ผบช.ภ.7แถลงข่าวรวบ 2 มือฆ่าเผาทำลายศพ”เจ๊อ้อย” อย่างอุกอาจ ในพื้นที่เมืองกาญจน์ พร้อมจำนนด้วยของกลางและการไล่ภาพวงจรปิด
วันนี้(วันศุกร์ ที่ 7 ก.ค. 66) เวลา 14.00 น.
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์
ผบช.ภ.7
พร้อมด้วย
พล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร
รอง ผบช.ภ.7
พล.ต.ต.ไพโรจน์ คุ้มภัย
ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาม
รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.อภิชาติ ศรีทองกุล
รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.สุรยุทธ เมฆมังกร
ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี
พ.ต.อ.มานะ สำราญวงศ์
ผกก.สส.ภ.จว.กาญจนบุรี
พ.ต.อ.ณัฐพิสิษฐ์ รัตนอุดมพล
ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.7
พ.ต.อ.ณรงค์ธรรม มาศคีรีวงศ์
นวท.(สบ.4) พฐ.จว.กาญจนบุรี
และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
ได้ร่วมกันแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 2 ราย ได้แก่
1.น.ส.วิลาวัณย์ แสงประดับเพชร อายุ 38 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จว.กาญจนบุรี ที่ มจ432/2566
๒.นายนิติ จุลสำราญ อายุ 37 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาล จว.กาญจนบุรี ที่ มจ433/2566
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น, ร่วมกันลอบฝั่ง เผา ช่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ หรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตายหรือเหตุแห่งความตาย, ร่วมกันกระทำใดๆแก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป, ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับกุมและร่วมกันช่วยผู้อื่นมิให้ต้องรับโทษหรือให้รับโทษน้อยลง ทำให้เสียหาย ทำลาย ช่อนเร้น เอาไปเสีย หรือทำให้สูญหาย หรือไร้ประโยชน์ ซึ่งพยานหลักฐานในการกระทำความผิด”
พร้อมของกลางจำนวน 2 รายการ ได้แก่
1.รถยนต์เก่ง ยี่ห้อ HONDA ACCORD สีเทา หมายเลขทะเบียน 2ขบ1433 กรุงเทพมหานคร
2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA PCX สีม่วง-แดง หมายเลขทะเบียน ขนธ 172 กาญจนบุรี
พฤติการณ์แห่งคดี
ด้วยเมื่อวันที่ 1 ก.ค. 66 เวลาประมาณ 19.30 น. สภ.เมืองกาญจนบุรีได้รับแจ้งว่าน.ส.นันท์นิชา หอมหวน อายุ 36 ปี ที่อยู่ 18 ม.12 ต.ทัพหลวง อ.หนองหญ้าไช จ.สุพรรณบุรี ได้เดินทางพบ
พนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งว่า เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. 66 เวลาประมาณ 13.00 น. นางดารัณ แพลอย
อายุ 58 ปี น้าสาวของผู้แจ้งได้ออกจากที่ทำงานฝ่ายทะเบียนที่มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี แจ้งลาครึ่งวัน จะเดินทางไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลพหลหยุหเสนา หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อได้ ผู้แจ้งได้โทรประสานที่โรงพยาบาลพหลพยุหเสนา แต่ไม่พบการมาติดต่อของนางดารัณฯแต่อย่างใด จนกระทั่งบัดนี้ยังไม่กลับบ้าน ผู้แจ้งเกรงว่าจะเกิดเหตุร้ายกับนางดารัณฯ ผู้แจ้งจึงได้ร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเพื่อติดตามและจับกุมผู้กระทำผิดนั้น
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจสอบกล้องวงจรปิดของนางดารัณ หรืออ้อยฯ หายตัวไปที่ใด และมีประชาชนแจ้งว่าพบบัตรประจำตัวประชาชนของ นางดารัณ หรืออ้อยฯ ถูกเผาพร้อมสิ่งของส่วนตัว บริเวณริมน้ำซอย
ข้างโรงเรียนวัดท่าเพนียดกุญชร ม.3 ต.แก่งเสี้ยน อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน ทราบว่า นางดารัณ หรืออ้อยฯ ได้ติดต่อกับ น.ส.วิลาวัณย์ แสงประดับเพชร เป็นคนสุดท้าย จึงได้เชิญตัวมาสอบถามข้อมูล ได้ความว่า นางดารัณ หรืออ้อยฯ และน.ส.วิลาวัณย์ หรือสาวฯ ได้นัดหมายกันมาพบที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.สาขาลาดหญ้า ต.ลาดหญ้า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ปรากฏตามกล้องวงจรปิดที่ตรวจสอบพบนายนิติ หรือกอล์ฟ จุลสำราญ, น.ส.วิลาวัณย์ หรือสาวฯ และ นางดารัณ หรืออ้อยฯ ได้ออกเดินทางไปพร้อมกันโดยรถยนต์เก๋ง ฮอนด้า แอคคอร์ด หมายเลข
ทะเบียน 2ขบ1533 กทม. มุ่งหน้าไปพื้นที่ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี และกลับมายังบริเวณใกล้เคียงจุดที่เดินทางไป โดยนายนิติ หรือกอล์ฟฯ ได้ลงจากรถยนต์และไปขับขี่รถจักรยานยนต์ (ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน)
ที่นายนิติ ๆ จอดไว้หน้าร้านสะดวกซื้อ 7-1 1 สาขาลาดหญ้าและขับขี่มุ่งหน้าออกไปถนนเส้น อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดย น.ส.วิลาวัณย์ หรือสาวฯ ลงจากรถยนต์ฝั่งคนนั่งข้างไปเป็นผู้ขับขี่ แต่ไม่พบ นางดารัณหรืออ้อยฯ แต่อย่างใด
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนจึงทราบว่า นายนิติ หรือกอล์ฟฯ และ น.ส.วิลาวัณย์ หรือสาวฯ ร่วมกันฆ่าและทิ้งศพนางดารัณ หรืออ้อย ฯ และพบศพที่บริเวณาริมถนนบ้านท่าสนุ่น ต.แม่แฉลบ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี จึงได้ประสานขออนุมัติศาลจังหวัดกาญจนบุรีเพื่อออกหมายจับที่ มจ 432-433/2566 ลงวันที่ 6 ก.ค. 66 เพื่อทำการจับกุม นายนิติ หรือกอล์ฟฯ และน.ส.วิลาวัณย์ หรือสาวฯ และติดตามจนพบตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายในเขตพื้นที่ อ.เมืองกาญจนบุรี ได้นำตัว
น.ส.วิลาวัณย์ หรือสาวฯ นำพาชี้จุดที่ทิ้งศพ นางดารัณ หรืออ้อยฯ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้จับกุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลางนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในการนี้ ผบช.ภ.7 ได้มอบเงินรางวัลให้แก่เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เพื่อเป็นขวัญกำลังในการทำงาน ในการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยึดหลักการทำงานแบบ "กัดไม่ปล่อย ล่าไม่ถอย คอยไม่เลิก" จนสามารถติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องรวบรวมพยานหลักฐานเข้าในสำนวนให้รอบคอบ รัดกุม เพื่อสามารถลงโทษผู้กระทำความผิดได้อย่างแท้จริง อันจะสร้างความเชื่อมั่นให้สังคมส่วนรวม ตามคติที่ว่า "คนดีต้องอยู่เย็นเป็นสุข คนร้ายต้องอยู่ร้อนนอนทุกข์"
ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ และปฏิบัติหน้าที่ตามหลักยุทธวิธี เพื่อป้องกันมิให้เกิดความสูญเสียแก่ครอบครัวพี่น้องตำรวจ
ในนามของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 7 ได้ฝากถึงประชาชนว่าตำรวจทำงานอย่างเต็มที่ และขอชมเชยเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้ทำงานด้วยความวิริยะ อุตสาหะ เสียสละ จนสามารถติดตามจับกุมผู้กระทำความผิดได้ด้วยความรวดเร็ว และขอให้รักษาความดีนี้ไว้สืบต่อไป
ณ สภ.เมืองกาญจนบุรี ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี



