ลูกสาวร้องกระทรวงยุติธรรม กรณีถูกรถส่ง น้ำแข็งเปิดประตูมาโดยรถจักรยานยนต์จนทำให้แม่เสียชีวิต
ช่วงบ่ายที่ผ่านมา นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด พร้อมด้วย นางสาวศิริน นกอยู่ ลูกสาวของผู้เสียชีวิต จากเหตุการณ์ที่นางสาวศิริน ขับขี่รถจักรยานยนต์ ในหมู่บ้านแต่ถูกลูกจ้างของร้านน้ำแข็งเปิดประตูชนกับรถจักรยานยนต์ทำให้เสียหลักล้มลง จนแม่ได้รับยาดเจ็บหัวกระแทกพื้นจนหมดสติ ก่อนที่ต่อมาจะพบว่ามีอาการเลือดคลั่งในสมองและเสียชีวิตในอีก 2 วันต่อมา โดยในวันนี้มีการเดินทางมาเข้าพบกับ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อทำเรื่องขอรับการช่วยเหลือจากกระทรวงยุติธรรม
โดยว่าที่ร้อยตรีธนกฤต ระบุว่าในเบื้องต้นหลังรับเรื่องวันนี้จะมีการสั่งการให้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาพิจารณาเงื่อนไขพร้อมประสานไปทางพนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการว่ามีการดำเนินการสั่งฟ้องไปในฐานความผิดใดหากเป็นการสั่งฟ้องโดยฐานที่ผู้ขับขี่ขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตก็จะถือว่าเข้าเงื่อนไข ในการรับเงินช่วยเหลือ ไม่เกิน 110,000 บาท ซึ่งคาดว่าในรายละเอียดจะสามารถพิจารณากรณีนี้ได้ไม่เกินสองสัปดาห์
รวมถึงจะสั่งการให้ทางทนายความของกระทรวงยุติธรรมช่วยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการฟ้องแพ่งได้ฐานละเมิดของผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่หรือนายจ้าง
ทางกระทรวงยุติธรรมยืนยันว่าทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันซึ่งหากใครทำผิดต้องรับโทษทางกฏหมายและต้องชดใช้ให้กับทางผู้เสียหาย พร้อมฝากถึงพี่น้องประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยทั้งของตนเองและผู้อื่นรวมถึงให้คอยหมั่นตรวจสอบ พ.ร.บ. ของรถตนเองว่ายังอยู่ในการคุ้มครองหรือไม่เพราะหากเกิดเหตุที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น พ.ร.บ. รวมถึงประกันภัยจะเข้ามาคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหายในคดีรวมถึงตัวผู้ขับขี่เองด้วย
ขณะที่ นานเอกภพ ระบุว่าสายไหมต้องรอดหลังได้รับการติดต่อมาจากทางผู้เสียหายก็ได้รับคำถามแรกว่าพี่จะสามารถช่วยหนูได้ไหมหลังจากที่รอมาห้าเดือนแต่ไร้ความคืบหน้า ตนเองขอยืนยันเช่นเดียวกับเลขานุการกระทรวงยุติธรรมว่าคนไทยทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายใครทำผิดต้องได้รับผิดแล้วทางสายไหมต้องรอดจะเป็นตัวกลางในการช่วยเหลือประสานงาน ในคดีนี้ ซึ่งจากการได้พูดคุยกับทางคู่กรณีผ่านทางรายการโหนกระแสก็ยอมรับว่ามีทิศทางไปในทางที่ดีขึ้นพร้อมฝากถึงพี่น้องประชาชนทุกคนให้ดูเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์เกี่ยวกับเรื่องของ พ.ร.บ. ของรถทุกคันรวมถึงความไม่ประมาทในการใช้รถใช้ถนนเพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นแลมีความสูญเสีย ในหลายครั้งผู้ที่เป็นผู้เสียหายจะได้รับความสูญเสียมากกว่าผู้ที่ประมาทด้านนางสาวศิริน ระบุว่าส่วนตัวรู้สึกว่าการที่ตนเองออกมาขอความช่วยเหลือจากทางสื่อรวมถึงสายไหมต้องรอดและกระทรวงยุติธรรมได้รับความสนใจจากทางคู่กรณีมากขึ้นหลังจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานานกว่าห้าเดือนตนเองไม่สามารถพูดคุยกับทางคู่กรณีได้และไม่มีวี่แววว่าจะมีทิศทางในการเจรจากันได้แต่เมื่อมีการร้องขอความช่วยเหลือกลับสามารถติดต่อทางคู่กรณีจนนำไปสู่ การเจรจาโดยมีกระทรวงยุติธรรมเป็นตัวกลางได้
ตนเองไม่รู้ว่าตลอดระยะเวลาห้าเดือนและคดีดำเนินการไปถึงขั้นนี้จะช้าหรือเร็วแต่เดินฐานะผู้เสียหายและผู้สูญเสียแม่และคนสำคัญในครอบครัวรู้สึกว่าระยะเวลาดังกล่าวผ่านไปด้วยความล่าช้าเพราะการสูญเสียในครั้งนี้นอกจากในเรื่องของเงินที่ต้องกระทบเกี่ยวกับเรื่องการทำมาหากินของทางครอบครัวยังส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของตนเองและสุขภาพร่างกายของพ่อหลังจากที่เสียแม่และต้องอยู่ในภาวะซึมเศร้าไม่สามารถไป แต่วันนี้จึงอยากขอขอบคุณทุกส่วนที่เกี่ยวข้องที่สามารถทำให้เรื่องของตนเองพอจะมีทางออกได้
