ผู้กำกับบางบัวทองชี้แจ้งกรณี วัยรุ่นขับจยย.ประกบยิง แม่โวยพึ่งพาตร.ไม่ได้ต้องไปขอกล้องวงจรปิดเอง

ผู้กำกับบางบัวทองชี้แจ้งกรณี วัยรุ่นขับจยย.ประกบยิง แม่โวยพึ่งพาตร.ไม่ได้ต้องไปขอกล้องวงจรปิดเอง

นนทบุรี วันที่ 6 ธ.ค.2565 เมื่อเวลา 10.00น ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สภ.บางบัวทอง พ.ต.อ. พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง กล่าวว่า เอาเป็นว่าผมขอโทษก่อน ขอโทษเรื่องการสื่อสารที่ยังไม่ได้สื่อสารให้ผู้เสียหายมากพอสมควร แต่เหตุการณ์นี้เกิดเมื่อวันที่ 30 พ.ย. เรารู้ตัวคนร้ายเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. ตอนกลางคืนรู้ในทางสืบสวนรู้ว่าคนร้ายเป็นใคร หลังจากนั้นขั้นตอนในสำนวนก็เดินตามปกติ ไปทำการเก็บกล้อง ไปดูวัตถุพยาน ตรวจสถานที่เกิดเหตุ เพียงแต่เรื่องนี้ขาดการประชาสัมพันธ์ แล้วก็ผู้เสียหายก็โทรไปถามนักสืบ ซึ่งนักสืบก็ไม่กล้าพูดอยู่แล้วถ้าไม่ได้รับคำสั่งจากผมที่จะเปิดเผยว่าตัวคนร้ายเป็นใคร แต่ในฐานะผู้กำกับผมก็ยืนยันตรงนี้ว่าผมรู้ตัวคนร้ายแล้ว และอยู่ในขั้นตอนการออกหมายจับ เด็กตำรวจไม่มีวันที่เกิดเหตุเราเข้าค้นบ้านผู้ต้องสงสัยห่างจากเวลาที่เกิดเหตุ 2ชั่วโมง เราเข้าทันที่เพราะว่าเราหลังจากที่เกิดเหตุเรารู้เลย ว่าตั้งแต่วินั้นว่าใครทำ เพราะว่าตามสายข่าว ตามตำรวจเราที่ลงไปอยู่ในชุมชนก็มีคนโทรมาแจ้ง เราก็เข้าวันนั้นเลย ก็เป็นข้อยืนยันได้ว่า เด็กตำรวจ หรือ สายตำรวจ ไม่มี แต่กลุ่มผู้ให้ข่าวเรามันก็มีทั้งคนดีและคนไม่ดี เราจะไปปกป้องแบบนั้นไม่ได้ เพราะเรามีโครงการหลายโครงการที่เป็นประชาชนมาร่วมมือกับเรามีเหตุการณ์ก็จะแจ้งข่าวเราคดีนี้ก็เป็นหนึ่งในคดีที่เขาแจ้งเรามาว่าใครทำ แจ้งหลังจากเกิดเหตุ 1 ชม. แล้วเข้าค้นบ้านทันที เมื่ออข้าค้นบ้านเก็บตำหนิรูปพรรณเก็บอะไรไว้ทั้งหมดเพื่อมาเทียบกับกล้องวงจรปิด เมื่อเมียบกับกล้องวงจรปิดและสอบปากคำผู้เสียหายก็ตรงกัน ขั้นตอนนับจากนี้ไปคือออกหมายจับเพียงแต่วันนี้ยังเปิดชื่อไม่ได้ เพราะว่าศาลยังไม่ออกหมายจับให้แต่ยังไงขอให้ทำคว่มเข้าใจว่าเหตุเกิด 30 พ.ย. วันนี้วันที่ 6 ธ.ค. เรารู้ตัวผู้กระทำความผิดแล้ว ผมว่าไม่ช้า

น.ส.เกสรา กวดนอก อายุ 33ปี แม่น้องไปรท์ กล่าวว่า ตอนนี้ก็รู้สึกสบายใจ แล้วก็โล่งใจขึ้น เพราะทางตำรวจได้มาชี้แจงแล้วในวันนี้ ในส่วนที่เรื่องเข้าใจผิดกัน ก็ต้องขอโทษด้วยเพราะว่าอาจจะผิดพลาดด้วยการสื่อสาร และก็ทางตำรวจอาจจะมีข้อมูลที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ ทั้งนี้ทางเราอาจจะเข้าใจผิดเองที่เราไม่เข้าใจ ทำให้เกิดเรื่องกันทั้งที่ไม่ได้คุยกัน ก็ต้องขอโทษทางตำรวจด้วย แต่ ณ วันนี้ก็รู้สึกสบายใจหายห่วงแล้ว หลังจากนี้ก็ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินคดีต่อไป

รพ.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี จากกรณีเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 14.20 น.เกิดเหตุบริเวณ ถนนบางกรวยไทรน้อย ปากทางเข้าโรงเเรมสมูท อ.บางบัวทอง วัยรุ่น3คนกำลังขี่รถไปโรงเรียน แต่ถูกคู่อริขับจยย.ประกบยิง ทำให้มีคนถูกยิง 2 คน ทราบชื่อคือ นาย กนกชัย หรือน้องไบรท์ กวดนอก อายุ 16 ปี ถูกยิงเข้าที่บริเวณสะโพกข้างขวา กระสุนฝังใน อีกคนคือ นาย กิตติภูมิ หรือน้องภูมิ เจนวรพจน์ อายุ16 ปี ถูกยิงเข้าที่นิ้วกลางมือขวา นิ้วเกือบขาด ก่อนจะขี่รถจยย.หนีเข้าซอยเพื่อไปขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี ต่อมา น.ส.เกสรา กวดนอก อายุ 33 ปี แม่ของ นาย กนกชัย ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตร.สภ.บางบัวทองแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้

น.ส.เกสรา กวดนอก อายุ 33 ปี แม่น้องไบรท์ เล่าว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา ลูกชายตนมาทำเรื่องจบการศึกษาที่โรงเรียนบางบัวทอง ต่อมาจะไปส่งเพื่อนที่เทคนิคนนท์ โดยขี่รถจยย.ซ้อน3กันไป โดยมีน้องริวเป็นคนขี่ ลูกของตนหรือน้องไบรท์นั่งกลางและน้องภูมินั่งหลังสุด พอมาถึงจุดเกิดเหตุ ได้มีวัยรุ่นสวมหมวกกันน็อคเต็มใบขี่รถจยย.ยี่ห้อยามาฮา รุ่นN-Max สีดำ ซึ่งขี่อยู่ด้านหน้าเริ่มชลอรถ ลูกของตนเห็นว่าผิดปกติจึงได้ยอกกับเพื่อนๆพร้อมกับชี้ไปที่รถคันดังกล่าวว่า คันข้างหน้าแปลกๆน่าจะมีอาวุธ ให้ขับช้าๆ แต่อยู่ๆก็มีวัยรุ่นอีกคนสวมเสื้อสีเขียว ไม่สวมหมวกกันน็อคขี่รถจยย.ยี่ห้อเวฟ สีขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ขี่มาประกอบด้านข้างก่อนจะใช้อาวุธปืน คาดว่าน่าจะเป็นปืนปากกายิงใส่ 1 นัด กระสุนเข้าที่นิ้วกลางมือขวาน้องภูมิ ทะลุไปโดนน้องไบรท์เข้าที่สะโพกด้านขวา กระสุนฝังอยู่ด้านใน น้องริวคนขับไม่ได้รับบาดเจ็บ ก่อนจะขับรถหนีเข้าไปขอความช่วยเหลือจากพลดีในโรงแรมสมูท ตอนแรกลูกของตนไม่รู้ตัวว่าโดนยิงเป็นห่วงแต่เพื่อน สักพักเริ่มรู้สึกว่ามีเลือดไหลพอก้มลงไปดูเห็นตัวเองโดนยิงก็ทรุดเลย ตอนนี้น้องไบรท์รักษาตัวอยู่ที่ รพ.บางบัวทอง ส่วนน้องภูมิรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บางใหญ่ อาการล่าสุดของน้องไบรท์ตอนนี้ ลำไส้ฉีดขาด มีเลือดคลั่งในช่องท้อง แต่หมอผ่าตัดเอากระสุนออกแล้ว อาการดีขึ้นจนเมื่อสองวันที่แล้วน้องมีอาการปอดแฝ่บเนื่องผลข้างเคียงจากการผ่าตัด ต้องให้อ๊อกซิเจนทางจมูก หลังจากที่ได้คุยกับลูกก่อนหน้านี้คิดว่าน่าจะเป็นการยิงผิดตัวมากกว่า

น.ส.เกสรา เล่าต่อว่า ต่อมาตนเข้าไปแจ้งความ ที่ สภ.บางบัวทอง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตร.กลับไม่ติดตามเรื่องให้เท่าที่ควรคือ ตนจะไปขอดูกล้องวงจรปิดตรงจุดเกิดเหตุแต่ทางเจ้าหน้าที่ตร.บอกว่าจะจัดการให้ และจะต้องมีใบขอดูกล้องจากเจ้าหน้าที่ตร.ถึงจะสามารถดูได้ แต่จากที่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ตร.ได้รับคำตอบว่า กล้องวงจรปิดที่ 7-11 เขาก็ไม่ให้ดู มีหรอว่าตำรวจไปขอเขาจะไม่ให้ ส่วนกล้องของเทศบาลตำรวจก็บอกกับตนว่ากล้องเสียอีก ตนเลยโทรไปสอบถามกับทางเทศบาลปรากฏว่าทางเทศบาลแจ้งว่าไม่ได้เสีย ให้เข้ามาขอดูได้เลย สร้างความสงสัยให้กับตนมาก คือตนต้องเป็นคนเดินเรื่องเองทั้งหมด ทั้งไปขอกล้องจากร้านที่อยู่บริเวณนั้น ขนาดวันนี้โทรคุยกับเจ้าหน้าที่ตร.บอกจะเอาหลักฐานกล้องวงจรปิดเข้าไปให้ แต่ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ตร.กลับมาว่าวันนี้หยุด ทำให้ตนโมโหมากนี้คือการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจหรอ ขนาดลูกกระสุนที่ผ่าออกมาเพื่อที่จะใช้เป็นหลักฐานจนป่านนี้ยังไม่มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเก็บหลักฐานเลย