บุกรวบเจ้าของบริษัทเก็บภาษี (VAT) จากลูกค้าแล้วไม่นําส่งสรรพกร รัฐเสียหายมูลค่ากว่า3ล้านบาท
กองบัญชาการตํารวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ภายใต้การอํานวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.คงกฤช เสิศสิทธิกุล รอง ผบก.ปอศ., พ.ต.อ.ชัชวาล ชูชัยเจริญ ผกก.2 บก.ปอศ. และ พ.ต.ท.วันเผด็จ จันยะรมณ์ รอง ผกก.2 บก.ปอศ.
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม นําโดย ร.ต.อ.สรรเสริญ สอดสุข รอง สว.กก.2 บก.ปอศ., ร.ต.อ.ภาคภูมิ พานิชขจรกุล รอง สว.กก.2 บก.ปอศ., ด.ต.ชยุต ปัญญวรรณศิริ ผบ.หมู่ กก.2 บก.ปอศ., ด.ต.ยอดปิยะ คําแก้ว ผบ.หมู่ กก.2 บก.ปอศ., ด.ต.รัชกร วิสิทธ์ ผบ.หมู่ กก.2 บก.ปอศ. และ จ.ส.ต.ธนาคาร ศรีพัฒน์ ผบ.หมู่ กก.2 บก.ปอศ.
ร่วมกันจับกุม จับกุมนางสาวพิณณ์นพเก้าฯ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหา ตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1199/2566 ลงวันที่ 20 เมษายน 2566 ผู้กระทําผิดตามประมวลรัษฎากรในความผิดฐาน “ร่วมกัน หลีกเลี่ยงหรือพยายามหลีกเลี่ยงภาษีมูลค่าเพิ่ม กระทําการใดๆ โดยความเท็จ โดยฉ้อโกง หรืออุบายหรือ วิธีการอื่นใดในทํานองเดียวกัน” อันเป็นความผิดตามประมวลรัษฎากร ต้องระวางโทษจําคุกตั้งแต่ 3 เดือน ถึง 7 ปี ปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 200,000 บาท
จับกุม บ้านหลังหนึ่ง ซอยลาดพร้าว 101 แยก 33 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร
เนื่องจากว่ากรมสรรพากรได้มาร้องทุกข์ให้ดําเนินคดีกับบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งบริษัทดังกล่าว ดําเนินการเกี่ยวกับ การติดตั้ง ตรวจสอบ และจําหน่ายอุปกรณ์เกี่ยวกับป้องกันอัคคีภัย โดยมีนางสาวพิณณ์นพเก้าฯ เป็นกรรมการบริษัทฯ ที่ได้มีการเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) มาจากลูกค้าแล้วกลับไม่นําเงินจํานวนดังกล่าว ส่งกรมสรรพากร มูลค่าค่าความเสียหายกว่า3ล้านบาท พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมหลักฐานขอศาลออก หมายจับ
กระทั่งเจ้าหน้าที่ตํารวจ กก.2 บก.ปอศ. ได้สืบทราบว่า นางสาวพิณณ์นพเก้าฯ ผู้ต้องหา ได้หลบหนีไป พักอาศัยที่บ้านหลังหนึ่ง ซอยลาดพร้าว 101 แยก 33 แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร จึงได้นํา กําลังเจ้าหน้าที่ตํารวจไปตรวจสอบ เมื่อพบผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่ตํารวจจึงได้ทําการจับกุมตัวนําตัวส่งพนักงาน สอบสวนกก. 2 บก.ปอศ.ดําเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
สอบถามคําให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ
เตือนภัย กองบังคับการปราบปรามการกระทําความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้ดําเนินการตามมาตรการเชิงรุก ป้องกันปราบปรามและจับกุมผู้กระทําความผิด รวมถึงผู้ประกอบการธุรกิจ ที่ได้ดําเนินการหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร นําใบกํากับภาษีปลอมมาใช้ รวมถึงการเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) แต่ไม่นําส่งกรมสรรพากร ทําให้รัฐเกิดความเสียหาย ซึ่งถือว่าเป็นผู้กระทําผิดตามผู้กระทําผิดตามประมวล รัษฎากร










