแออัดเป็นการเสี่ยงที่จะมีการติดเชื้อได้ง่าย และบริการได้เท่ากับที่โรงพยาบาลนครปฐมซึ่งเราก็ไม่คาดมาก่อนว่าจะมีคนไข้มากขึ้นอย่างรวดเร็ว
นายแพทย์สุรชัย โชคครรชิตไชย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครปฐม กล่าวว่า ที่โรงพยาบาลนครปฐมมีผู้ป่วยนอกวันละเกือบ 3,000 คน ซึ่งประชาชนเข้ามารับบริการคลินิกผู้ป่วยนอก โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลนครปฐม ศูนย์วัดไผ่ล้อม จะสามารถมารับบริการได้ราว 300 คน โดยเป็นการบริการแบบครบวงจรทั้งการดูแลทางด้านดวงตา เท้าและมีการรักษาด้วยแพทย์แผนไทยอนาคตจะตรวจฟันด้วย อนาคตผู้ป่วยโรคเบาหวาน ความดันที่มีอาการแทรกซ้อนก็จะสามารถมารับบริการได้ที่นี่ที่เดียวด้วย นอกจากนี้ยังมีคลีนิคครอบครัว ที่กระจายไปยังจุดต่างๆ รอบอำเภอเมืองนครปฐม ร่วมกับโรพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลที่จะทำงานร่วมกันด้วย
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม เผยว่า อาตมาได้รับการประสานงานในเรื่องการขอใช้สถานที่ภายในวัดไผ่ล้อมจากโรงพยาบาลนครปฐมเนื่องจากในพื้นที่ของโรงพยาบาลมีความแออัดและทำให้ประชาชนที่มารับการบริการไม่สะดวกในการรอรับบริการทางการแพทย์ ซึ่งอาตมาได้เห็นชอบเป็นไปในทิศทางเดียวกันเนื่องจากการช่วยประชาชนและสนับสนุนการทำงานทางการการแพทย์เป็นงานหนึ่งที่เป็นนโยบายของวัดไผ่ล้อม ที่คณะสงฆ์จะมีหน้าที่ทางด้านสาธารณะสงเคราะห์ เป็นส่วนหนึ่งในสังคมด้วย
“ตอนนี้อาตมาและคณะศิษยานุศิษย์ ได้มีการมอบเครื่องถ่ายภาพจอประสาทตาแบบดิจิตอล ยี่ห้อ Nikon retinastation ให้กับโรงพยาบาลศูนย์นครปฐม มูลค่า 1,200,000 บาท ให้กับโรงพยาบาลนครปฐม สำหรับใช้ตรวจระบบประสาทตาให้กับผู้เข้ารับบริการ ที่คลินิกผู้ป่วยนอก โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรงพยาบาลนครปฐม ศูนย์วัดไผ่ล้อม ซึ่งตอนนี้ได้มีการเปิดใช้ในการตรวจรักษาให้กับประชาชนไปแล้ว ซึ่งทางอาตมาก็พร้อมที่จะสนับสนุนทางด้านอื่นๆ เพื่อทำให้สังคมของเราเป็นสังคมแก่การเกื้อกูลกัน โดยมีศาสนาพุทธเป็นศูนย์กลาง” หลวงพี่น้ำฝน กล่าวปิดท้าย
ปนิทัศน์ มามีสุข นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม 092-5462794
