“รองต่อศักด์”พร้อม ปปง.ปปส.ยึดเครื่องบินเจ็ท “ตู้ห่าว”ตรวจหา DNA “ใครนั่งบ้าง ยึดทรัพย์ แล้ว 5 พันกว่าล้าน
30 พ.ย.65 ความคืบหน้าการยึดเครื่องบินของ “ตู้ห่าว” หรือ นายชัยณัฐร์ กรณ์ชายานันท์ เพื่อตรวจสอบ ซึ่งเครื่องบินอยู่ที่สนามบินบ่อฝ้าย อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล รองผบ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันตรวจยึดเครื่องบินของ ตู้ห่าว ตาม พ.ร.บ. มาตรการในการปราบปรามผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อมาตรวจสอบ หลังพบหลักฐานในเอกสารปรากฏชื่อ “ตู้ห่าว” เป็นผู้ถือหุ้นของบริษัท เเละเครื่องบินซื้อขายในนามชื่อบริษัทดังกล่าว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า จากการสืบสวนขยายผลรวบรวมพยายหลักฐานพบว่าเครื่องบินลำนี้มีชื่อบริษัทแห่งหนึ่ง เป็นเจ้าของ ซี่งมีความเชื่อมโยงกับนายตู้ห่าว เป็นกรรมการบริษัท และเป็น ผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วยเหตุนี้ทำให้เครื่องบินลำนี้เชื่อมโยงกับตู้ห่าว เมื่อเชื่อมโยงแล้วทางเจ้าหน้าที่ต้องทำการตรวจยึดไว้เพื่อตรวจสอบหาดีเอ็นเอ หาความเกี่ยวข้อง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ก่อนหน้านี้ เลขาธิการ ปปส. ได้ออกหนังสือคำสั่งยึดไว้ก่อนหน้านี้โดยใช้อำนาจ ปปส. ทรัพย์ดังกล่าวอยู่ในความควบคุมดูแลของปปส. โดยมอบหมายให้ผู้ตรวจการตรวจสอบทรัพย์สิน มาร่วมด้วย ซึ่งตำรวจร่วมกับทางปปส.ปปง.มาตรวจสอบหาหลักฐาน ตรวจหาดีเอ็นเอ และการใช้สุนัขดมกลิ่นเพิ่อหายาเสพติด ซึ่งจะตรวจสอบให้ได้ข้อมูลว่าใครที่นั่งเครื่องบินลำนี้บ้าง และนำผลตรวจซึ่งเป็นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบในสำนวนเพื่อให้ได้ความถูกต้องอย่างรัดกุม
“วันนี้ยึดทรัพย์กว่า 4 พันล้าน และรวมก่อนหน้านี้ที่มีการตรวจยึดทำให้ตอนนี้ยึดทรัพย์ไปแล้วกว่า 5 พันล้านบาท และจะรายงานเรื่องทรัพย์สินไปยังปปส.และปปง.ต่อไป” พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
ด้าน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ธุรกิจสีเทาเรามองว่าเหมือนภูเขาน้ำแข็ง เรามองยอดเขาแต่ใต้น้ำไปพัวพันหลายอย่าง พอเราขุดจะเห็นว่าอาชญากรรมทิ้งร่องรอยไว้ทั้งหมด ซึ่งได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ว่าเราทำตามพยานหลักฐาน ไม่ทำตามกระแสโซเซียล ถึงใครก็ว่าไปตามนั้น ไม่ถึงเราก็คืนความยุติธรรมให้กับเขา นี่คือสิ่งที่ทางผบ.ตร.และทีมงานทุกคนเน้น ถ้าเกิดเชื่อมโยงถึงกันก็ต้องรับสภาพทั้งนอมินีต้องขอเตือนเลย และคนที่คิดจะเป็นนอมินีว่า เป็นความผิดมีโทษจับจำคุก ในการถือทรัพย์สินแทนเขา
ยืนยันว่าตำรวจไม่ได้ทำงานล่าช้าแต่ทุกอย่างมีขั้นตอน รวบรวมพยานหลักฐาน เราทำต่อเนื่องไม่ได้หยุด ส่วนที่หลายฝ่ายบอกว่าเกี่ยวข้องกับการเมืองไหม ส่วนตัวยืนยันว่าการเมืองมาครอบงำการทำงานไม่ได้ ถ้าหากเป็นเรื่องการเมืองเกี่ยวข้องถึงใครก็ว่าไปตามพยานหลักฐาน ซึ่งขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจ ไม่มีมวยล้มแน่นอน










