นนทบุรี เปิดใจโชเฟอร์แท็กซี่ จอดรถขวางหน้าบ้าน หลังทัวร์ลง ยืนยันมาครั้งแรกไม่ได้จอดเป็นประจำ
ล่าสุด เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 3 ก.ค.66 ผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าพบพบนายสิทธิศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ผู้ขับขี่รถแท็กซี่สีชมพู-ขาว ที่ถูกกล่าวหาว่าจอดขวางหน้าบ้านของผู้ร้องเรียนคือนายภูมิ อายุ 32 ปี ทำงานเป็นไอทีซัพพอร์ตบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้โพสต์เรื่องราวลงเฟซบุ๊กเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ Part 6 ทำให้ได้รับความเสียหาย ถูกสื่อโซเชียลโจมตี
นายสิทธิศักดิ์ กล่าวชี้แจงว่า วันที่ 30 มิ.ย.66 ตนได้กินเลี้ยงแสดงความยินดีกับน้องชายที่สอบนายสิบตำรวจได้ โดยกินเลี้ยงกันที่ร้านอาหารตามสั่งแถวตลาดนัดนกฮูก เลี่ยงเมืองนนทบุรี ไม่มีแอลกอฮอล์ ต่อมาเวลา 22.00 น. ตนก็ได้ขับรถเข้าไปที่บ้านรุ่นพี่ที่นั่งกินเลี้ยงอยู่ด้วยกันก่อนหน้านี้ ในหมู่บ้านณรงค์สุขนิเวศน์ ตนก็ได้จอดรถและเข้าไปนั่งเล่นพูดคุยแสดงความยินตามปกติ ต่อมาเวลา 23.00 น. ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจขับรถมาเดินส่องไฟฉายเข้ามาตามหาตนที่บ้านรุ่นพี่ ตนรู้สึกงง จึงเดินออกไปถึงทราบว่าตำรวจมาเรียกตนให้ขยับรถยนต์ เนื่องจากเจ้าของบ้านที่ชื่อภูมิขับรถยนต์เข้าบ้านไม่ได้ ตอนนั้นตนยอมรับว่าโมโหจึงมีคำพูดที่รุนแรงออกไปบ้างแต่ไม่ได้ด่าหยาบคาย เพียงบ่นประมาณว่า “จะไปแจ้งตำรวจทำไม ถ้าจะเข้าบ้านก็ติดป้ายไว้จะได้ไม่มาจอด” ตนจึงมาขยับรถในเวลาต่อมา ตนคิดว่าเรื่องนี้แค่เข้ามาเรียกตนก็ออกไปขยับรถให้แล้วไม่ต้องโทรหาตำรวจ แต่ไม่มีใครเดินมาเรียกเลยจึงรู้สึกโมโห ซึ่งรถแท็กซี่ตนที่จอดอยู่ตนได้จอดชิดกำแพงและไม่ได้จอดขวางหน้าบ้านของคนที่แจ้งตำรวจ และตนก็ขอชี้แจงกับทางสื่อมวลชนว่า ตนไม่ได้อาศัยอยู่ในซอยนี้ พึ่งมาครั้งแรก และก็ไม่รู้จักกับผู้ร้องเรียนด้วย รวมถึงมีข่าวออกไปว่าตนมากินเลี้ยงเมากันอยู่นั่นไม่เป็นความจริง อยากขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนเนื่องจากได้รับความเสียหาย ถูกพาดพิงหลายๆเรื่องทั้งที่ไม่เป็นความจริง ตนพึ่งทราบว่าตนเป็นข่าวเพราะมีลูกค้านำภาพข่าวในโทรศัพท์ให้ดู จึงอยากฝากถึงผู้โพสต์เฟซบุ๊กว่า จะลงอะไรหรือให้ข้อมูลกับสื่อควรตรวจสอบให้ดีก่อนที่จะแชร์
ส่วนทางด้านน.ส.กิติยาดา สุขก้อน อายุ 47 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 39/18 หมู่บ้านณรงค์สุขนิเวศน์ ซอยนนทบุรี6 แยก 6/2 ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี เปิดเผยว่า วันที่เกิดเรื่องตนได้กินเลี้ยงงานลูกชายตนรับยศสอบนายสิบตำรวจได้ ทางน้องที่ขับแท็กซี่ก็มาแสดงความยินดีที่ร้านอาหาร หลังทานอาหารเสร็จน้องแท็กซี่ก็ขับรถมาจอดที่ซอยบ้านตน ซึ่งตอนนั้นตนก็เดินดูบ้านน้องภูมิซึ่งเป็นผู้ร้องเรียนปรากฎว่าน้องยังไม่เข้าบ้าน ตนจึงบอกน้องแท็กซี่ให้จอดไปก่อนได้เพราะปกติถ้าน้องภูมิกลับมาแล้วหากมีรถยนต์จอดน้องก็จะโทรเรียกคนที่บ้านตนเพราะน้องมีเบอร์ทุกคนเคยแลกเบอร์กันไว้แล้ว แต่ครั้งนี้ไม่ได้โทรหาแต่กลายเป็นว่าโทรหาตำรวจกับนักข่าวแทน ซึ่งซอยนี้เป็นซอยตันตามจริงแล้วก็เคยมีปัญหาเรื่องการร้องเรียนที่จอดรถกันมา หากอรุ่มอร่วยกันก็เปรียบเสมือนพี่น้องกันหมด ตนเห็นน้องภูมิตั้งแต่เด็กจนน้องเขาโต แต่น้องภูมิพึ่งมีรถได้เพียง 1 ปี หากตนจอดรถหน้าบ้านตนจริงๆก็ไม่มีคันไหนเข้าออกได้ ซึ่งเรื่องนี้ตามจริงแล้วตนก็จอดรถติดริมกำแพงอยู่แล้ว แต่วันเกิดเหตุแท็กซี่มาจอดเอาของแปปเดียว ตอนนี้ก็ได้รับความเสียหายกันหมดทั้งญาติตนที่ทำงานอยู่เทศบาลซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ก็ถูกพาดพิง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพียงแค่วันนั้นวันเดียวเท่านั้น และแท็กซี่ที่มาจอดก็พึ่งมาแค่ครั้งเดียวไม่ได้จอดค้างคืนหรือทุกวันตามที่ออกข่าว ให้ดูกล้องวงจรปิดที่บ้านน้องภูมิได้เลย ส่วนเรื่องที่เคยมีปัญหากันหรือมีการด่ากันไม่ใช่ตน และตนก็ไม่ทราบด้วยว่าใคร ซึ่งอยากให้น้องภูมิมาพูดคุยกันดีกว่า เบื้องต้นทางน้องภูมิก็ใีการโทรพูดคุยขอโทษกับน้องตนที่ทำงานเทศบาลเรียบร้อยแล้ว จึงอยากบอกว่ามีอะไรให้คุยกันไม่ใช่มาทำแบบนี้
*หมายเหตุ เบลอหน้าโชว์เฟอร์แท็กซี่ เบลอทะเบียนรถแท็กซี่














