ปทุมธานี รวบแล้ว!คนร้ายใส่เสื้อกล้ามบุกชิงทองออโรร่า29 บาท จนมุมบ้านเมีย
เมื่่อเวลา 20.00 น.วันที่ 30 พฤศจิกายน 2565 จากกรณีคนร้ายควงอาวุธมีดจี้ชิงร้านทองออโรร่า เลขที่ 29/290 ถนนไสวประชาราษฏร์ คลองสี่ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี กวาดทองคำรูปพรรณจำนวน29 เส้นเส้นละ1บาท รวมมูลค่าความเสียหายกว่า870,000 บาทแล้วหลบหนีไปตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.อ.มนัสเวท ทองอิ่ม ผกก.สภ.คูคต พ.ต.ท.จิรพัฒน์ ศรีเดช รองผกก.สภ.คูคต พ.ต.ท.กัณตภณ ธนาธิปปิ่นสกุล รองผกก.สส.สภ.คูคต พ.ต.ท.กชกร ไทรศาศวัต สวป.สภ.คูคต พ.ต.ท.ภัทระ เหล่ามีผล สว.สส.สภ.คูคต ตำรวจสืบสวน สภ.คูคต และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน กก.สส.ภ.1 สามารถจับกุมคนร้ายเอาไว้ได้ทราบชื่อนายอิศเรศ จิตรสิงห์ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 88/213 ม.3 ต.ลำผักกูด อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี พร้อมของกลางสร้อยคอทองคำจำนวน 26 เส้น และรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีแดง-ขาว หมายเลขทะเบียน สพต 932 กรุงเทพมหานคร จับกุมได้ที่บ้านของภรรยาภายในซอยมิตรไมตรี 3 แขวงคลองสามวา เขตคลองสามวาตะวันออก กรุงเทพมหานคร
ด้านพ.ต.อ.มนัสเวท ทองอิ่ม ผกก.สภ.คูคต กล่าวว่าจากกรณีคนร้ายใช้อาวุธมีดจี้ร้านทองออโรร่า เลขที่ 29/290 ถนนสไวประชาราษฏร์คลองสี่ ต.ลาดสวาย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานีคนร้ายได้ทองคำรูปพรรณจำนวน29เส้นเส้นละ1บาท รวมค่าความเสียหายกว่า870,000บาทแล้วหลบหนีไป ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถตามจับกุมตัวคนร้ายเอาไว้ได้ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุขึ้นทางผบ.ตร. และผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรภาค 1 ผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ได้สั่งการให้ตามจับกุมคนร้ายให้ได้ ซึ่งทางผบก.สส.ภ.1 และเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนสภ.คูคต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกก.สส.ภ.จว.ปทุมธานี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนกก.สส.ภ.1 ได้ร่วมมือกันจับคนก่อเหตุเอาไว้ได้ ขณะนี้อยู่ในระหว่างขั้นตอนการสอบสวนผู้ต้องหา และสามารถยึดรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่นำไปใช้ในการก่อเหตุเอาไว้ได้ด้วย ส่วนสร้อยคำทองคำทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยึดได้จำนวน 23 เส้น ส่วนอีก 6เส้นนำไปจำนำและเอาเงินไปใช้หนี้ส่วนตัว คนร้ายทำงานรับจ้างทั่วไป ส่วนเหตุจูงใจนั้นคนร้ายได้มาดูลาดเหลาก่อน ซึ่งในร้านมีผู้หญิงอยู่แค่2 คน ส่วนการป้องกันนั้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งไปที่ผู้จัดการเขตแล้ว ซึ่งทางค้นร้ายได้ถอดไปทะเบียนออกก่อนมาก่อเหตุ เมื่อก่อเหตุเสร็จแล้วก็ใส่ป้ายทะเบียนกลับตามเดิม ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหา ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธโดยใช้ยานพาหะนะเพื่อสะดวกแก่การทำผิดหรือเพื่อพาทรัพย์นั้นไปหรือรับของโจร







