หมอปลา ยังเจอวิบากกรรมไม่หยุด ล่าสุดถูกทนายกองทัพธรรม เดินหน้าแจ้งความกรณีบุกวัดห้วยจระเข้ ยามวิกาล
ทนายกองทัพธรรม เดินหน้าแจ้งความเอาความผิดหมอปลา พร้อมทีมงานและทุกคนที่บุกไลฟ์สด วัดห้วยจระเข้นครปฐม เมื่อ 6 เมษายน โดยแจ้งข้อหาหนักทั้งบุกรุก พรบ.คอมพิวเตอร์ พรบ.คณะสงฆ์ เตรียมเอาผิดทุกคนร่วมถึงสื่อที่ปรากฏในคลิบ ทั้งนี้ยังปรากฏนักข่าวสาวที่ตกเป็นประเด็นกรณีหลวงปู่แสงก็ติดตามมาทำข่าวในวันดังกล่าวด้วย
วันนี้ 16 พ.ค.65 ที่ สภ.เมืองนครปฐม นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร นายกสมาคมไวยาวัจกรแห่งประเทศไทย ในฐานะทนายกองทัพธรรม ได้เดินทางเข้าพบกับ พนักงานสอบสวนเวร สภ.เมืองนครปฐม เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา พร้อมพวกที่ได้บุกเข้าไลฟ์สด ที่วัดห้วยจระเข้ ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ซึ่งได้มีการแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้วก่อนหน้า โดยมีพฤติกรรมคล้ายกับที่บุกไปที่ที่พักสงฆ์ดงสว่างธรรม ต.โคกนาโก อ.ป่าติ้ว จ.ยโสธร และมีการไลฟ์สด สอบถามข้อมูลหลวงปู่แสง ญาณวโร อายุ 98 ปี และพระเลขาโดยมีพฤติกรรม ที่ไม่เหมาะสมก่อนจะเกิดกระแสตีกลับในสังคม โดยวันนี้นายประดับ โพธิการจนวัตร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม เข้าสังเกตการณ์
นายศุภภัทร์พจน์ นิติศศธร นายกสมาคมไวยาวัจกรแห่งประเทศไทย เผยว่าในการเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษในวันนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 เมษายน 65 ที่ผ่านเวลาประมาณ 2 ทุ่มเศษ ได้มีการไลฟ์สดของ เพจ หมอปลาช่วยด้วย ได้มีนายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือหมอปลา มือปราบสัมภเวสี พร้อมกับพวกรวมกว่า 30 คนมีทั้งทีมงานและสื่อมวลชน ได้เข้าไปที่กุฏิ 7 โดยบอกว่ามีคนแจ้งว่ามีพระลูกวัดอย่ากับสีกา สองต่อสอง ในกุฎิ แต่เมื่อได้เข้าไปไลฟ์สด พบว่าเป็นชายที่แต่งกายเป็นหญิง ซี่งชายคนดังกล่าวได้แจ้งว่ามาทำความสะอาดและมาดูแลจัดยาและช่วยดูแลสุขภาพของพระรูปดังกล่าวเท่านั้น
นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว ทราบว่าทางพระลูกวัดของวัดห้วยจระเข้ ได้มีการไปแจ้งความลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานแล้วเมื่อวันที่ 7 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งจากนั้นก็ได้มีการเกิดเหตุการณ์กับหลวงปู่แสงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยดูแล้วเป็นการกระทำความผิดกฎหมายหลายข้อหา เพราะหมอปลา ภรรยา ทีมงานและสื่อมวลชนที่บุกเข้าไปอย่างนั้นเป็นการกระทำความผิดตามกฎหมายและพระธรรมวินัย ซึ่งวันนี้ได้มีการประกาศตัวเข้าร่วมเครือข่ายกับ นายอนันต์ชัย ชัยเดช ทนายความชื่อดัง มาเป็นทนายกองทัพธรรม และได้เข้ามาแจ้งความในวันนี้ในฐานะพุทธศาสนิกชน โดยได้แจ้งข้อกล่าวหา ดังนี้
1.ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 362 มาตรา 364 มาตรา 365 และมาตรา 210
2.พรบ.คอมพิวเตอร์ 2560 นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ
- พรบ.คณะสงฆ์ พ.ศ 2505 มาตรา 44 ผู้ใดใส่ความคณะสงฆ์ไทย อันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียหรือความแตกแยก
นายศุภภัทร์พจน์ กล่าวต่อว่า วันนี้ทั้งพระภิกษุและบุคคลอีก 1 คนที่ปรากฏในคลิบ ไม่ได้มาแจ้งความเอาผิด เพราะได้ประชุมร่วมกันแล้วว่าอาจจะไม่เหมาะว่าพระภิกษุมาแจ้งความเอาความผิดกับฆราวาส วันนี้ตนเองจึงได้เดินทางมาแจ้งความในคดีอาญา เพื่อให้มีการตรวจสอบคณะทีมงานของหมอปลาและผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์วันนั้นทั้งหมดทุกคนที่ปรากฏในคลิบ ซึ่งจะให้ทางพนักงานสอบสวนเชิญมาสอบปากคำทั้งหมดเพื่อดูว่าใครเข้าข่ายผิดกฎหมายในมาตราใดบ้าง ซึ่งความเหมาะสมในคลิบก็ดูแล้วไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ โดยตอนนี้อาจจะมีการเดินทางรับเรื่องร้องเรียนและแจ้งความเอาความผิดกับพฤติกรรมที่ปรากฏในทุกคลิบด้วย แต่ขอหารือกันอีกครั้ง
“จากการดูคลิบที่มีการโพสต์ในเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 7 เมษายน เราดูแล้วไม่สบายใจและเป็นการเข้าไปจู่โจมแบบและมีการคุมคามกดดันซึ่งเป็นลักษณะที่เข้าข่ายผิดกฎหมายและไม่พบมีการกระทำความผิด ซึ่งพบว่าเป็นสาวประเภท 2 อยู่และมาดูแลทำความสะอาดให้ ซึ่งก่อนหน้ามีพระลูกวัดได้มีการลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว ซึ่งส่วนนั้นเป็นอำนาจของพนักงานสอบสวนที่จะเชิญมาสอบปากคำต่อไป ซึ่งตอนนี้ผมได้ประสานกับทนายอนันต์ชัย ไชยเดช เพื่อเข้าร่วมงานในฐานะทนายกองทัพธรรม โดยจะรับดำเนินการทั้งการช่วยเหลือและตรวจสอบเรื่องต่างๆ โดยจะมีการประสานงานกันเป็นกระบวนการ วัดต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบก็สามารถประสานและแจ้งข้อมูลให้เราไปช่วยเหลือโดยไม่มีค่าใช้จ่าย” นายศุภภัทร์พจน์ กล่าว
ด้านนายประดับ โพธิการจนวัตร ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า จากกสถานการณ์นี้เรื่องเกิดเมื่อวันที่ 7 เมษายน ที่ผ่านมาตนเองเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง โดยจากการตรวจสอบพบว่า สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครปฐม ได้ทำการสอบสวนทันทีและได้รายงานไปที่ต้นสังกัดแล้วก่อนหน้า ซึ่งตอนนี้จะได้มารวบรวมข้อมูลว่าพระ วัด ได้รับผลกระทบอย่างไร มีอะไรที่สามารถจะดำเนินการอำนวยความสะดวกได้บ้าง
“จากเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ถือว่าเป็นกรณีตัวอย่างให้เห็นว่า การที่เราจะอยู่ร่วมกันในสังคม โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับวัด พระพุทธศาสนา เป็นเรื่องละเอียดอ่อน อยากจะขอร้องว่าหากเราเห็นพระหรือเห็นว่าออกนอกลู่นอกทางก็ดึงมาเข้าสู่ระบบ อย่าไปดำเนินการเองซึ่งจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีกับเด็กและเยาวชน ซึ่งต้องคิดให้มาก ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ประสานกับ กอ.รมน. จังหวัด เพื่อจะดำเนินการ ซึ่งขอวอนทุกภาคส่วนให้มาร่วมมือกันผลักดันให้พระพุทธศาสนาเป็นที่เชื่อมั่นของสังคมต่อไป” กล่าวปิดท้าย
ทั้งนี้การเข้าแจ้งความดังกล่าว เป็นที่จังหวัดนครปฐมถือว่าเป็นคดีแรกที่ทนายกองทัพธรรม ได้มีการเข้าแจ้งความเอาความผิดกฎหมายอาญา หลังจากที่เกิดประเด็นในกรณีหลวงปู่แสง ซึ่งพฤตติกรรมของหมอปลา พร้อมพวก ที่วัดในจังหวัดนครปฐม คล้ายกับกรณีของหลวงปู่แสง ซึ่งมีหมอปลา ทีมงาน ยูทิวเบอร์ และสื่อมวลชนหลายคนใช้กล้องและเอาไมค์ จ่อสัมภาษณ์ซึ่งที่จังหวัดนครปฐม เป็นการบุกเข้าไปในยาววิกาล รวมถึงมีการจี้ประเด็นรวมไปถึงเจ้าอาวาสวด้วย โดยยังปรากฏนักข่าวสาวคนเดิมที่เป็นประเด็นถูกต้องสังกัดสังหยุดการทำงานอยู่ในวันดังกล่าวด้วยเช่นกัน
ปนิทัศน์ มามีสุข นส.ปณิดา มามีสุข จ.นครปฐม