“รองฯสุรเชษฐ์ “เผย ผบ.ตร.มอบให้ดูแลการชันสูตรศพทหารเรือเสียชีวิตเหตุ ร.ล.สุโขทัยอับปาง
เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 เวลา 19.00 น. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.)เปิดเผยว่าได้รับมอบหมายจาก พล.ต.อ.ดำรงศักดิฺ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ( ผบ.ตร.)ให้กำกับดูแลและควบคุมการปฎิบัติในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.)ที่รับผิดชอบสำนวนการสอบสวนและสำนวนการชันสูตรพลิกศพเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเลประจวบคีรีขันธ์ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและสูญหายหลายราย โดยวันนี้ได้สั่งการให้มีการตั้งศูนย์ปฎิบัติการส่วนหน้า หรือ ศปก.ตร.ที่มูลนิธิสว่างฯ อ.บางสะพาน จว.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้นำทีมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน(พฐ.)รวมถึงแพทย์นิติเวช รพ.ตำรวจและผู้เชี่ยวชาญกว่า 30 นาย มาประจำการเพื่อทำการชันสูตรและตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลของกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่เสียชีวิต ส่วนที่ต้องมีการตั้ง ศปก.ส่วนหน้าและนำกำลังจากส่วนกลางเข้ามาเนื่องจากกำลังในพื้นที่ไม่เพียงพอเพราะมีผู้เสียชีวิตรายหลาย จึงต้องเร่งดำเนินพิสูจน์ยืนยันตัวตนตามขั้นตอนให้เร็วและไม่ให้เกิดความล่าช้า ซึ่งลักษณะการทำงานของศปก.ส่วนหน้าฯจะดำเนินการลักษณะเดียวกับเหตุการณ์สึนามิ ยืนยันว่าขั้นตอนถูกอย่างมีความถูกต้องและรวดเร็วแน่นอน
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวด้วยว่าจากเดิมตนเองจะลงพื้นที่ในวันนี้(21ธ.ค.)แต่เนื่องจากติดภารกิจอื่นแต่จะลงพื้นที่เพื่อมาติดตามการทำงานที่ศปก.ส่วนหน้าอีกครั้งส่วนหน้าในวันเสาร์ที่จะถึงนี้หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ด้าน พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือเปิดเผยว่า สำหรับการปฏิบัติการในการค้นหาและช่วยเหลือ กำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ในวันนี้ ทาง ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือภาคที่ 1 จัดเรืออากาศยานของกองทัพเรือและกองทัพอากาศ รวมถึงศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ตลอดจนหน่วยงานอื่นๆ เข้าร่วมในการค้นหา ซึ่งพื้นที่ในการปฏิบัติการโดยคำนวนจากทิศทางของกระแสน้ำและกระแสลมรวมทั้งบริเวณที่ตรวจพบและช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยล่าสุด นำมาพิจารณาพื้นที่ที่เป็นไปได้ว่ากำลังพลที่เหลือจะอยู่ตรงบริเวณดังกล่าว โดยในวันนี้ ได้มุ่งเน้นเส้นทางทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ในระยะ 40 ไมล์ทะเลจากจุดเรือจมโดยแบ่งพื้นที่ปฏิบัติการออกเป็น 11 พื้นที่ ปัจจุบันมีเรือในพื้นที่จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย เรือหลวงกระบุรีรับผิดชอบพื้นที่ 6 และ 7 เรือหลวงนราธิวาสรับผิดชอบพื้นที่ 9 เรือหลวงนเรศวร รับผิดชอบพื้นที่ 10 และ 11 นอกจากนั้นในวันนี้กองทัพเรือได้ส่ง เรือหลวงตากสิน เข้าพื้นที่ เพื่อเสริมกำลังในการค้นหา ในขณะที่ ศรชล. ได้จัดเรือตรวจการชายฝั่งเข้าร่วมในการค้นหา โดยเฉพาะในพื้นที่ตามแนวชายฝั่งพร้อมกับได้จัดกำลังเสริมประกอบด้วย UAV เพิ่มในการค้นหานอกจากนั้นในส่วนของ ศรชล. ได้มีการประสานไปยังสมาคมเรือสินค้าแจ้งให้เรือที่เดินทางในเส้นทางต่างๆ ช่วยตรวจสอบและให้การช่วยเหลือกำลังพลที่อาจพบในพื้นที่เดินเรือ ซึ่งปัจจุบันยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่มเติมแต่อย่างใด
สรุปยอดกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงผู้ที่ยังคงสูญหาย
รายชื่อกำลังพลที่สูญหาย รวมทั้งสิ้น 23 นาย
- ว่าที่ นาวาตรี พลรัตน์ สิโรดม
- จ่าเอก ไพร ร่วมญาติ
- พันจ่าเอก จิราวัฒน์ เจริญศิลป์
- จ่าเอก บุญเลิศ ทองทิพย์
- จ่าเอก ชูชัย เชิดชิด
- จ่าโท ธวัชชัย สาพิราช
- จ่าโท สหรัฐ อีสา
- จ่าตรี นพณัฐ คำวงศ์
- จ่าตรี สถาพร สมเนื้อ
- จ่าตรี ศราวุธ นาดี
- จ่าตรี ศุภกิจ ทิวาลัย
- จ่าตรี โสภณ วงษ์สนิท
- จ่าตรี สิริธิติ งามทอง
- พลทหาร วรพงษ์ บุญละคร
- พลทหาร อับดุลอาชีด มะแอ
- พลทหาร สุทธิพงษ์ หงส์ทอง
- พลทหาร จำลอง แสนแก
- พลทหาร ทวีศักดิ์ แซ่เชียว
- พลทหาร จิราวัฒน์ ธูปหอม
- พลทหาร ปรีชา รักษาภักดี
- พลทหาร ชลัช อ้อยทอง
- พลทหาร ชัยชนะ ช่างวาด
- พันจ่าเอก คุณากร จริยศ
รายชื่อกำลังพลที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล รวมทั้งสิ้น 18 นาย
- ว่าที่ เรือโท ธีระศักดิ์ รัฒยา
- พันจ่าเอก สามารถ เที่ยงพูลโภค
- พันจ่าเอก ธวัชชัย เตระวัตร
- พันจ่าเอก นัทธี นาคมณี
- พันจ่าเอก ธันวา คันทรง
- พันจ่าเอก สมศักดิ์ สิทธิทูล
- จ่าเอก กิระศักดิ์ ชำนาญนอก
- จ่าเอก พัฒนพงษ์ พลพิมาย
- จ่าเอก อัษฎา เสกรัมย์
- จ่าเอก ชำนาญ ครุฑเครือ
- จ่าเอก สนธยา แก้วโพธิ์
- จ่าเอก พรชัย รอดเรียง
- จ่าเอก สมคิด สากล
- จ่าโท ภัทราวุธ มาลาม
- พลทหาร ทะนงศักดิ์ เล็งสอน
- พลทหาร องอาจ ประจงกลาง
- พลทหาร วิชัย ฆะระบุตร
18.พลทหาร ชนัญญู แก่นศรียา
รายชื่อกำลังพลที่กลับบ้านแล้ว รวมทั้งสิ้น 58 นาย
- นาวาโท พิชิตชัย เถื่อนนาดี
- เรือเอก อัครพัชร์ คลังทรัพย์
- เรือโท ภัทร์ณวัฒน์ พิริยะพงษ์พันธ์
- เรือโท สายันต์ กิจเกียรติ์
- เรือโท อภิมุข กลิ่นลำดวน
- พันจ่าเอก เสริม ศรีสมอ
- พันจ่าเอก ไพรวัลย์ เกตุรักษา
- พันจ่าเอก พงศ์พิศนุ เขตตินนท์
- พันจ่าเอก วรรธนดล จันทร์หอม
- พันจ่าเอก วิโรจน์ จิตต์มั่นคง
- พันจ่าเอก สรายุทธ วรรธนะอมร
- พันจ่าเอก สุวิทย์ สำโรงลุน
- พันจ่าเอก อนุชา ศรีบุญราช
- พันจ่าตรี บุญญรัตน์ สีลานันท์
- พันจ่าตรี พงษ์นเรศ ทองพา
- จ่าเอก จิระศักดิ์ ลอยวิเวก
- จ่าเอก ฐาปกรณ์ วันดี
- จ่าเอก ณัฐรินทร์ คำลือชา
- จ่าเอก นิธิกร บุตรวัน
- จ่าเอก พิชญุญธ์ พรมกล่ำ
- จ่าเอก มนตรี วันทะสีมา
- จ่าเอก วิทยา องศาวัฒน์
- จ่าเอก สิทธิกร พันธ์ประสิทธิเวช
- จ่าเอก สุทธิพงษ์ ก่ำมา
- จ่าเอก สุพรรณ์ งามตา
- จ่าเอก ทิวา แสงสี
- จ่าเอก สุวัฒน์ พิภพ
- จ่าเอก ชัชวาลย์ สุภาภรณ์
- จ่าโท ธฤตวัน การะศรี
- จ่าโท ภาณุพงษ์ บุญแก้ว
- จ่าโท วรเศรษฐ์ ใบปัว
- จ่าโท อภิธา อินอนันต์
- จ่าโท รัชชานนท์ จันทรขจร
- จ่าตรี พชร บุญโญปกรณ์
- จ่าตรี พิตรพิบูล ทรงเดช
- จ่าตรี ภัครพล กรดจำนง
- จ่าตรี สรวิศิษฏ์ เพชรนอก
- จ่าตรี สรวิชญ์ หวังเสียวกลาง
- พลทหาร กมล โชคสวัสดิ์
- พลทหาร คมกฤช ขจรศิริ
- พลทหาร ฉัตรมงคล เรืองวังทอง
- พลทหาร นคเรศ ภูโปร่ง
- พลทหาร พีรพล สมพงษ์
- พลทหาร ศุภมัย หลาบสุภา
- พลทหาร สมภพ ภารเจิม
- พลทหาร สุรพล ระกังขา
- พลทหาร อภิสิทธิ์ ทองชัย
- พลทหาร ภาณุเดช อินทร์ฉาย
- พลทหาร เมธา โพธิ์สำนัก
- พลทหาร ธันวา ศรีมงคล
- พลทหาร จักรกฤษ นาทอง
- พลทหาร อาทิตย์ วิไลวาส
- พลทหาร ณัฐวัฒน์ ฤกษ์ดี
- พลทหาร อมตะ อุณหพันธ์
- พลทหาร ศราวุธ อนุรักษา
- พลทหาร คีตณัฎธุ์ นิมมานสมัย
- พลทหาร ธีรวัฒน์ บุญไสย์
- พลทหาร บุคขอรีย์ หมัดมี
ในส่วนของร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 6 นาย จากผลการพิสูจน์อัตลักษณ์ ประกอบด้วย
- เรือโท สามารถ แก้วผลึก
- พันจ่าเอก สมเกียรติ หมายชอบ
- พันจ่าเอก อัชชา แก้วสุพรรณ์
- พันจ่าเอก อำนาจ พิมที
- จ่าเอก จักรพงค์ พูนผล
- พลทหาร อัครเดช โพธิ์บัติ โดยผู้เสียชีวิตทั้ง 6 นายได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ โดยในวันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2565 กองทัพเรือจะนำกำลังพลที่เสียชีวิตและพิสูจน์อัตลักษณ์แล้วจำนวน 6 รายเดินทางกลับอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดยเครื่องบิน C-130 ของกองทัพอากาศ จากกองบิน 5 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีกำหนดเดินทางถึงสนามบินอู่ตะเภา ในช่วงบ่าย ซึ่ง พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือจะเป็นประธานในพิธีรับกำลังพลที่เสียชีวิต โดยพิธีจะเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับอย่างสมเกียรติ สำหรับกำลังพลผู้เสียชีวิต 6 รายนี้ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้อยู่ใน พระบรมราชานุเคราะห์ โดยตั้งบำเพ็ญกุศล ฯ กิจการฌาปนสถานกองทัพเรือ สัตหีบ
ต่อข่าว พิสูจน์อัตลักษณ์กำลังพลเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปางครบ 6 นายแล้ว แพทย์นิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ สันนิษฐานเบื้องต้น กำลังพลทั้ง 6 นาย เสียชีวิตเพราะ “ขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำ”
วันนี้ (21 ธ.ค.2565) เวลา 19.30 น. กองทัพเรือ แพทย์นิติเวช และศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับกำลังพลผู้เสียชีวิตจากเหตุเรือหลวงสุโขทัยอับปาง ที่มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน
พ.ต.อ.กิตติภพ ชมภูนุช รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้เก็บตัวอย่างลายนิ้วมือมาเปรียบเทียบเพื่อยืนยันตัวบุคคล ล่าสุด พิสูจน์อัตลักษณ์ได้แล้วทั้ง 6 นาย ได้แก่ พ.จ.อ.สมเกียรติ หมายชอบ, จ.อ.จักรพงค์ พูลผล, ร.ท.สามารถ แก้วผลึก, พ.จ.อ.อัชชา แก้วสุพรรณ์, พลฯอัครเดช โพธิ์บัติ และ พ.จ.อ.อำนาจ พิมที ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้ง 6 นาย ทางญาติจะรับไปดำเนินการตามประเพณีต่อไป
ด้าน พ.ต.อ.พญ.ณปภัช ณัฏฐสุมน นายแพทย์ (สบ.5) หัวหน้ากลุ่มงานตรวจพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับบุคคล สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ระบุว่า กระบวนการตรวจสอบสามารถตรวจเก็บลายนิ้วมือได้ทั้ง 6 นาย แต่หลังจากนี้อาจมีการเน่าเปื่อยมากขึ้นซึ่งการพิสูจน์อัตลักษณ์ก็อาจมีขั้นตอนมากขึ้น โดยปกติแล้ว จะใช้เวลา 3-7 วันในการเก็บตัวอย่าง หลังได้ผลมา จะเปรียบเทียบกับญาติ และออกผลมาว่าตรงหรือไม่ ซึ่งการตรวจพิสูจน์ขึ้นอยู่กับตัวอย่างด้วย
สำหรับสภาพร่างของกำลังพลนั้น บางนายสามารถจำหน้าได้ บางนายความเน่าเปื่อยค่อนข้างมาก แต่ลายนิ้วมือยังตรวจได้ ส่วนดีเอ็นเอตรวจได้ทั้งจากฟันและกระดูก
สาเหตุการเสียชีวิตของทหารทั้ง 6 นาย เบื้องต้น สันนิษฐานว่า เป็นการขาดอากาศหายใจจากการจมน้ำทั้งหมด
ชี้แจงปมรายชื่อผู้เสียชีวิต-สูญหายคลาดเคลื่อน
ขณะที่ พล.ต.ต.กำธร อุ่ยเจริญ ผบก.ศพฐ.7 ระบุว่า กระบวนการตรวจพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล จะตรวจจากดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ ลายนิ้วมือแฝง และข้อมูลแวดล้อมก่อนจะนำข้อมูลทั้งหมดมารวบรวม แล้วพิสูจน์กับฐานข้อมูลที่เก็บไว้ และเก็บจากญาติที่เข้ามา ซึ่งเป็นญาติสายตรง พ่อ แม่ และลูก มายืนยันอีกครั้ง
ในกระบวนการพิสูจน์ ทั้ง 6 นาย ใช้ลายนิ้วมือแฝง มาตรวจเปรียบเทียบกับกรมการปกครอง เทียบกับในระบบ ซึ่งกรณีนี้สามารถยืนยันได้ว่าเป็นรายใด แล้วจะมีการรับรอง และออกหนังสือรับรองการตาย และใบมรณบัตรต่อไป
การนำร่างเข้ามา มีขั้นตอนในการทำประวัติ ถ่ายรูป พิมพ์ลายนิ้วมือ หากร่างเน่าเปื่อยจะใช้เทคนิคพิเศษ โดยแพทย์ทางนิติเวชจะผ่าอีกครั้ง แล้วเก็บดีเอ็นเอ ส่วนผู้สูญหายอีก 23 นายทางกองทัพเรือได้พยายามติดต่อญาติให้เข้ามาเพื่อเก็บดีเอ็นเอไว้ก่อนด้วยเช่นกัน
สำหรับกรณี พ.จ.อ.สมเกียรติ หมายชอบ ที่มีกระแสข่าวความคลาดเคลื่อนเรื่องรายชื่อนั้น เบื้องต้น ไม่ได้ติดตามข่าวจึงไม่ทราบกรณีที่เกิดขึ้น แต่จะขอไปตรวจสอบอีกครั้ง แล้วจะมารายงานต่อไป
ทั้งนี้ กระบวนการตรวจสอบอัตลักษณ์เจ้าหน้าที่ใช้ฐานข้อมูลของผู้สูญหายทั้งหมด ไม่ใช่เฉพาะผู้เสียชีวิต 6 นายเท่านั้น เมื่อนำมาเปรียบเทียบแล้วพบว่าเป็น 6 นายที่ปรากฏรายชื่อออกมา แต่ก่อนหน้านี้อาจจะมีการดูแล้วประเมินด้วยสายตาในเชิงกายภาพเท่านั้น หลังจากนี้จะมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น







