เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 ก.ค. พ.ต.ท.ธรรศพงศ์ เดชวรไพบูลย์ สว.(สอบสวน)สน.อุดมสุข รับแจ้งเหตุยิงกันตาย เหตุเกิดที่หอพักไม่มีชื่อเลขที่ 85 ถนนเฉลิมพระเกียรติร.9 ซอย 38 แยก 1 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กทม.รุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.อ.ปณิธิ ชาอุ่น ผกก.สน.อุดมสุข เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวรสถาบันนิติเวชฯ รพ.ตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 2 ชั้น ที่ห้องพักซ้ายสุดไม่มีเลขที่ บริเวณชั้น 2 ภายในห้องพบศพนายพงศพัศ สุทธิสน อายุ 18 ปี สภาพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำไม่สวมเสื้อ เสียชีวิตอยู่บนที่นอนปูวางอยู่ที่พื้นนุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด9 มม. 2 นัด เข้าที่โหนกแก้มขวาทะลุแก้มซ้ายและแขนขวา ทะลุชายโครงขวาทะลุหน้าอก ถัดมาใกล้กันที่พื้นห้องพบศพนายเจษฎา พวงราช หรือท็อป อายุ 35 ปี สภาพนอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีชมพูกางเกงขาสั้นสีเขียว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธขนาดเดียวกัน ที่ใต้กกหูขวาทะลุขมับซ้าย 1 นัด และพบอาวุธปืนแม็กกาซีน ขนาด 9 มม. ยี่ห้อลูเกอร์ มีกระสุนค้างในรังเพลิง 1 นัด ตกอยู่ข้างตัวใกล้ขาขวา จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ น.ส.เฟิร์น อายุ 18 ปี แฟนสาวนายพงศพัศ ถูกยิงที่หน้าท้อง 1 นัด บาดเจ็บสาหัส ถูกเจ้าหน้าที่นำส่งรพ.สิรินธร แพทย์กำลังผ่าตัดช่วยเหลือเป็นการด่วน และพ้นขีดอันตรายแล้ว
จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายเจษฎาหรือท็อป ผู้ก่อเหตุมีอาชีพเป็นการ์ดตามผับนอกจากนี้ยังมีงานเสริมรับจ้างส่งของ เคยมีเมียและลูกติดมาก่อน ต่อมาแต่งงานอยู่กินกับน.ส.พรวิภา เปรมานุพันธ์ หรือโป้ง อายุ 33 ปี พนักงานเสมียนบริษัทแห่งหนึ่ง ย่านประเวศ ทำธุรกิจขายอะไหล่ชิ้นส่วนเครื่องจักรตามโรงงานที่ห้องเกิดเหตุนานกว่า2ปี แต่ชีวิตคู่ไปไม่รอด มีปัญหาภายในครอบครัวแยกกันอยู่นาน3 เดือนแล้ว โดยนายท็อปไปพักอาศัยอยู่ย่านวัดมหาบุศย์ ย่านพระโขนง ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 เดือนนายท็อปเดินทางมาที่ห้องเกิดเหตุเพื่อง้อขอคืนดี น.ส.โป้งแต่ถูกปฏิเสธกลับไป
ก่อนเกิดเหตุวันนี้นายท็อป มาง้อขอคืนดีกับอดีตเมียอีกครั้ง เมื่อมาถึงเคาะห้องให้คนเปิดรับแล้วตะโกนอ้างว่าจะมาเก็บของและเสื้อผ้าแต่ในห้องขณะนั้นมีอดีตแม่ยายของนายท็อป อยู่กับนายพงศพัศ หลานชายน.ส.โป้ง และแฟนสาวของนายพงศพัศ อยู่ในห้อง บอกว่า น.ส.โป้งไม่อยู่ นายท็อปไม่เชื่อ และโกรธมากไม่มีใครเปิดประตูรับ จึงใช้ปืนทุบหน้าต่างบานเก็ด และปีนหน้าต่างเข้าไปในห้อง ทะเลาะกับแม่ยายอย่างรุนแรง นายพงศพัศและแฟนสาวเข้าห้ามถูกยิงเสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนแม่ยายของนายท็อปหลบหนีออกมาจากห้องได้ จากนั้นนายท็อปใช้ปืนยิงตัวเองเพื่อหนีความผิด ทั้งนี้แม่ยายของนายท็อปยังอยู่ในอาการตกใจให้การไม่ได้เจ้าหน้าที่นำตัวไปสอบสวนที่ สน.อุดมสุข และติดตามผู้เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป
ขณะที่แม่ของนายพงศพัศ สุทธิสน อายุ 18 ปี ผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่เกิดเหตุ กล่าวว่า ลูกชายมาอาศัยอยู่กับแฟนคือนางสาวเฟิร์น(ผู้บาดเจ็บ) ซึ่งเป็นน้องสาวของ น.ส.โป้ง(แฟนผู้ก่อเหตุ) ได้ระยะหนึ่งแล้ว เนื่องจากบ้านที่อยู่ซ่อมแซม และเมื่อประมาณเดือนก่อน ลูกชายได้โทรศัพท์มาเล่าว่า ผู้ก่อเหตุเคยถือมีดถือปืน มาตามง้อ น.ส.โป้ง ที่บ้าน แต่มาด้วยอาการโมโห มาโวยวาย และในฐานะที่ลูกชาย เป็นผู้ชายคนเดียวในตอนนั้นจึงต้องเข้าไปห้าม แต่ครั้งนั้นก็ไม่เกืดเรื่องอะไร ซึ่งพอตนรู้ก็ได้บอกกับลูกชายไปว่า อย่าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นเลยเดี๋ยวจะเจ็บตัว และหลังจากนั้นลูกชายก็ไม่ได้เล่าอะไรอีกเลย จนกระทั่งวันนี้มีคนโทรศัพท์ไปหาตนว่าลูกชายตนเสียชีวิตจากนายเจษฎา ตนก็ตกใจทั้งที่เคยห้ามไปแล้วว่าอย่าไปยุ่ง ซึ่งตนอยากให้ครอบครัวของผู้ก่อเหตุรับผิดชอบเพราะลูกชายตนไม่ได้มีอะไรบาดหมากกับผู้ก่อเหตุ










