จากกรณีนายพงศกร จันทร์แก้ว หรือ อดีตพระกาโตะ นักเทศน์ชื่อดังที่ตกเป็นข่าวฉาวมีความสัมพันธ์กับสีกาตอง แม้จะลาสิกขาเพื่อยุติปัญหา แต่ว่ายังถูกเปิดโปงพฤติกรรมเพิ่มเติมเรื่องการนำเงิน 600,000 บาทจากบัญชีของวัดเพ็ญญาติ จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่ถูกระบุว่าจ่ายให้ “พระดอน” และ “สีกาตอง” เพื่อปกปิดข่าว ต่อมา “อดีตพระกาโตะ” ได้นำเงินจำนวน 600,000 บาท กลับมาคืนวัด ซึ่งกรณีดังกล่าวทางตำรวจ บก.ปปป. อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ตามที่ได้เคยมีการนำเสนอไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา วันที่ 9 พ.ค. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นคดีละเอียด อยู่ในความสนใจและเป็นที่จับตามองของสังคม เพื่อความรอบครอบในการดำเนินการตรวจสอบให้ครอบคลุมทุกมิติ และ เป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย จึงสั่งการให้ดำเนินการในรูปแบบของคณะทำงานตำรวจสอบสวนกลาง โดยมีตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และ ตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) เป็นหน่วยงานหลัก ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลหรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับพยานหลักฐาน รวมถึงข้อกฎหมายต่างๆ
รายงานข่าวแจ้งว่า จากแนวทางสืบสวน ประกอบข้อมูลพยานหลักฐานต่างๆค่อนข้างสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันว่า กรณี การแต่งตั้งอดีตพระกาโตะ เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดเพ็ญญาติ จ.นครศรีธรรมราช เป็นการแต่งตั้งในลักษณะไม่เป็นทางการ หรือ แต่งตั้งกันโดยภาระการ ไม่มีหนังสือการแต่งตั้ง ทำให้ไม่ถือว่าเป็นเข้าพนักงาน แต่ถึงแม้ว่าในทางกฎหมาย ตัวอดีตพระกาโตะ จะเป็นหรือไม่เป็นเจ้าพนักงานนั้น จากการกระทำดังกล่าวก็ถือว่ามีความผิดอยู่แล้ว เพราะไม่มีสิทธิ์ที่จะทำธุรกรรมเบิกถอนเงินของวัด ซึ่งอาจจะเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ทั้งนี้หากภายหลังเสร็จสิ้นขั้นตอนแต่งตั้งคณะทำงาน ทางชุดคลี่คลายคดีดังกล่าวก็จะเร่งออกหมายเรียก อดีตพระกาโตะ พร้อม บุคคลที่เกี่ยวข้องมาเข้าพบพนักงานสอบสวน เพื่อให้ปากคำในทันที นอกจากนี้ยังเตรียมเร่งดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดเพ็ญญาติ รวมถึง ตรวจสอบเส้นทางการเงินของอดีตพระกาโตะ อย่างละเอียดอีกด้วย เพื่อตรวจสอบว่านอกเหนือจากเงินจำนวน 6 แสนบาท ของวัดที่ถูกถอนออกไปจ่ายค่าปิดข่าวฉาวแล้วนั้น ยังมีการเบิกถอนไปใข้ส่วนตัว หรือ ผิดวัตถุประสงค์วัดอีกหรือไม่